ทุนไม่ใช่แค่ค่าเล่าเรียน แต่หมายถึงโอกาสสร้างฝันที่ได้รับการเติมเต็ม

ทุนไม่ใช่แค่ค่าเล่าเรียน แต่หมายถึงโอกาสสร้างฝันที่ได้รับการเติมเต็ม

ประโยชน์สูงสุดของทุนนี้ คือผมจะได้เปิดประสบการณ์ด้านอื่นๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ กสศ. หยิบยื่นมาให้ ดังนั้นการเป็นนักศึกษาทุนจึงไม่ใช่แค่เราได้มีเงินเรียนต่อ แต่หมายถึงการได้ไขว่คว้าโอกาสที่จะทำให้เราได้เปิดหูเปิดตากว้างไปกว่าแค่ในรั้วมหาวิทยาลัย

ทันทีที่ จบ ม.3 ‘ตรี’ ตรีนัยน์ วงษ์สุวรรณ เลือกเรียนต่อสายอาชีพ เพราะเขามองเห็นว่าเป็นหนทางที่จะช่วยประกอบความฝัน 2 อย่างในวัยเด็กให้เป็นจริงได้ หนึ่งนั้นคืออาชีพวิศวกรผู้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม ส่วนฝันที่สองคือการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น สานต่อสิ่งที่พ่อของเขากรุยทางเอาไว้

“รุ่นปู่ของผมเป็นครอบครัวชาวนา มีชีวิตลำบากกันมาก่อน แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ ถึงไม่มีเงิน พ่อก็สู้มาตลอด พ่อเป็นคนขยัน สู้ชีวิต พยายามทำงานหนักให้พวกเราพี่น้อง 4 คนได้เรียนหนังสือทุกคน เราจะได้ไม่ลำบากเหมือนที่ท่านเคยผ่านมา สิ่งที่พ่อทำ ทำให้ผมตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ คิดอย่างเดียวว่าต้องใช้การศึกษาสร้างครอบครัวให้ทุกคนมีชีวิตดีขึ้นให้ได้ในรุ่นของผม” ตรีเล่าถึงแรงผลักให้เขามุมานะกับการเรียน

แล้วความพยายามที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ก็พาให้ตรีจากบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ เข้ามาเรียนในหลักสูตรปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมแม่พิมพ์และเครื่องมือ คณะวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยขณะนี้อยู่ชั้นปี 2 พร้อมเดินทางมาถึง ณ อีกจุดหนึ่งของเป้าหมายหมายทางการศึกษา

เมื่อได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 13 นักศึกษา ‘ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ’ รุ่นแรก ซึ่งจะทำให้เขาสามารถต่อยอดศักยภาพการเรียนรู้ในตัวไปได้จนสุดทางถึงปริญญาเอก นั่นทำให้ตรีเริ่มมั่นใจว่า โอกาสที่เขาจะทำสิ่งที่คิดไว้ให้เป็นจริงได้มาถึงแล้ว

 

‘ภาษาดี กีฬาเด่น’

ตรีจบชั้น ปวส. ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.98 แต่ใช่เพียงผลการเรียนที่น่าภูมิใจ ตรียังมีความสามารถที่โดดเด่นระดับคว้ารางวัลมาแล้วหลายอย่าง ตั้งแต่ชนะเลิศการแข่งขันตะกร้อระดับจังหวัดครั้งเรียน ปวช.2

จนถึงชั้น ปวส.1 ที่เป็นตัวแทนวิทยาลัยเข้าแข่งขันทักษะการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ด้วยภาษาอังกฤษระดับชาติ ซึ่งได้รางวัลที่ 3 และปีถัดมาในชั้น ปวส.2 ก็ได้เป็นตัวแทนอีกครั้ง พร้อมกับไปถึงตำแหน่งที่ 2 ได้สำเร็จ

ตรีเผยว่าเมื่อครั้งยังเรียน ปวช. ทักษะภาษาอังกฤษเขายังอยู่ในระดับทั่วไป แต่เมื่อได้รับการขัดเกลาจากอาจารย์ที่ทุ่มเทเวลาเอาใจใส่ ก็ค้นพบว่าตัวเองทำได้ดี ตรีจึงฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องนับแต่นั้น จนได้จุดประกายให้มีความฝันเล็กๆ ว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ไปเรียนต่อหรือทำงานเก็บประสบการณ์ในต่างประเทศ

“เมื่อมีความรู้ด้านภาษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมเริ่มมั่นใจและเกิดความท้าทาย ว่าอยากได้ไปเรียนหรือทำงานที่ต่างประเทศ เพื่อจะเอาความรู้ความสามารถกลับมาพัฒนาประเทศของเรา” ตรีกล่าว

 

‘วิศวกร’ และ ‘นักธุรกิจ’ รวม 2 ฝันทำให้เป็น 1

ตรีมีความฝันวัยเด็กว่าอยากเป็นนักธุรกิจหรือวิศวกร แต่เรียนถึง ม.3 ก็ยังไม่ได้คิดว่าจะไปทางไหนต่อ จนพ่อของเขาแนะนำให้เรียนวิทยาลัยเทคนิคสาขาเครื่องกล ที่เน้นเรียนรู้เรื่องเครื่องจักร ซึ่งมันเป็นทางที่เขาจะเติบโตไปเป็นวิศวกรได้ ขณะที่หากรอบรู้จนแตกฉานในศาสตร์นี้และมีช่องทางที่เหมาะสม ก็ยังสามารถทำโรงงานมีธุรกิจของตัวเองได้อีกด้วย

“ผมตั้งใจตั้งแต่เริ่มเรียนสายอาชีพว่าอยากทำฝันวัยเด็กให้เป็นจริง ยิ่งได้เข้ามาเรียนในสาขาเครื่องกลต่อเนื่องมาถึงวิศวกรรมแม่พิมพ์และเครื่องมือ ผมยิ่งแน่ใจว่าจะสามารถเป็นวิศวกรที่ดี และเป็นเจ้าของธุรกิจได้ ถ้าผมพยายามมากพอ นี่คือเหตุผลที่ผมมุ่งมาในทางสายนี้”

 

ทุนช่วยต่อเติมให้กล้าฝันต่อไป

ตรีเผยเรื่องราวก่อนหน้าที่จะได้รับเลือกเป็นนักศึกษา ‘ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ’ ว่า จากแผนที่วางไว้ระยะสั้น คือจบปริญญาตรีในสองปีแล้วออกไปทำงานเป็นวิศวกรโรงงานเพื่อหาลู่ทางในการเรียนต่อ เนื่องจากเห็นว่าพ่อต้องทำงานหนักเพื่อส่งเสียลูกๆ ทั้ง 4 คนจนสุดกำลังแล้ว

“การได้รับทุนทำให้ผมสามารถมองการณ์ข้างหน้าได้ไกลขึ้น จากแผนสั้นๆ ที่มองเห็นแค่วุฒิปริญญาตรี แต่หลังจากเข้ามาเป็นนักศึกษาทุนแล้ว ผมแน่ใจได้แล้วว่าจะได้เรียนต่อปริญญาโท ได้ศึกษาระบบการทำงานขั้นสูงยิ่งขึ้น ทางเลือกในการเรียนหรือทำงานก็เปิดกว้างยิ่งขึ้นด้วย โอกาสที่ผมจะได้มีโรงงานของตัวเองก็ยิ่งมีความหวังว่าจะเป็นจริงได้”

 

ไม่ใช่แค่ทุนการศึกษา
แต่สำคัญคือการเปิดประสบการณ์และได้พัฒนาตัวเองไม่สิ้นสุด

สำหรับตรี ทุนที่ได้รับไม่ใช่แค่เรื่องของค่าเล่าเรียน หรือการได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่เขาบอกว่า มันคือโอกาสอื่นๆ อีกมากมายที่เขาจะได้รับในฐานะนักศึกษาทุน ซึ่งจะเป็นประสบการณ์พิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น

“การได้เรียนในระดับสูงจะทำให้เรามีทักษะและมุมมองในการพัฒนาตัวเอง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง สิ่งที่ผมมองว่าคือประโยชน์สูงสุดของทุนนี้ คือผมจะได้เปิดประสบการณ์ด้านอื่นๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ กสศ. หยิบยื่นให้ ดังนั้นการเป็นนักศึกษาทุนจึงไม่ใช่แค่เราได้มีเงินเรียนต่อ แต่หมายถึงการได้ไขว่คว้าโอกาสที่จะทำให้เราเปิดหูเปิดตากว้างไปกว่าแค่ในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งผมคิดว่าจะมาช่วยส่งเสริมให้ผมตื่นตัวกับการพัฒนาตัวเองในทุกๆ วัน” ตรีกล่าวปิดท้าย

 

ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
www.eef.or.th/donate/
ธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์
เลขที่ : 172-0-30021-6
บัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค