สหรัฐฯ เร่งเครื่องแก้กฎหมายยกระดับการศึกษาเด็กพิการ
โดย : US Education Department
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

สหรัฐฯ เร่งเครื่องแก้กฎหมายยกระดับการศึกษาเด็กพิการ

กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อสนับสนุนส่งเสริมและปกป้องสิทธิสสำหรับนักเรียนที่มีความพิการทุพพลภาพ โดยจะเริ่มต้นด้วยการระดมความเห็ฯจากสาธารณะก่อนนำมาหารือและพิจารณาปรับร่างกฏหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะมาตรา 504 ซึ่งมีการบังคับใช้มาอย่างยาวนานเกือบ 50 ปี

แถลงการณ์ของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ กล่าวว่า ระยะเวลา 45 ปีหลังจากการออกกฎบังคับใช้มาตรา 504 ของพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพปี 1973 ซึ่งมีใจความสำคัญว่าด้วยสิทธิพลเมืองที่มีความทุพพลภาพ ทางกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ เห็นว่าสมควรที่จะมีการปรับปรุงให้ทันสมัย โดยเริ่มจากการรวบรวมข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการแก้ไขที่อาจเป็นไปได้ในข้อบังคับเหล่านั้น เพื่อเสริมสร้างและปกป้อง สิทธิของนักเรียนที่มีความพิการโดยเฉพาะ 

การตัดสินใจดำเนินการในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ทางกระทรวงศึกษาธิการพบว่า มาตรา 504 ซึ่งห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของความทุพพลภาพในโครงการและกิจกรรมของรัฐและเอกชนที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลกลาง รวมถึงโรงเรียนและสถาบันระดับมัธยมศึกษา มีช่วงโหว่บางประการที่ทำให้เด็กนักเรียนพิการไม่ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกับเพื่อนนักเรียนวัยเดียวกัน

ด้าน สำนักงานสิทธิพลเมือง (OCR) ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้ดำเนินการระดมความเห็นของประชาชนชาวอเมริกัน เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยตัดสินใจว่าจะปรับปรุงกฎระเบียบในปัจจุบันเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีความพิการของอเมริกาให้ดีที่สุดได้อย่างไร ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะในด้านจิตใจ 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางข้อเรียกร้องจากประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ ที่เพิ่งจะประกาศกลยุทธ์เพื่อจัดการกับวิกฤตสุขภาพจิตของประเทศ บวกกับการรณรงค์เรียกร้องให้ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพจิต ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นเดือนแห่งการให้ความรู้ด้านสุขภาพจิต

รายงานระบุว่า งานที่ทางสำนักงานพลเมืองจะทำในเดือนพฤษภาคมนี้ คือการรับฟังและขอความคิดเห็นจากสาธารณชนเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎระเบียบด้านสิทธิความพิการ นอกจากนี้ยังดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากผู้ทุพพลภาพที่มีความต้องการด้านสุขภาพจิตและต้องการผู้อุปถัมภ์สนับสนุนด้วย

Catherine E. Lhamon ผู้ช่วยเลขาธิการด้านสิทธิพลเมือง กล่าวว่า ในนขณะที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี1977 แต่ข้อบังคับมาตรา 504 ของกรมฯ ยังคงบังคับใช้อยู่ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ 

“เมื่อเราสังเกตการครบรอบ 45 ปีของกฎระเบียบสำคัญเหล่านี้ในเดือนนี้ เราก็ตระหนักว่าถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มกระบวนการปรับปรุงกฎระเบียบ เช่นเดียวกับในปี 1977 เสียงของคนพิการจะต้องได้ยินและรวมเข้าด้วยกันในขณะที่เรามีส่วนร่วมในงานนั้น”

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน ปี 1977 เหล่าผู้พิการหลายร้อยคนและกลุ่มผู้สนับสนุนได้รวมตัวชุมนุมประท้วงที่สำนักงานภูมิภาคหลายแห่งของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการเรียกร้องให้หน่วยงานอนุมัติกฎระเบียบไม่เลือกปฏิบัติ ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานตามมาตรา 504 เพื่อปกป้องสิทธิพลเมือง ที่มีความพิการ โดยการประท้วงที่สำนักงานในซานฟรานซิสโกของกรมฯ กินเวลาเกือบหนึ่งเดือน จนกระทั่งเลขาธิการลงนามในข้อบังคับใช้กฎหมายเมื่อวันที่ 28 เมษายน ปี 1977 ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคมในปีเดียวกัน 

สำหรับระเบียบข้อบังคับมาตรา 504 ของสำนักงานสิทธิพลเมืองเป็นข้อบังคับฉบับแรกที่ออกโดยรัฐบาลกลาง ซึ่งกล่าวถึงการปฏิบัติต่อผู้ทุพพลภาพผ่านกรอบด้านสิทธิพลเมือง แทนที่จะใช้กรอบทางการแพทย์หรืออาชีวศึกษาเพียงอย่างเดียว ซึ่งในปีต่อๆ มา กฎระเบียบเหล่านี้เป็นแบบอย่างสำหรับข้อบังคับของหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่นๆ และเป็นรากฐานสำหรับบทบัญญัติหลายประการของพระราชบัญญัติผู้ทุพพลภาพชาวอเมริกัน 1990 หรือ Americans with Disabilities Act of 1990.

แถลงการณ์ระบุว่า เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่สำนักงานสิทธิพลเมืองได้ทำงานเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติด้านความทุพพลภาพในโรงเรียนต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรงเรียนเตรียมอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ตลอดจนโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยการตรวจสอบการร้องเรียนที่กล่าวหาว่ามีการละเมิดกฎระเบียบ การสอบสวนเชิงรุก การออกแนวทางนโยบาย และการจัดหา ความช่วยเหลือด้านเทคนิค

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน ทางกระทรวงศึกษาธิการเพิ่งประกาศข้อตกลงแก้ไขกับเขตการศึกษาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อย่าง Los Angeles Unified School District โดยกำหนดให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนที่มีความทุพพลภาพได้รับบริการด้านการศึกษา ซึ่งรวมถึงบริการชดเชย ในระหว่างและหลังจากวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19

สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขมาตรา 504 สามารถแสดงความเห็นผ่านทางออนไลน์ที่ทางสำนักงานสิทธิพลเมืองจัดไว้ให้ โดยทางสำนักงานมีแผนที่จะประชุม เพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งความคิดเห็นทั้งหมดจะได้รับการเปิดเผยสู่สาธารณะ ยกเว้นข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แสดงความเห็นที่จะถูกปิดเป็นความลับ 

นอกจากนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯยังตั้งใจที่จะพึ่งพาความคิดเห็นที่ได้รับก่อนหน้านี้เพื่อตอบสนองต่อการร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารระเบียบวินัยของโรงเรียนแบบไม่เลือกปฏิบัติ และข้อมูลอื่นๆ เพื่อตัดสินใจว่าการเปลี่ยนแปลงใดที่เหมาะสมที่สุดที่จะรวมไว้ในประกาศเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่เสนอต่อไป

ทั้งนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานสิทธิพลเมืองสหรัฐฯ ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามสัญญาของสภาคองเกรสในมาตรา 504 และเพื่อความก้าวหน้าในการร่วมมือกับคนพิการและชุมชนการศึกษาเต็มรูปแบบอย่างเต็มที่

ที่มา : U.S. Department of Education Announces Intent to Strengthen and Protect Rights for Students with Disabilities by Amending Regulations Implementing Section 504