แพทย์สหรัฐฯ แนะกลยุทธ์ปกป้องเด็กต่ำกว่า 5 ขวบให้ห่างโควิด-19
โดย : Spencer Kimball - CNBC
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

แพทย์สหรัฐฯ แนะกลยุทธ์ปกป้องเด็กต่ำกว่า 5 ขวบให้ห่างโควิด-19

บรรดาแพทย์ใหญ่ในสหรัฐฯ เผยคำแนะนำส่งตรงถึงพ่อแม่ผู้ปกครองชาวอเมริกันทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นแนวทางในการดูแลป้องกันเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดทั่วสหรัฐฯ อยู่ในเวลานี้ ย้ำชัดวิธีดูแลที่ดีที่สุดคือ ผู้ใหญ่ต้องดูแลตัวเองให้ดี และฉีดวัคซีนและเข็มกระตุ้นให้ครบ 

คำแนะนำดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ตัวเลขเด็กเล็กในสหรัฐฯ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอนเพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศ โดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ (CDC) กล่าวว่า สาเหตุที่เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ กลายเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น เพราะจนถึงขณะนี้ เด็กกลุ่มดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่กลุ่มที่ทางสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ยังไม่พิจารณาอนุมัติรับรองให้วัคซีนสามารถฉีดในเด็กกลุ่มนี้ได้

ทั้งนี้ ในระหว่างที่เด็กยังไร้การป้องกันจากวัคซีน บรรดานายแพทย์ใหญ่ทั่วสหรัฐฯ กล่าวตรงกันว่า วิธีปกป้องเด็กๆ ที่ดีที่สุดก็คือ การทำให้แน่ใจว่าทุกคนที่อยู่รอบตัวเด็กๆ ได้รับวัคซีน รวมถึงเข็มกระตุ้นเรียบร้อย รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม

ดอกเตอร์โรเชลล์ วาเลสกี (Dr. Rochelle Walensky) ผู้อำนวยการ CDC สหรัฐฯ กล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมนี้ว่า สิ่งที่ยังวางใจได้บ้างก็คือ ยังไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าการติดเชื้อโอมิครอนจะทำให้เด็กมีอาการรุนแรงกว่าการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ก่อนหน้า และอัตราการติดเชื้อขณะนี้ยังอยู่ในระดับที่ระบบการให้บริการรักษาของโรงพยาบาลทั่วสหรัฐฯ สามารถรองรับได้

ข้อมูลจาก CDC ซึ่งรวบรวมจากโรงพยาบาลทั้งหมด 250 แห่งใน 14 รัฐทั่วประเทศ ที่มีรายงานการระบาดหนาแน่น พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบราว 7 คน ในทุกๆ 100,000 คน ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมก่อนหน้าถึง 2 เท่าตัว

ขณะที่ดอกเตอร์แอนโธนี เฟาซี (Anthony Fauci) หัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาว กล่าวว่า แม้เด็กๆ จะมีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อชีวิตเลย ดังนั้น หากพบว่าเด็กติดเชื้อ แนะนำให้พ่อแม่พาเด็กไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ก่อนเตือนว่า ขณะนี้มีเด็กจำนวนมากติดเชื้อและมีอาการรุนแรงพอสมควร และมีเด็กเล็กบางรายอาการหนักจนเสียชีวิตแล้ว

ด้านดอกเตอร์โรเบอร์ตา เดเบียซี (Dr. Roberta DeBiasi) กล่าวว่า เด็กส่วนใหญ่ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล Children’s National Hospital ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ล้วนติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพราะเด็กกลุ่มนี้ล้วนยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ได้

ขณะที่ดอกเตอร์แอนดี เชน (Dr. Andi Shane) เสริมว่า แม้การระบาดของโควิด-19 หลายระลอกจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองรู้สึกถอดใจกับการระบาดที่เกิดขึ้น กระนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรรู้ว่า พ่อแม่ไม่ได้ไร้กำลังในการต่อกรกับไวรัสโควิด-19 เสียทีเดียว โดยมีขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติที่สามารถทำได้เพื่อปกป้องลูกๆ ของตน 

ความเห็นข้างต้นสอดคล้องกับบรรดาแพทย์ใหญ่ด้านกุมารแพทย์ที่ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ระบุว่า แม้ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีจะไม่สามารถรับวัคซีนได้ แต่ผู้ปกครองสามารถปกป้องพวกเขาได้โดยทำให้แน่ใจว่าทุกคนที่มีสิทธิ์ในครอบครัวได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนและได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคอย่างน้อย 5 เดือนหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง

จากการศึกษาในภาคสนามจริงของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (U.K. Health Security Agency) พบว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและได้รับการกระตุ้นสามารถป้องกันการติดเชื้อตามอาการจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ถึง 75%

ดอกเตอร์อัลลิสัน บาร์ตเล็ตต์ (Dr. Allison Bartlett) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่โรงพยาบาล Comer Children’s Hospital ในนครชิคาโก กล่าวว่า การดูแลทารกและเด็กเล็กจากโรคโควิด-19 เป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นพิเศษ เนื่องจากมีเครื่องมือเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถปกป้องพวกเขาได้ เนื่องจากพวกเขาไม่มีสิทธิ์รับวัคซีน ทั้ง CDC ยังแนะนำว่าอย่าใส่หน้ากากให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และ FDA ไม่ได้อนุญาตให้ทำการทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 จากเครื่องตรวจ ARK ในเด็กกลุ่มนี้

อย่างไรก็ตาม ดอกเตอร์บาร์ตเล็ตต์ย้ำว่า ผู้ปกครองสามารถปกป้องพวกเขาได้โดยใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่สมาชิกในครอบครัวจะติดไวรัสและแพร่กระจายไปยังผู้ที่อ่อนแอได้

“จำเป็นมากกว่ามากที่ทุกคนในบ้านและในการติดต่อกับเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบต้องสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างทางสังคม และจำกัดกิจกรรมนอกบ้าน และดำเนินขั้นตอนอื่นๆ ในการลดความเสี่ยงเพื่อช่วยสร้างเกราะป้องกันที่จะเป็นปราการปกป้องเด็กๆ ได้” ดอกเตอร์บาร์ตเล็ตต์กล่าว

ส่วน ดร.เชนกล่าวว่า พ่อแม่หลายคนในสหรัฐฯ ขณะนี้ต่างรู้สึกเบื่อหน่ายกับการระบาดใหญ่นี้ และต้องการให้ลูกๆ และครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมตามปกติอีกครั้ง แต่อยากให้อดทนไว้ อย่างน้อยก็จนกว่าที่ทุกคนจะได้รับวัคซีนและเข็มกระตุ้นทั่วหน้ากัน

ดร.เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทีมแพทย์แห่งทำเนียบขาวคาดหวังว่าทางสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) จะอนุมัติวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยข้อมูลจากการทดสอบทางคลินิกของไฟเซอร์พบว่า เด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปีอาจต้องได้รับยา 3 ครั้ง เนื่องจากการฉีด 2 ครั้งไม่ได้กระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่เพียงพอในเด็กอายุ 2 ถึง 4 ปี อีกทั้งการทดสอบนี้ไม่พบข้อวิตกกังวลด้านความปลอดภัยใดๆ และขนาดยาสำหรับเด็กเล็กมีขนาด 3 ไมโครกรัมต่อครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยกว่าขนาดยาที่ฉีดในวัยผู้ใหญ่อยู่มาก

ที่มา : Children under 5 are not eligible for Covid vaccination. Doctors have this advice to protect them during the omicron surge