สิงคโปร์ไม่หวั่นกระแส ChatGPT คัดลอกผลงาน-โกงข้อสอบ ยืนยันสามารถใช้เทคโนโลยีป้องกันได้ ย้ำต้องสอนเทคโนโลยี AI ให้นักเรียนเท่าทัน
โดย : Ronald Goh - Yahoo Singapore News
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

สิงคโปร์ไม่หวั่นกระแส ChatGPT คัดลอกผลงาน-โกงข้อสอบ ยืนยันสามารถใช้เทคโนโลยีป้องกันได้ ย้ำต้องสอนเทคโนโลยี AI ให้นักเรียนเท่าทัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ระบุแนวทางรับมือ ChatGPT โดยการปรับใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันการโกงข้อสอบ พร้อมยืนยันว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังมีประโยชน์ นักการศึกษาควรยอมรับการใช้เทคโนโลยี AI ที่แพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ

ชาน ชุน ซิง (Chan Chun Sing) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ กล่าวระหว่างการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแนวทางของโรงเรียนในการรับมือกับการใช้แชทบ็อตอัจฉริยะ เช่น ChatGPT ในทางที่ผิด โดยยืนยันว่า โรงเรียนและสถาบันการศึกษาระดับสูงทุกแห่งของสิงคโปร์ จะใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อตรวจจับการคัดลอกผลงาน รวมถึงใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีเพื่อตรวจจับเนื้อหาที่สร้างโดยเทคโนโลยี AI และนำมาปรับใช้เพื่อตรวจจับการใช้ ChatGPT ในฐานะเครื่องมือคดโกงในสถานศึกษา

ChatGPT กลายเป็นพาดหัวร้อนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะมันสามารถที่จะเขียนเรียงความและแก้สมการทางคณิตศาสตร์ได้ในไม่กี่วินาที ซึ่งความสามารถนี้นำไปสู่ความกังวลในระดับโลกทีเดียวว่า ChatGPT จะเป็นเทคโนโลยีที่สามารถคัดลอกผลงานหรือเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้เพื่อการคดโกงต่าง ๆ ภายในสถานศึกษา

“โรงเรียนและสถาบันการศึกษาระดับสูงของสิงคโปร์ ได้นำหลักปฏิบัติต่าง ๆ มาใช้เพื่อป้องกันการใช้เทคโนโลยีนี้ในทางที่ผิด” ชาน ชุน ซิงย้ำ

“นักเรียนสิงคโปร์จะถูกสอนเรื่องความสำคัญของความซื่อสัตย์ ผลกระทบที่เป็นอันตราย และผลที่ตามมาของการลอกเลียนผลงานในคาบเรียนประจำวันอยู่แล้ว นอกจากนี้ คุณครูยังใช้โหมดการประเมินหลายรูปแบบ เพื่อวัดความสามารถของนักเรียนและตรวจหาผลงานที่อาจจะเป็นเนื้อหาที่ถูกสร้างโดย AI

โรงเรียนและสถาบันการศึกษาระดับสูงของสิงคโปร์ทุกแห่งมีรูปแบบการประเมินผลที่หลากหลาย รวมถึงการสอบ การนำเสนอ และโครงการต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ การบันทึกภาคสนาม และรายละเอียดที่เกิดมาจากการสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทคโนโลยี AI ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ง่าย ๆ” รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ระบุ 

แต่ในขณะเดียวกัน แวดวงการศึกษาก็ต้องอ้าแขนยอมรับเทคโนโลยี AI มากกว่าการตัดสินใจที่จะไม่ใช้มัน เพราะความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับระบบการศึกษาของสิงคโปร์ และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคม

รายงานระบุว่า กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ (MOE) ในขณะนี้ กำลังเร่งจัดหาแหล่งข้อมูลและคำแนะนำสำหรับนักการศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ AI เช่นเดียวกับ ChatGPT อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้ความรู้แก่นักการศึกษาเกี่ยวกับศักยภาพและความท้าทายของการใช้เทคโนโลยี AI

นักการศึกษายังได้รับมอบหมายให้สอนนักเรียนว่าเทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร เพื่อป้องกันการพึ่งพาเครื่องมือทางเทคโนโลยีมากเกินไป นักเรียนจำเป็นที่จะต้องเข้าใจก่อนว่า AI จะทำหน้าที่เป็นเพียงส่วนเสริมของการศึกษา และเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้หลังจากที่นักเรียนได้เรียนรู้วิธีการคิดและทักษะพื้นฐานแล้วเท่านั้น

ชาน ชุน ซิง อธิบายว่า เทคโนโลยี AI ก็เหมือนกับเครื่องคิดเลขที่สามารถช่วยสนับสนุนความสามารถของนักเรียนในการเรียนรู้คณิตศาสตร์ แต่พวกเขาจะต้องเชี่ยวชาญการการคิดเชิงคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานเสียก่อนจึงจะใช้ AI ได้อย่างดี หรือ ChatGPT เอง ก็จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ได้ก็ต่อเมื่อนักเรียนเข้าใจแนวคิดพื้นฐานและทักษะการคิดบางอย่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“ท่ามกลางโลกที่ไม่แน่นอน สิงคโปร์ต้องสอนนักเรียนให้ยอมรับและเรียนรู้ที่จะทำงานกับเครื่องมือในวิถีใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย เนื่องจาก ChatGPT อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องหรือปลายทางที่มีมีอคติ นักเรียนจึงต้องมีความสามารถที่จะแยกแยะเองได้ และประเมินผลลัพธ์ที่ถูกต้องและเที่ยงธรรมอย่างมีวิจารณญาณ” ชาน ชุน ซิงย้ำ

ในส่วนของการนำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในทางที่ผิดอย่างการโกงข้อสอบ ชาน ชุน ซิง กล่าวว่า การคดโกง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ก็ถือเป็น “ความท้าทายตลอดกาล” สำหรับนักการศึกษา และถือได้ว่าเป็น “เกมแมวจับหนู” ดังนั้น เทคโนโลยีตรวจจับการทุจริตใหม่ ๆ จึงเกิดขึ้นตามไปด้วย

“การคดโกงก็คือการคดโกง เราจะไม่ยอมให้เกิดการคดโกงขึ้นในสถาบันการศึกษาของเรา แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือวิธีการที่เราจะให้ความรู้แก่คนของเราในการยึดมั่นในคุณค่าพื้นฐานของการศึกษา วิธีการที่เราจะสอนให้พวกเขาให้เข้าใจว่า คุณค่าของสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่คืออะไร” ชาน ชุน ซิงระบุ 

ยิ่งไปกว่านั้น รัฐมนตรีศึกษาธิการสิงคโปร์ยังกล่าวอีกว่า แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้นักเรียนบางคนสามารถตอบคำถามได้ดีขึ้น แต่นักเรียนก็ต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลตามความเป็นจริง ก่อนจะย้ำถึงความสำคัญของการปลูกฝังหลักการ 3 ด้าน นั่นคือ ค้นพบ กลั่นกรอง แยกแยะ เพื่อให้นักเรียนรุ่นปัจจุบันได้นำ AI มาใช้กับการเรียนการศึกษาในทิศทางที่ถูกต้อง

“ในวันนี้ คุณค่าของเราไม่ใช่การพยายามตอบปัญหาของเมื่อวานด้วยคำตอบของเมื่อวาน แต่คือการสร้างวิธีการแก้ปัญหาให้กับวันพรุ่งนี้ สำหรับความท้าทายในวันต่อไป” ชาน ชุน ซิงกล่าวปิดท้าย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ประกาศ 5 เสาหลักยกเครื่องระบบการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สดใสในโลกที่ไม่แน่นอน

ที่มา : ChatGPT in schools: Tools to detect cheating in place, says Chan Chun Sing