กสศ. ร่วม “เปิดตัวกองทุนคนดี 10 บาท เพื่อโอกาสคนสุราษฏร์” คนสุราษฎร์ ไม่ทิ้งใคร ระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ
เด็กและเยาวชนเข้าถึงโอกาสลดความเหลื่อมล้ำสมกับชื่อเมือง “สุราษฎร์ธานี เมืองคนดี”

กสศ. ร่วม “เปิดตัวกองทุนคนดี 10 บาท เพื่อโอกาสคนสุราษฏร์” คนสุราษฎร์ ไม่ทิ้งใคร ระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเป็นประธานเปิดเวที “Kick off โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำปี 2565 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดตัวกองทุนเมืองคนดี (10 บาท เพื่อโอกาสคนสุราษฎร์)” ณ โรงแรมแก้วสมุยรีสอร์ต จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (อบจ.สฎ) คุณณฐอร อินทร์ดีศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในฐานะผู้แทนกรรมการบริหาร กสศ. นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม อนุกรรมการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กสศ. นายโชคชัย ลิ้มประดิษฐ์ อนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ กสศ. ดร.สมคิด แก้วทิพย์ ผู้จัดการโครงการทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ผู้ทรงคุณวุฒิและตัวแทนจากสมัชชาการศึกษาสุราษฎร์ธานี สมัชชาสุขภาพจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 11 สุราษฎร์ธานี เครือข่ายสภาเด็กและเยาวชน ตลอดจนภาคีเครือข่ายจากรัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม เข้าร่วมกิจกรรม

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายวิชวุทย์ กล่าวขอบคุณคนสุราษฎร์ธานีที่เห็นความสำคัญของการจัดการศึกษาในพื้นที่ เพราะปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นปัญหาทางสังคม ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชน ตลอดจนเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาทำให้เสียโอกาสที่จะพัฒนาชีวิตให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม และมีเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสให้คนในพื้นที่ ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ได้ติดตามการดำเนินงานโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำมาโดยตลอด โดยการดำเนินงานที่ผ่านมา อบจ.สฎ สมัชชาการศึกษาฯ ตลอดทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระดับจังหวัดเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และการดำเนินงานปี 2565 ยังคงขับเคลื่อนต่อเนื่องเพื่อให้การจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้จึงเกิดการจัดตั้งกองทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำจังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้น โดยสร้างการรับรู้เป็นวงกว้าง ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสนับสนุนและเปิดตัวกองทุนเมืองคนดี (10 บาท เพื่อโอกาสคนสุราษฎร์) ขึ้น พร้อมกับประกาศเจตนารมณ์ “คนสุราษฎร์ ไม่ทิ้งใครและระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ เด็กและเยาวชนเข้าถึงโอกาสลดความเหลื่อมล้ำให้สมกับชื่อเมือง สุราษฎร์เมืองคนดี”

นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ.

ด้านนายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กสศ. ได้บรรยายพิเศษเรื่อง ‘กสศ.กับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย’ ได้กล่าวถึงความมุ่งหวังที่จะให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและช่วยกันให้ความตั้งใจนี้บรรลุผลเพื่อลูกหลานในพื้นที่ ซึ่งต้นทุนการทำงานของจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีทั้งหน่วยงานอื่น และกสศ. อาทิโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น สร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลและยากจนที่ต้องการเป็นครูรุ่นใหม่ เพื่อกลับไปพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชนบ้านเกิด และโครงการทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน โดยมีเด็กและเยาวชนและแรงงานนอกระบบการศึกษาสามารถสร้างรายได้ สร้างโอกาส และอาชีพโดยใช้ทุนของชุมชน เป็นต้น ซึ่งเป็นต้นทุนการทำงานที่หลากหลายของเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทาง กสศ. จึงอยากเห็นจังหวัดนำเครือข่ายเหล่านี้เข้ามาเป็นต้นทุนการทำงานลดความเหลื่อมล้ำให้แข็งแรงขึ้นและขับเคลื่อนงานในระยะยาวต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนาประสบการณ์การทำงาน “คนสุราษฎร์ไม่ทิ้งใคร”จากภาคีเครือข่ายการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจนเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ‘Youth Talk คนรุ่นใหม่กับการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ’ และเวทีเสวนา ‘ก้าวต่อไปของการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี’ ที่นำเสนอบทบาทความร่วมมือของเครือข่ายในพื้นที่สู่การเชื่อมประสานงานร่วมกันเพื่อสร้างโอกาส การเรียนรู้ และจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับเด็กและเยาวชนคนสุราษฎร์ที่ยั่งยืนต่อไป