ระบบ ‘เพื่อนพิงค์’ ครูพี่เลี้ยง 1 ต่อ 1 แนะแนวชีวิตเด็กทุนนวัตกรรมฯ

ระบบ ‘เพื่อนพิงค์’ ครูพี่เลี้ยง 1 ต่อ 1 แนะแนวชีวิตเด็กทุนนวัตกรรมฯ

วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ใช้แนวทางดูแลนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 1 ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) อย่างใกล้ชิด ด้วยระบบ ‘เพื่อนพิงค์’ ผ่านการจัดสรรบุคลากรทั้งวิทยาลัยฯดูแลเด็กแบบ 1 ต่อ 1 ป้องกันทุกความเสี่ยงในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต โดยเฉพาะการศึกษา

นายพันธ์ศักดิ์ แสนอินต๊ะ ครูพี่เลี้ยงนักเรียนทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง รุ่น 1 วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง ระบุว่า ทางวิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง ได้สร้างระบบดูแลนักเรียนทุน ฯ โดยใช้บุคลากรหลายฝ่าย ตั้งแต่ครูที่ปรึกษาประจำแผนกดูแลเรื่องการเรียนของเด็ก ฝ่ายงานปกครองดูแลเรื่องพฤติกรรม และได้จัดตั้งคณะกรรมการกองทุน กสศ. ขึ้นเพื่อดูแลงานเกี่ยวกับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงโดยเฉพาะ รวมถึงยังมีระบบ ‘เพื่อนพิงค์’ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลด้านการเงินและให้คำปรึกษาเด็กในอัตราครู 1 คน ต่อเด็ก 1 คน ในฐานะครูพี่เลี้ยงที่สามารถรับฟังและช่วยแก้ไขปัญหาได้ตลอดเวลา

จากประสบการณ์การดูแลเด็กระดับชั้น ปวช. และ ปวส. ที่ผ่านมา ทางวิทยาลัยตระหนักว่าช่วงวัยรุ่น คือช่วงเวลาที่เด็กจะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งด้านร่างกายและสังคม เด็กหลายคนเริ่มมีอิสระกับการออกมาใช้ชีวิตลำพังในหอพัก โดยเฉพาะเด็กทุนนวัตกรรมฯ ที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กจากอำเภอห่างไกล ทางวิทยาลัยฯจึงวางระบบการดูแลเด็กโดยแบ่งบุคลากรออกเป็นหลายฝ่าย เพื่อติดตามให้ความช่วยเหลือเด็กได้ในทุกด้าน

“ปัญหาที่เกิดขึ้นในวัยเรียนคือสิ่งที่เราไม่โทษเด็ก มันเป็นช่วงวัย เป็นเรื่องวุฒิภาวะ เรื่องของการคบเพื่อน เป็นช่วงชีวิตที่รายล้อมด้วยความเสี่ยง ฉะนั้น สิ่งที่เราทำได้คือการป้องกันโดยให้ความใกล้ชิดกับเขา สร้างความไว้ใจให้เขากล้าเล่าปัญหาทุกเรื่องให้เราฟัง และในฐานะเพื่อนพิงค์ ครูจะต้องเป็นผู้รับฟังที่ดี ไม่ตัดสินเขา แต่จะนำปัญหาต่าง ๆ ที่เด็กเล่าให้ฟังมาช่วยหาวิธีการแก้ไข ความใกล้ชิดกับเด็กคือส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงปัญหาได้ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งทำให้สามารถปรับพฤติกรรมของเขาได้ก่อนจะสายเกินไป” นายพันธ์ศักดิ์อธิบาย

นายพันธ์ศักดิ์ ระบุอีกว่า ระบบเพื่อนพิงค์ไม่เพียงแต่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา แต่ยังช่วยให้เด็กที่เพิ่งห่างบ้านมาเรียนในระดับ ปวช. และ ปวส. ปี 1 สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ สังคมใหม่ และบทเรียนใหม่ได้ง่ายขึ้น นั่นเพราะเขามีครูพี่เลี้ยงที่ให้เวลาเพียงพอในการรับฟังและให้คำปรึกษาอย่างตั้งใจ อีกทั้งเพื่อนพิงค์ต้องเป็นผู้เซ็นรับทราบการเบิกจ่ายเงินทุกครั้ง และมีการหารือกับผู้ปกครองเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำความเข้าใจเด็กรอบด้าน

นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเราสนิทสนมใกล้ชิดเด็ก ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทุกด้านของเขา ทั้งบุคลิกภาพ ร่างกาย หรือพฤติกรรม กระบวนการในการสังเกตความเปลี่ยนแปลงและช่วยประคับประคองให้เขาพ้นจากทุกความเสี่ยงก็สามารถทำได้เมื่อยังไม่สายเกินไป ที่ผ่านมาเด็กหลายคนที่เราเห็นว่าเขาเข้าใกล้ความสุ่มเสี่ยง ครูเพื่อนพิงค์จะมองเห็นเป็นคนแรกและเข้าไปช่วยปรับพฤติกรรมได้ทันที

“เราเชื่อว่าความอยากรู้อยากลองเป็นพฤติกรรมที่มาพร้อมกับช่วงวัย การจะประคับประคองให้เขาผ่านพ้นไปจนพบเส้นทางสายอาชีพได้มันขึ้นอยู่กับการดูแลเป็นสำคัญ เราต้องเตือนให้เขาตระหนักว่า การเป็นนักเรียนทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง มันจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา จากบางคนที่แทบไม่มีโอกาสเรียนต่อก็ได้กลับมาเรียน จากอนาคตที่จะหยุดอยู่แค่วุฒิ ม.3 หรือ ปวช. ก็กลับกลายเป็นมีสิทธิ์ได้ทำงานสายอาชีพที่ตนรัก ดังนั้นถ้าเขาประพฤติดี ดูแลตัวเองได้ดี ทุนที่ได้รับจะเป็นประโยชน์และส่งเสริมให้เขาได้มีอนาคตที่ดี มีงานที่ดี ได้จุนเจือครอบครัวและมีโอกาสในชีวิตที่เปิดกว้างรออยู่อีกมาก” นายพันธ์ศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย