สิงคโปร์เตรียมฝึกอบรมเสริมทักษะการใช้ AI ในห้องเรียนแก่คุณครู
โดย : Ng Wei Kai - The Straits Times
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

สิงคโปร์เตรียมฝึกอบรมเสริมทักษะการใช้ AI ในห้องเรียนแก่คุณครู

ทางการสิงคโปร์เล็งติดอาวุธให้ครูทั่วประเทศ เตรียมจัดทำคอร์สอบรมพิเศษสอนคุณครูให้รู้จักประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในห้องเรียน พร้อมเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในด้านงานวิจัย เพื่อส่งเสริมให้สิงคโปร์เป็นหนึ่งในศูนย์กลางดิจิทัลของโลกที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม และกำลังคน

สืบเนื่องจากการที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากขึ้นภายในห้องเรียนและชีวิตประจำวันของนักเรียน โดยเฉพาะความคุ้นเคยในการใช้งานสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน งานนี้ ทางสถาบันการศึกษาแห่งชาติสิงคโปร์ หรือ National Institute of Education (NIE) จึงเตรียมจัดทำชั้นเรียนพิเศษเพื่อฝึกสอนครูทั่วประเทศในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในห้องเรียนให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเล่าเรียนของนักเรียน

รายงานระบุว่า ภายในปี 2026 หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ในการศึกษาจะได้รับการเสนอให้ถ่ายทอดไปถึงครูทุกคนทั่วสิงคโปร์ ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับของครูฝึกหัดไปจนถึงอาจารย์ระดับปริญญาตรี บัณฑิตศึกษา ตลอดจนครูที่ประจำอยู่ที่สถาบันการศึกษาแห่งชาติ (NIE)

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของทาง NIE ยังระบุว่าอีกว่าทางสถาบันเตรียมจะเพิ่มการลงทุนในงานด้านวิจัยและนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อการศึกษาให้มากขึ้น โดยโครงการฝึกอบรมครูในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การศึกษา 5 ปีของทางสถาบัน ที่เรียกว่า AI@NIE

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่สถาบันได้รวบรวมผลการศึกษาภายใต้โจทย์ที่ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ว่าจะสามารถนำมาใช้ในระบบการศึกษาของสิงคโปร์ได้อย่างไร โดย คริสติน โกห์ ผู้อำนวยการของ NIE กล่าวระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรมที่ทาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในเขตจูร่งจัดขึ้นว่า การศึกษาดังกล่าวดำเนินการโดยคณะทำงานและคณะกรรมการของ NIE ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 2020 

ด้าน มัลลิกิ ออสแมน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุในสุนทรพจน์ของตนว่า ประเทศสิงคโปร์ในเวลานี้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะสามารถคว้าโอกาสในทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ยืนยันได้จากการที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศได้รับการพัฒนาอย่างดี มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ดีและมีความเสถียร และชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่มีความรู้ด้านดิจิทัลอยู่ในระดับที่ดี 

“เรากำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่การขนส่งและบริการในเขตเทศบาล ไปจนถึงการดูแลสุขภาพและแน่นอน การศึกษา” ออสแมนกล่าว 

ทั้งนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการศึกษาของสิงคโปร์กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้เปิดทางให้มีการใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ในห้องเรียนอยู่แล้ว เช่น โปรแกรมการอ่านออกเสียงข้อความและการประเมินคำพูดในการเรียนรู้ภาษาจีน

หรือล่าสุด ในกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยหนังสือพิมพ์ The Straits Times รายงานว่า นักเรียนระดับประถมศึกษาตอนปลายไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาจะได้รับข้อความตอบรับหรือผลตอบรับทันทีเกี่ยวงานหรือการบ้านในวิชาภาษาอังกฤษ เมื่อมีการเปิดตัวระบบการทำเครื่องหมายแบบใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI มาไว้ในแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของโรงเรียนภายในอีก 2 ปีข้างหน้า 

นอกจากนี้ เมื่อทางกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์เปิดใช้ระบบAI ดังกล่าว ในพื้นที่การเรียนรู้ของนักเรียน หรือ Student’s Learning Space (SLS) เรียบร้อยแล้ว ระบบดังกล่าวจะแก้ไขไวยากรณ์ โครงสร้างประโยค และการแสดงออกของนักเรียนอย่างอันโนมัติ 

รองศาสตราจารย์ ตัน เซิง ฉี (Tan Seng Chee) กล่าว เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลดังกล่าวพร้อมใช้งานและพฤติกรรมของผู้คนถูกกระตุ้นให้กมีการปรับตัวเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่ทางสถาบัน NIE จะใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ในฐานะรองคณบดีของสถาบัน NIE ด้านการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาด้วยงานวิจัย กล่าวว่า ทางสถาบันฯ มีความสนใจในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อประโยชน์ของครูและนักเรียนทุกคนมานานแล้ว และมีการวางแผนเตรียมการณ์การณ์มาเป็นอย่างดี 

“เมื่อโปรแกรมพร้อม มันน่าจะเป็นประโยชน์กับครูทุกคน และเราจะเปิดพื้นที่ให้กับครูฝึกหัดได้เข้าร่วมการอบรมในหลักสูตรเหล่านี้ด้วย” รองศาสตราจารย์ ตัน เซิง ฉี กล่าว

ด้านศาสตราจารย์ จอร์จ ซีเมนส์ ผู้สนับสนุนให้มีการฝึกอบรมในครั้งนี้กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีศักยภาพความสามารถในการบังคับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบต่อระบบการศึกษาทั่วโลก

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ซีเมนส์ ยังกล่าวอีกว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อาจมีส่วนช่วยในการสร้างระบบการศึกษาที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคนตามจุดแข็งและความสนใจของตัวนักเรียนเอง รวมถึงการปรับให้เข้ากับวิธีการที่เด็กคนหนึ่งเรียนรู้

ทั้งนี้ ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์การเปลี่ยนแปลงและความซับซ้อนในการเรียนรู้  หรือ  Centre for Change and Complexity in Learning ที่มหาวิทยาลัยแห่งเซาท์ ออสเตรเลีย (University of South Australia) ศาสตราจารย์ซีเมนส์มั่นใจว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จะสามารถช่วยโรงเรียนในการเลี้ยงดูและเสริมสร้างทักษะขีดความสามารถให้แก่นักเรียนแต่ละคนได้อย่างดี

ที่มา : NIE to train teachers in using AI in classroom, invest in research