ความห่วงใยจากครูถึงเด็กทุนนวัตกรรมฯ เพราะ ‘ความปลอดภัย’ คือสิ่งสำคัญที่สุด

ความห่วงใยจากครูถึงเด็กทุนนวัตกรรมฯ เพราะ ‘ความปลอดภัย’ คือสิ่งสำคัญที่สุด

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อคนทั่วประเทศ ในส่วนของสถาบันการศึกษาแม้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียนและได้หยุดกิจกรรมทุกอย่างไว้อย่างไม่มีกำหนด เพื่อรอวันที่สถานการณ์คลี่คลายลง ทว่างานของครูอาจารย์ไม่เคยมีวันหยุด

โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องเผชิญความเสี่ยงจากการติดเชื้อเช่นนี้ ความรักความห่วงใยของครูอาจารย์ต่อลูกศิษย์ก็ยิ่งแสดงออกได้ชัด จนกลายมาเป็นมาตรการความปลอดภัยที่คณะครูอาจารย์ต้องตัดสินใจกันอย่างเร่งด่วน รวมถึงการร่วมกันวางแผนหาทางรับมือต่อสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษากลุ่มนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ที่ต้องคอยดูแลลูกศิษย์ในทุกๆด้าน ทั้งการเรียนจนถึงชีวิตส่วนตัว อาจารย์คมสรรค์ ภูทอง ที่ปรึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง รุ่น 1 วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มกระจายความเสี่ยงไปในหลายพื้นที่ ทางวิทยาลัยได้ทำหนังสือไปถึงผู้ประกอบการเพื่อขอนำตัวนักศึกษากลับจากการฝึกงานในเบื้องต้น

จากนั้นจึงเข้าไปดูสถานที่ฝึกงานและพิจารณาเป็นรายกรณีว่าแต่ละคนมีความเสี่ยง หรือผลกระทบมากแค่ไหน หากนักศึกษาคนใดมีหน้าที่รับผิดชอบการฝึกงานในส่วนที่ไม่มีความเสี่ยง ทางวิทยาลัยจึงจะอนุญาตให้ฝึกงานต่อไปได้

“ในส่วนการเรียนการสอนภาคฤดูร้อนเราหยุดทุกชั้นเรียน แล้วใช้วิธีเรียนผ่านออนไลน์ ขณะที่ข่าวสารต่าง ๆ เราจะแจ้งนักศึกษาผ่านกรุ๊ปไลน์หรือเฟสบุ๊ค ต้องบอกว่าเครื่องมือสื่อสารออนไลน์เป็นช่องทางที่มีประโยชน์มากที่สุดในช่วงเวลานี้ เพราะทำให้เราในฐานะครูที่ปรึกษาสามารถติดตามนักศึกษาได้ใกล้ชิด คุยกันได้ตลอด การได้พูดคุยกับเด็กคือสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะช่วงนี้เด็กหลายคนเขาได้รับผลกระทบ บางคนทำงานพาร์ทไทม์เขาก็ต้องพักงานขาดรายได้ หรือบางคนผู้ปกครองเขาก็โดนลดวันทำงาน กลายเป็นปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่เราต้องคอยช่วยรับฟังและดูแลจิตใจเขาด้วย” อาจารย์คมสรรค์ กล่าว

 

ห่วงความปลอดภัย นำนักศึกษาฝึกงานกลับก่อนกำหนด

อีกวิทยาลัยอาชีวทางภาคใต้อย่างจังหวัดสตูล อาจารย์เกษร ปาละวัน รองผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนสตูล ในฐานะผู้ดูแลนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง รุ่น 1 วิทยาลัยชุมชนสตูล จ.สตูล ระบุว่า ‘เป็นนโยบายของทางวิทยาลัยว่าต้องคิดถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นอันดับแรก’ โดยล่าสุดหลังจากที่ได้คุยกับผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนสตูล ได้มีมติเร่งด่วนในการเรียกนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 1 กลับจากการฝึกงานทั้งหมด

โดยกลุ่มนักศึกษาทุนนวัตกรรมฯ ระดับอนุปริญญาปี 1 สาขาวิชาท่องเที่ยวทุกคน กำลังอยู่ในช่วงฝึกประสบการณ์การทำงานอยู่ที่โรงแรมบนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ซึ่งหลังจากประสานกับทางโรงแรมแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลในการขอยุติการฝึกประสบการณ์ระหว่างเรียน ทางคณะอาจารย์จาก วชช. สตูล จะเดินทางไปรับนักศึกษาทุกคนกลับโดยเร็วที่สุด

“ทางคณะอาจารย์รู้สึกไม่สบายใจกันทุกคนที่จะปล่อยให้เด็กต้องฝึกงานต่อ เพราะด้วยสาขาวิชาท่องเที่ยวต้องฝึกงานในโรงแรม เขาต้องเจอกับแขกของทางโรงแรมที่มาจากทั่วโลก ต้องทำงานบริการ งานห้องอาหาร หรืองานทำความสะอาด ซึ่งล้วนมีความเสี่ยงมากทั้งสิ้น จึงตัดสินใจกันว่าจะให้เด็กกลับ แล้วให้ทุกคนหยุดอยู่กับบ้านไปก่อนอย่างน้อย 1 เดือน จากนั้นอาจจะต้องนำระบบออนไลน์มาใช้รองรับการเรียนการสอนเป็นหลักจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ถ้าหากการแพร่ระบาดลดลงก็จะให้นักศึกษากลับมาเรียนชดเชย” อาจารย์เกษร กล่าวแสดงความห่วงใยและปรับรูปแบบการเรียน

อาจารย์เกษตร กล่าวต่อไปว่า นับตั้งแต่เริ่มมีข่าวการระบาดของโควิด-19 ทาง วชช.สตูล ได้วางมาตรการรับมือไว้อย่างรัดกุมทุกทาง เริ่มตั้งแต่ให้ความรู้กับนักศึกษาก่อนเดินทางไปฝึกงาน รวมถึงหลังจากเด็กเข้าฝึกงานแล้ว ทางคณะอาจารย์ยังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และเดินทางเข้าไปดูแลให้ความรู้นักศึกษาที่โรงแรมเป็นประจำ รวมถึงนำหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจลไปมอบให้ด้วย อีกทั้งการเข้าไปเยี่ยมเด็กแต่ละครั้งจะมีการเชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาล แพทย์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข้าไปบรรยายเกี่ยวกับความรู้เรื่องโรคและการป้องกันตัวเองให้เด็กทุกครั้ง

“เรื่องความปลอดภัยเรากำชับเด็กไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะลงไปฝึกประสบการณ์กันแล้ว เพราะงานที่เขาทำมันมีความเสี่ยง โรงแรมที่เด็กไปฝึกงานเขาก็ตื่นตัวมากกับเรื่องดังกล่าว มีการป้องกัน สอดส่องดูแลเด็กให้เว้นระยะห่างกับแขกของโรงแรมตามที่กำหนด เอาใจใส่ด้านที่พักและอาหารให้เด็ก ๆ เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมาถึงจุดนี้ ทาง วชช.สตูล ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพวกเขาก่อน จึงนำเด็กกลับมา” อาจารย์เกษร เล่าถึงสถานการณ์ปัจจุบัน