ในชั่วโมงนี้เชื่อว่าคนไทยทั่งประเทศรู้จัก โรงเรียนหมอนทองวิทยา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
ทีมฟุตบอลโนเนมที่ไม่คิดไม่ฝันจะเดินทางสู่เข้ารอบชิงแชมป์ฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 สี จากทีมโรงเรียนอย่างน้อยกว่า 500 ทีมทั่วประเทศ ที่เข้าแข่งขันในรายการนี้ วันนี้เขายังไม่เคยถูกใครสยบลงได้
นอกเหนือจากความโดดเด่นด้านกีฬาแล้ว เรื่องการศึกษาโรงเรียนหมอนทองวิทยา ก็ได้ออกแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นให้กับน้อง ๆ นักกีฬาทุกคน เพราะแน่นอนว่า สนามฟุตบอลก็คือห้องเรียนอีกใบของเด็กกลุ่มนี้ ดังนั้นจะออกแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นอย่างไรให้ตอบโจทย์ และตรงกับความต้องการของเด็กเหล่านี้ได้
ใต้เบื้องหลังความสำเร็จของ “ทีมหมอนทองวิทยา” นอกเหนือจากการฝึกฝน ภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของโค้ชอย่าง อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ และทีมงานของชมรมฟุตบอลท้องถิ่น ที่ช่วยกันสร้างวินัยในการฝึกซ้อม มาอย่างต่อเนื่อง
ผอ.ใย ยศยิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนหมอนทองวิทยา เล่าเบื้องหลังที่นอกเหนือจากการส่งเสริมการเล่นฟุตบอลแล้วการเรียนรู้ก็ถูกออกแบบเพื่อเด็กทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ยืดหยุ่น และเหมาะสมกับจำเป็นและความต้องการของนักเรียนซึ่งเป็นนักเตะของทีม คือลมใต้ปีกอีกแรงหนึ่งที่ส่งให้ทีมบินมาได้ไกลถึงจุดนี้

“โรงเรียนของเรามีนโยบาย ในการปรับการเรียนการสอนให้เข้ากับกลุ่มเด็ก มอบหมายให้ครูออกใบงานเพื่อให้นักเรียนใช้ทำแบบฝึกหัดหรือกิจกรรมเพื่อทบทวนความรู้และฝึกปฏิบัติ ช่วงที่ต้องซ้อมอย่างต่อเนื่อง หรือช่วงที่ไปแข่งขัน เด็กนักเรียนส่วนใหญ่หรือว่าเกินครึ่งหนึ่งที่อยู่ในทีม เป็นเด็กที่ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียน แต่ในส่วนของเด็กที่มีปัญหาเรื่องการเรียน ก็จะมอบหมายให้ครูประสานกับชมรมฟุตบอลว่า จะช่วยแก้ปัญหาให้กับเด็กกลุ่มนี้อย่างไรบ้าง”
ผอ.ใย เล่าต่อไปว่า เราเปิดแผนการเรียนที่รองรับความจำเป็นและความต้องการของเด็กเป็นแผนการเรียนศิลป์-กีฬา ซึ่งมีวิชาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกีฬาสำหรับเทียบโอนหน่วยกิต เปิดโอกาสให้นักเรียนซึ่งอยู่ในทีมฟุตบอลให้การฝึกซ้อมฝึกฝนหรือกระทั่งช่วงที่มีการเดินทางไปแข่งขัน มาเทียบโอนหน่วยกิตการเรียนรู้ได้
“อีกส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ทีมของเราแข็งแกร่งจนสามารถสู้กับทีมอื่นๆ ได้ คือ เรามีชุมชน มีมูลนิธิของท้องถิ่น ซึ่งดูแลชมรมฟุตบอล เข้ามามีบทบาทในการช่วยการจัดการเรียนรู้ให้กับเด็ก ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องฟุตบอล โดยชมรมฟุตบอลได้เข้ามาทำเอ็มโอยูกับโรงเรียน เพื่อร่วมออกแบบโปรแกรมการฝึกฝนทักษะฟุตบอลให้กับเด็ก โรงเรียนจะมีการแต่งตั้งครูผู้ประสานงาน การทำงาน ระหว่างโรงเรียน ทีมฟุตบอล และชมรมฟุตบอล หากมีการจัดการเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องของ การเรียนการสอน เอกสารต่างๆ จัดการเรียนการสอนเพื่อเสริมการเรียนให้กับเด็ก โรงเรียนก็จะสามารถจัดการประสานการทำงาน แก้ปัญหาให้กับเด็ก ๆ ในทีมได้ในทันที โรงเรียนจะมีการติดตามการเรียนของเด็กทุกคน แบบเคสบายเคส เพื่อไม่ให้การเล่นฟุตบอลกระทบกับการเรียน
“ครูที่นี่เข้าใจดีว่าเด็กแต่ละคนฝันหรือตั้งเป้าหมายของชีวิตไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีเวลาจำกัด ในการเดินทางไปตามเส้นทางฝัน หากไม่ทิ้งการเรียน ยังเรียนจนจบมีวุฒิการศึกษา ก็จะสามารถเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ ไม่ได้วัดความสำเร็จจากถ้วยรางวัล แต่จากการเห็นเด็กๆ มีความฝัน และมีโอกาสไปไกลกว่าที่คิดไว้”