กสศ. จัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ เสริมทักษะ SEL และกรอบความคิดผู้ประกอบการ ยกระดับศักยภาพเยาวชนอาชีวศึกษาสู่โลกการทำงาน

กสศ. จัดสัมมนาวิชาการนานาชาติ เสริมทักษะ SEL และกรอบความคิดผู้ประกอบการ ยกระดับศักยภาพเยาวชนอาชีวศึกษาสู่โลกการทำงาน

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดโครงการสัมมนาวิชาการนานาชาติ ว่าด้วยการพัฒนาทักษะทางสังคมและอารมณ์ (Social and Emotional Learning: SEL) และกรอบความคิดผู้ประกอบการ (Entrepreneurial Mindset) สำหรับเยาวชนอาชีวศึกษา ภายใต้หัวข้อ “ฉลาดคน ฉลาดคิด ฉลาดทำ: SEL ทักษะเพื่อชีวิตและการทำงานของเยาวชนอาชีวศึกษา” โดยเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชนด้อยโอกาส และเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงานยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก มร.เนียมดาวา ยอนดอนจัมต์ (Nyamdavaa Yondonjamts) ผู้จัดการโครงการ Save the Children Japan สำนักงานมองโกเลีย และ ดร.ประทิน เลี่ยนจำรูญ ผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คนผ่านระบบออนไลน์

แลกเปลี่ยนประสบการณ์นานาชาติ ไทย–มองโกเลีย

มองโกเลีย เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างแต่มีประชากรเพียง 3.5 ล้านคน ปัญหาหลักด้านการศึกษาของประเทศคือเน้นวิชาการมากเกินไป ขาดทักษะโลกจริง และความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ส่งผลให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการจ้างงานและการศึกษา เพื่อแก้ปัญหานี้จึงเกิดกรณีศึกษา โครงการ Entrepreneurship-Focused Social-Emotionally Skilled Project (ESEL) ซึ่งมุ่งพัฒนาทักษะทางสังคม อารมณ์ และกรอบความคิดผู้ประกอบการในกลุ่มเยาวชนพื้นที่ห่างไกล เพื่อสร้างโอกาสในการทำงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มช่องทางการประกอบอาชีพอิสระ

“วัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการฝึกทักษะทางสังคมและอารมณ์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเตรียมความพร้อมสู่การจ้างงาน โดยเฉพาะการประกอบอาชีพอิสระ” มร.เนียมดาวา กล่าว

ปัจจุบัน โครงการ ESEL ดำเนินการใน 25 อำเภอทั่วมองโกเลีย ครอบคลุมกิจกรรมหลากหลาย เช่น การฝึกอบรม การสนับสนุนทุนประกอบอาชีพ และการให้คำปรึกษาติดตามผล โดยสร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม มีเยาวชนได้รับประโยชน์แล้ว 8,773 คน สำเร็จการศึกษา 8,253 คน ได้รับทุนสนับสนุน 1,471 คน และเกิดทีมเยาวชนผู้ประกอบการ 360 ทีม สะท้อนว่าเมื่อเยาวชนด้อยโอกาสได้รับทักษะสำคัญ พวกเขาสามารถสร้างโอกาส สร้างงาน และพัฒนาตัวเองได้

บทเรียนจากประเทศไทย: บูรณาการ SEL, STEAM และ SEP

ด้านประเทศไทยยังมีเยาวชนไทยกว่า 1.9 ล้านคน อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา และกว่า 1.3 ล้านคน อยู่ในครัวเรือนยากจนพิเศษ ดร.ประทิน เลี่ยนจำรูญ ระบุว่า เยาวชนไทยจำนวนไม่น้อย ยังขาดความมั่นใจและไม่ตระหนักถึงคุณค่าในตนเอง

กสศ. และภาคีเครือข่ายด้านอาชีวศึกษา จึงพัฒนาแนวทางบูรณาการ SEL (Social-Emotional Learning), STEAM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์) และ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) เข้ากับการเรียนการสอน เพื่อสร้างผู้เรียนที่มีทักษะชีวิต ความสามารถวิชาชีพ และจิตวิญญาณด้านนวัตกรรมสังคม

ดร. ประทินกล่าวว่า “เป้าหมายในารพัฒนาผู้เรียนอาชีวศึกษาที่มีทักษะชีวิต ความสามารถวิชาชีพ และจิตวิญญาณด้านนวัตกรรมสังคม เราส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ความยืดหยุ่นทางอารมณ์ การตัดสินใจอย่างมีจริยธรรม พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม”

แนวทางนี้นำไปสู่การพัฒนาโครงการนวัตกรรมระหว่างประเทศกว่า 80 โครงการ และได้รับรางวัลระดับประเทศและนานาชาติกว่า 10 รางวัลต่อปี ตัวอย่างเช่น บางพัฒน์โฮมสเตย์ จ.พังงา ซึ่งเป็นธุรกิจชุมชนที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์สึนามิ และกลายเป็นต้นแบบการสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์ที่เชื่อมโยงสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

กรณีศึกษาจากมองโกเลียและประเทศไทยชี้ให้เห็นว่า การพัฒนาทักษะ SEL และการปลูกฝังกรอบความคิดผู้ประกอบการ เป็นกุญแจสำคัญในการเตรียมเยาวชนเข้าสู่โลกการทำงานจริง สร้างความมั่นใจ เปิดโอกาสทางอาชีพ และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

สำหรับมองโกเลียโครงการ ESEL ทำให้เกิดทีมผู้ประกอบการเยาวชน 360 ทีม ขณะที่ประเทศไทย เกิดโครงการนวัตกรรมด้าน SEL และ STEAM กว่า 80 โครงการ ทั้งสองประเทศสะท้อนภาพเดียวกันว่า “เมื่อเยาวชนได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็น ทั้งทักษะทางสังคมและอารมณ์ รวมถึงกรอบความคิดผู้ประกอบการ พวกเขาจะมีความมั่นใจ สามารถสร้างอนาคตของตนเอง สร้างอาชีพ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างแท้จริง”