COVID-19 ทำชาวมะกันลงทะเบียนเรียนวิทยาลัยชุมชนลดลง

COVID-19 ทำชาวมะกันลงทะเบียนเรียนวิทยาลัยชุมชนลดลง

สื่อสหรัฐฯเผยรายงานพิเศษผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อแวดวงการศึกษาของประเทศ โดยล่าสุดพบว่า การระบาดที่ยืดเยื้อกินเวลายาวนานกว่า 1 ปี ทำให้จำนวนเยาวชนและวัยรุ่นชาวมะกันเข้ามาลงทะเบียนเรียนกับทางวิทยาลัยชุมชนลดลงอย่างมาก

สำนักข่าวเอพี รายงานว่า วิทยาลัยชุมชน หรือ Community Colleges นี้เป็นสถานศึกษาทางเลือกที่เสนอหลักสูตรประกาศนียบัตร 2 ปี พร้อมด้วยโครงการฝึกอบรมสายอาชีพเป็นแนวทางในการศึกษาต่อสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมปลาย ทำให้วิทยาลัยชุมชนแห่งนี้มักเป็นทางเลือกที่วัยรุ่นชาวอเมริกันส่วนใหญ่เลือกลงเรียนเพื่อหวังเพิ่มพูนทักษะการทำงานใหม่ๆ

ข้อมูลจาก National Student Clearinghouse พบว่า จำนวนพลเรือนชาวมะกันที่เข้ามาลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัยชุมชนทั่วประเทศ นับตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2019 – 2020 ลดลงแล้ว 10%

แม้จะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะเป็นแนวโน้มที่สามารถคาดการณ์ได้เมื่อเกิดการระบาดของ COVID-19 โดยเหตุผลหลักที่ไม่สามารถลงทะเบียนเรียนได้ยังคงเป็นปัญหาทางการเงิน ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่นักเรียนอเมริกันส่วนหนึ่งเลือกที่จะดร็อปเรียนหรือเลื่อนแผนการสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของตนเอง

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของวิทยาลัยชุมชนกลับมีปัญหาที่หนักหน่วงยิ่งกว่า สาเหตุเนื่องมาจากด้วยความที่วิทยาลัยชุมชนมักเป็นทางเลือกของวัยรุ่น หรือผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือเด็กที่โตแล้ว ดังนั้น การในช่วงที่ต้องตกงานเพราะ COVID-19 การหางานทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเองจึงมีความสำคัญมากกว่า

ขณะเดียวกัน ถึงจะมีงานทำ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดที่ทำให้ต้องปรับหลักสูตรไปเรียนออนไลน์ ก็กลายเป็นอุปสรรคให้คนกลุ่มนี้เข้าเรียน เพราะความไม่พร้อมในเรื่องของอุปกรณ์การเรียน เวลา และสถานที่ รวมถึงยังไม่นับรวมกรณีที่คนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งเป็น single parents ที่จำเป็นต้องใช้เวลาเรียนออนไลน์กับลูกๆ ก่อน

Martha Parham รองประธานอาวุโสแห่งสมาคมวิทยาลัยชุมชนสหรัฐฯ (American Association of Community Colleges) กล่าวว่า ผู้ที่เข้ามาเรียนส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนที่ทำงานแล้วด้วยกันทั้งสิ้น การจัดหลักสูตรการเรียนการสอน และสนับสนุนให้เข้าเรียนในช่วงเวลานี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวด

ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ปัญหาทางการเงินเท่านั้นที่กระทบต่อการเรียน การระบาดของ COVID-19 ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้นักเรียนหลายคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวลจนต้องดร็อปเรียนเพื่อรักษาตัว

Stephanie Cruz Vazquez ตัดสินใจดร็อปเรียนแฟชั่นดีไซน์กับทาง Mesa Community College ใกล้เมืองฟีนิกซ์เป็นเวลา 1 ปี

Stephanie Cruz Vazquez ตัดสินใจดร็อปเรียนแฟชั่นดีไซน์กับทาง Mesa Community College ใกล้เมืองฟีนิกซ์เป็นเวลา 1 ปี หลังเผชิญความกดดันรอบด้านจากการระบาดของโควิด-19 จนทำให้เจ้าตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า

 

ที่ผ่านมา ในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มักจะลงทะเบียนเรียนกับทางวิทยาลัยชุมชน เพื่อฉวยโอกาสที่กำลังตกงานหรือว่างงานในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนสายงาน แต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับให้ผลที่สวนทางกันกับกระแสในอดีตที่เกิดขึ้น

 

กลายเป็นประเด็นปัญหาในกลุ่มผู้สนับสนุนที่มองว่า วิทยาลัยชุมชนเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยในการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้หาเลี้ยงตนเอง ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ เรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดงบสนับสนุนวิทยาลัยชุมชนที่มีอยู่ทั่วประเทศ ในฐานะอาวุธลับที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นคืนจากวิกฤต COVID-19 ได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ และเป็นไปอย่างยั่งยืน

 ทั้งนี้ ตามปกติแล้ว นักเรียนของวิทยาลัยชุมชน มักจะประสบปัญหากับการเข้าเรียนที่โรงเรียนอยู่แล้ว เพราะมีภาระรับผิดชอบที่มากกว่าแค่เรื่องเรียน ไม่วาจะเป็นการหาเงินจุนเจือครอบครัว จ่ายค่าเช่าบ้าน และจ่ายค่าเรียน

ข้อมูลจากวิทยาลัยชุมชนในเขต Maricopa County พบว่า จำนวนผู้ลงทะเบียนเรียนในปี 2020 เหลืออยู่เพียง 9,446 รายจากปี 2019 ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 10,978 ราย ซึ่งจากการโทรสอบถามติดตามนักเรียนที่ไม่มาลงทะเบียน ส่วนใหญ่ต่างระบุถึงความจำเป็นที่ต้องดร็อปเรียน ขณะเดียวกัน ก็ยังพบว่า มีนักเรียนของทางวิทยาลัยชุมชนอีกหลายรายต้องการความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ  เช่น อุปกรณ์การเรียน หรือ อาหาร ทำให้ทางวิทยาลัยชุมชนในบางแห่ง ขยายโครงการทุนช่วยเหลืออาหารกลางวันแก่นักเรียนของทางวิทยาลัย ซึ่งกลายเป็นแรงจูงใจให้ชาวอเมริกันส่วนหนึ่ง เดินหน้าเรียนต่อให้จบหลักสูตร รวมถึง Dinora Torress คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุ 29 ปี ที่ต้องดูแลลูกสาววัยซน 4 คน ยอมรับว่า โครงการอาหารกลางวันเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเรียนต่อให้จบหลักสูตรการบัญชีของตน

Dinora Torress คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุ 29 ปี

ด้านผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษา แสดงความหวังว่า อัตราการลงทะเบียนที่ลดลงนี้จะเป็นสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น และจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัยชุมชนจะเพิ่มขึ้นเมื่อสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย และนักเรียนมีงานทำ เพราะการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นนี้ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างรายได้และความมั่นคงทางการเงินในอนาคตของบุคคลคนหนึ่งได้ในระยะยาว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ลงทะเบียนเรียนวิทยาลัยชุมชนลดลงยังสะท้อนให้เห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยข้อมูลจาก National Student Clearinghouse พบว่านักเรียนชาวอเมริกันผิวสีและชนเผ่าชาวอเมริกันพื้นเมือง เป็นกลุ่มที่ขาดการลงทะเบียนเรียนมากที่สุดที่ 13% ขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายสเปนและชาวอเมริกันผิวขาวลดลง 10% ส่วนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียลดลง 5%

 

ที่มา : Enrollment at US community colleges plummets amid pandemic