มีช่องทางที่พร้อมเปิดรับอยู่เสมอ ถ้าเราไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

มีช่องทางที่พร้อมเปิดรับอยู่เสมอ ถ้าเราไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

แม้ในผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องมีวันรู้สึกท้อถอย คำกล่าวนี้อาจเป็นความจริง แต่เชื่อว่าทุกคนคงอยากจะรู้มากกว่าว่าหลังเผชิญความรู้สึกทดท้อ คนที่หัวใจแกร่งเหล่านั้น เขาทำอย่างไรเพื่อพาตนเองผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปได้

ซึ่งสำหรับ ‘น้องต้าร์’ ตะวัน สุโรพันธ์ นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับผู้มีความต้องการพิเศษ รุ่นแรก ที่เคยต้องหยุดชะงักจากการศึกษาเล่าเรียนที่เขารักไป 1 ปีเต็มๆ จนไม่แน่ใจในอนาคตของตัวเอง ได้บอกไว้ว่า ในช่วงที่รู้สึกท้อถอย มีเพียงความพยายามที่จะพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้น ที่พาเขาไปพบกับโอกาสใหม่ๆ และเมื่อได้รับโอกาสแล้ว เขาก็ใช้สิ่งนั้นมาเป็นพลังงานเพื่อขับเคลื่อนตนเองต่อไปไม่หยุด เพราะเป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่ได้เรียนหนังสือ แต่ความตั้งใจของน้องต้าร์คือการดูแลตนเองได้ทัดเทียมกับคนอื่นๆ และสามารถส่งต่อความรู้ โอกาส และกำลังใจไปสู่ผู้คนรอบๆ ตัวให้ได้ด้วย

 

ค้นพบตนเอง เมื่อเจอสิ่งที่รัก

น้องต้าร์เล่าเรื่องราวของตัวเองว่า ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ปวส.1 สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้จบชั้น ปวช. สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ จากโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ต้าร์บอกว่าเป็นโชคดีที่ได้รู้ว่าตนชื่นชอบในงานด้านคอมพิวเตอร์ เพราะความหลงใหลนี้เองที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งที่สำคัญใน

“ผมจำได้ว่ารู้ตัวว่าชอบเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่มัธยมต้น มันไม่ใช่แค่วิชาที่เราสนใจ แต่กลายเป็นว่าผมทำได้ดี จากนั้นผมก็ใช้เวลากับการศึกษาเรื่องคอมพิวเตอร์มาตลอด ทั้งด้วยตัวเองและมีคนอื่นสอนให้ พอขึ้นชั้น ปวช. ผมก็เลือกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แล้วเรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.75” ต้าร์ยืนยันด้วยผลการเรียนว่าสิ่งที่เลือกคือทางที่ใช่จริงๆ

 

1 ปีที่ขาดหาย กับทุนสายอาชีพเปลี่ยนชีวิต

“ตั้งแต่รู้ว่าชอบ ผมก็ตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าจะต้องทำจนเป็นอาชีพให้ได้” ต้าร์ระบุถึงแผนอนาคตที่วางไว้ตั้งแต่ยังเรียนชั้นมัธยมต้น แต่แล้วเขาก็ต้องเจออุปสรรคครั้งใหญ่ เมื่อเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนการสมัครเรียนต่อหลังจบ ปวช. ทำให้ต้องห่างหายจากการเรียนไป 1 ปีการศึกษา

“ผมตั้งใจสมัครเข้าเรียนที่สถาบันหนึ่ง แต่มันเกิดความผิดพลาดในการกรอกใบสมัคร รู้อีกทีก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว เลยต้องหยุดเรียนไปปีหนึ่ง ตอนแรกผมไม่อยากทำอะไรเลย เหมือนเราวางแผนและตั้งเป้าหมายไว้ พอมันต้องสะดุดก็รู้สึกท้อ เสียกำลังใจ ยิ่งคิดว่าเราไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น โอกาสก็ยิ่งน้อยอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราพยายามเต็มที่เพื่อพัฒนาตนเองให้ทันคนอื่น ให้ทัดเทียมเขาได้ พอต้องหยุดเรียน 1 ปี ก็กลัวว่าช่องห่างนั้นจะยิ่งถ่างออกไป” น้องต้าร์เผยความรู้สึกในใจครั้งพลาดโอกาสเรียนต่อ

ช่วงนั้นเองที่ครูจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ได้แนะนำให้ต้าร์รู้จัก ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงซึ่งกำลังรับสมัครเยาวชนผู้มีความต้องการพิเศษ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)

“ผมจำได้ว่าช่วงเวลาที่เคว้งอยู่ ครูบอกเราว่ามีทุนสำหรับผม พอผมรู้ว่าจะได้เรียนในสาขาที่ชอบต่อไปก็ตัดสินใจสมัครทันที เพราะอยากเรียนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมได้รับจริง ๆ หลังจากนั้นกลับมากกว่าการได้เรียน แต่มันยังช่วยเติมเต็มชีวิตด้านอื่นๆ ของผมได้อีกด้วย”

 

มากกว่าได้เรียนคือโอกาสพัฒนาตนเองเต็มศักยภาพ

หลังเข้ามาเป็นนักศึกษาทุนฯ ต้าร์ต้องปรับตัวหลายอย่าง ไม่เพียงแค่เรื่องเรียนที่หนักขึ้นและต้องทำความเข้าใจกับบทเรียนที่ซับซ้อนกว่าเดิม หากยังรวมไปถึงสิ่งอื่นรอบตัวทั้งการเปลี่ยนสังคมใหม่ การเดินทางไปเรียนที่ไกลขึ้น รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องทำในฐานะนักศึกษาชั้น ปวส. และการเป็นนักศึกษาทุนฯ แต่ด้วยระบบการดูแลของครูและวิทยาลัยที่ออกแบบไว้ การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระดับการศึกษาที่สูงขึ้นจึงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

“ตอนเรียน ปวช.เรามีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่กี่อย่าง แต่พอขึ้นชั้น ปวส. เราต้องตื่นตัวกับการเรียนมากขึ้น คิดตลอดว่าต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ วัน ข้อดีของการเป็นนักศึกษาทุนฯ คือผมได้ครูที่วิทยาลัยช่วยดูแลเรื่องการเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงความช่วยเหลือเรื่องรถรับส่งในการเดินทางด้วย เพราะตอนนี้ผมพักอยู่ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์แต่ต้องเดินทางมาเรียนที่วิทยาลัยสารพัดช่างซึ่งมีระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร

“ระบบการดูแลของวิทยาลัยที่มีกิจกรรมเสริมช่วยเปิดโลกผมในหลายด้าน ทั้งการได้พบได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อนต่างสาขา เปิดโอกาสให้ผมได้เข้าร่วมงานประกวดสิ่งประดิษฐ์ซึ่งผมส่งงานเข้าไป 2 ชิ้น คือหมอนนวดไฟฟ้า และ รองเท้านวด และได้รางวัลชมเชยกลับมา มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ผมไม่เคยได้รับ ซึ่งผมชอบและคิดว่าอยากเข้าแข่งขันอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ศักยภาพของตัวเอง” ต้าร์เผยประสบการณ์นักศึกษาทุนฯ

ขณะที่อีกกิจกรรมหนึ่งที่ต้าร์รักและทำมาตั้งแต่ครั้งยังเรียน ปวช. คืองานจิตอาสาซึ่งเจ้าตัวรับหน้าที่ดูแลห้องคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ โดยจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้น้องๆ คอยซ่อมแซมคอมพิวเตอร์และจัดการเรื่องระบบซอฟท์แวร์ต่างๆ พร้อมนำความรู้ที่ได้รับจากวิทยาลัยไปถ่ายทอดให้น้องอีกทอดหนึ่ง

“ผมไม่เคยรู้สึกเหนื่อยกับงานจิตอาสา สิ่งที่ดีคือเมื่อได้ทำสิ่งที่รักเราจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นงานเลย แต่เหมือนว่าเราได้มีโอกาสพัฒนาฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลา” น้องต้าร์กล่าว

 

โอกาสมีอยู่เสมอ ขอเพียงไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง 

เมื่อถามถึงอนาคต ต้าร์เปรยว่าเขาจะเดินต่อไปในเส้นทางที่เลือกเรียน คือทำงานในสายคอมพิวเตอร์ โดยถ้าไม่ได้ทำงานประจำ เขาตั้งใจว่าจะเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เล็กๆ ของตัวเอง ต้าร์ให้เหตุผลว่าอยากเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัวได้ ทั้งยังเป็นช่องทางที่เขาจะสามารถส่งต่อโอกาสให้คนอื่นได้อีกด้วย

“ถ้าผมมีร้านของตัวเอง ก็สามารถช่วยคนอื่นเรื่องโอกาสในการทำงานได้ ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อมองย้อนไปถ้าไม่ได้ทุนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร แต่การได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุนฯ ทำให้ผมพบว่าทุนนี้ช่วยได้มากกว่าเรื่องการเรียน แต่รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันและโอกาสที่จะช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ซึ่งจำเป็นมากสำหรับผม

“ผมจึงอยากให้กำลังใจทุกคนที่อาจมีความไม่พร้อมในบางด้าน แต่มีใจที่รักอยากเรียนหนังสือ อยากทำฝันของตนให้สำเร็จ ว่าโอกาสมันจะมีอยู่เสมอรอบๆ ตัวเรา มีคนที่พร้อมสนับสนุนช่วยเหลือเรา ขอแค่เราไม่หมดกำลังใจ อย่าหยุดสู้ และต้องพยายามพัฒนาตัวเองต่อไป แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นได้เอง สำหรับผมที่แม้จะไม่ได้สมบูรณ์พร้อมเหมือนคนอื่น แต่เมื่อได้รับโอกาสมาแล้ว ก็จะผลักดันตนเองให้มีความสามารถเท่าเทียมกับคนอื่นๆ ให้ได้” น้องต้าร์กล่าวทิ้งท้าย

 

ร่วมสร้างโอกาสไปกับ
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
www.eef.or.th/donate/
ธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์
เลขที่ : 172-0-30021-6
บัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค