นักเคลื่อนไหวในสหรัฐฯ เรียกร้องขอขยายเวลาโครงการอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน

บรรดานักเคลื่อนไหวและองค์กรอิสระต่างพร้อมใจออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ พิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาโครงการอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือทางด้านอาหารอื่นๆ สำหรับเด็กนักเรียน ซึ่งกำลังจะถึงกำหนดหมดอายุการบังคับใช้โครงการในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า การยุติโครงการช่วยเหลือดังกล่าวในช่วงที่เกิดวิกฤตเงินเฟ้อมีแต่จะทำให้สถานการณ์โดยรวมทวีความรุนแรงมากขึ้น

บรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านความหิวโหยกล่าวว่า โครงการมื้ออาหารเช้าและกลางวันฟรีที่โรงเรียนของรัฐบาลกลางสำหรับนักเรียนโดยไม่คำนึงถึงรายได้ของครอบครัวที่จะหมดอายุในวันที่ 30 มิถุนายน แล้วยังไม่มีการพิจารณาขยายอายุโครงการเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกำจัดผลประโยชน์ที่ช่วยเด็กนักเรียนหลายล้านคนในเวลาที่เด็กเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือมากกว่าที่เคย

ทั้งนี้ โครงการอาหารโรงเรียนฟรีเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2020 เมื่อสภาคองเกรส สหรัฐฯ อนุญาตให้กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ออกระเบียบการยกเว้นราคาค่าโภชนาการสำหรับเด็กหลายสิบรายการ รวมถึงโครงการที่ขยายโครงการอาหารในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เพื่อช่วยเหลือในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19

รายงานระบุว่า หากโครงการสิ้นสุดตามกำหนด ไม่มีการต่ออายุ บรรดา ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะเกิดวิกฤตด้านการเงินในครอบครัว ที่นอกจากจะต้องเผชิญกับราคาสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน และที่อื่นๆ แล้ว ยังต้องสูญเสียการเข้าถึงอาหารที่บุตรหลานเคยได้รับในช่วงสองปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางด้านโรงอาหารที่ให้บริการนักเรียนก็กำลังเผชิญกับอุปสรรคด้วยเช่นกัน นั่นคือ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่ได้ผลักดันต้นทุนอาหารขึ้นอย่างมาก และทำให้ยากสำหรับทางโรงอาหารที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาหารกำหนดของ USDA ซึ่งระบุไว้อย่างเข้มงวด ทำให้หลายโรงอาหารที่เข้าร่วมโครงการคิดที่จะสละสิทธิ์เข้าร่วม เพื่อให้โรงอาหารมีความยืดหยุ่นในการจัดหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการโดยใช้สิ่งทดแทนอื่่น โดยต้องเผชิญบทลงโทษฐานไม่ทำตามข้อกำหนดที่ต้องตั้งไว้อย่างเคร่งครัด

Diane Pratt-Heavner โฆษกสมาคมโภชนาการโรงเรียน (School Nutrition Association) กล่าวว่า โครงการอาหารโรงเรียนกำลังเผชิญกับวิกฤตซ้อนวิกฤต ที่ทำให้ปัญหาซับซ้อนมากขึ้น โดยขณะที่เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางใกล้จะหมดลง ราคาอาหารที่แพงจนโรงเรียนต้องการจัดหาวัตถุดิบอื่นมาทดแทนยังขัดต่อระเบียบการจัดหาวัตถุดิบในการประกอบอาหารของทางการ

โฆษกสมาคมโภชนาการของโรงเรียน ซึ่งเป็นองค์กรการค้าที่เป็นตัวแทนของพนักงานด้านโภชนาการของโรงเรียนมากกว่า 50,000 คน กล่าวอีกว่า ทางสมาคมรู้สึกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการเงิน ยิ่งเมื่อโครงการอาหารฟรีแบบสากลกำลังจะหมดไป ทางสมาคมฯก็ยิ่งกังวลอย่างมากว่าจะมีเด็กๆ อีกมากตกอยู่ในความหิวโหยมากขึ้นในปีหน้า

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีโครงการช่วยเหลือด้านโภชนาการ  เด็กในครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 130% ของระดับความยากจนของรัฐบาลกลางมีสิทธิ์ได้รับอาหารโรงเรียนฟรี ในขณะที่เด็กในครอบครัวที่มีรายได้ระหว่าง 130% ถึง 185% ของระดับความยากจนจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดราคาอาหารผ่านโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งชาติของ USDA ( National School Lunch Program)

Jillien Meier ผู้อำนวยการเครือข่ายพันธมิตร No Kid Hungryกล่าวว่า ก่อนวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีนักเรียนทั่วสหรัฐฯ ประมาณ 21 ล้านคนเข้าถึงอาหารกลางวันฟรีหรืออาหารลดราคาในแต่ละวันที่โรงเรียน อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ปกครองไม่ต้องกรอกใบสมัครลงทะเบียนนักเรียนแสดงหลักฐานพิสูจน์คุณสมบัติให้ยุ่งยาก ทำให้มีนักเรียนสามารถรับโครงการอาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียนได้มากขึ้น

ภายใต้โครงการดังกล่าวทำให้โรงเรียนสามารถแจกจ่ายอาหารที่สามารถนำกลับไปรับประทานที่บ้านในกรณีที่อาศัยอยู่ห่างไกล ช่วยหลีกเลี่ยงความหิวโหยในเด็กที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการโครงการแจกอาหารฟรีเริ่มมีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ บวกต้นทุนค่าใช้ที่แพงขึ้น และการขาดแคลนพนักงาน ทำให้โครงการอาหารฟรีที่โรงเรียนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างยิ่ง 

สื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ รายงานว่า ทาง USDA หน่วยงานที่รับผิดชอบในโครงการดังกล่าวกำลังพิจารณาขยายอายุการใช้งานของโครงการออกไปอีก 1 ปี ขณะที่ทาง POLITICO รายงานว่า Mitch McConnell ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาและเหล่าสมาชิกพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับการขยายเงินทุนสำหรับมื้ออาหารของโรงเรียน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์ แต่ทางผู้ช่วยของMcConnellได้ออกมาปฎิเสธรายงานดังกล่าว 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของ USDA กล่าวว่า หากปราศจากการดำเนินการของรัฐสภา เครื่องมือของU SDAในการช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในโครงการจะมีอย่างจำกัด ซึ่งทาง USDA กำลังมองหาเครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อแบ่งเบาภาระขอวิกฤตการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในเขตการศึกษา แต่ปัญหาดังกล่าวต้องอาศัยการอนุมัติรับรองผ่านรัฐสภา ก่อนย้ำว่าทางหน่วยงานกำลังอยู่ในระหว่างการประเมินทางเลือกในการช่วยเหลือเพิ่มเติม

ขณะที่ฝ่ายนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนโครงการดังกล่าว แสดงความเห็นว่า เงินช่วยเหลือที่้ใช้ในโครงการอาหารเช้าและอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียนในสหรัฐฯ ค่อนข้างกำหนดอยู่ในกรอบที่แคบเกินไป ทำให้ไม่ครอบคลุมหลายครอบครัวที่ประสบปัญหาในการหาเงิน 

ตามข้อมูลของ School Nutrition Association พบว่า ครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คนจะต้องมีรายได้ 34,450 ดอลลาร์สหรัฐหรือน้อยกว่าในปีการศึกษา 2021 ถึง 2022 จึงจะมีสิทธิ์ได้รับอาหารฟรี หรือ ที่ 49,025 ดอลลาร์สหรัฐ หรือน้อยกว่าจึงจะมีสิทธิ์ได้รับค่าอาหารลดราคา 

นอกจากนี้ ราคาอาหารของโรงเรียนแต่ละแห่งทั่วประเทศก็มีความแตกต่างกันไป โดยข้อมูลล่าสุดจาก USDA พบว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา 2016 ถึง 2017 ค่าอาหารเช้าของโรงเรียนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.48 ดอลลาร์ ส่วนอาหารกลางวันที่โรงเรียนเฉลี่ย 2.57 ดอลลาร์ 

ดังนั้น หมายความว่าสำหรับครอบครัวที่มีลูกสองคน ค่าอาหารเช้าและอาหารกลางวันจะอยู่ที่ 8.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน หรือ 1,458 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีการศึกษา (180 วัน) แต่ด้วยราคาอาหารที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายฝ่ายเกรงว่า ต้นทุนดังกล่าวอาจไม่เพียงพอ 

Kellie Crawford ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์และบรรณารักษ์ห้องสมุดตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในเมือง Spokane รัฐ Washington กล่าวว่า ประโยชน์ของโปรแกรมมื้ออาหารในโรงเรียนแบบสากลนั้นมีมากกว่าเป็นแค่การให้การช่วยเหลือด้านการเงิน โดยเมื่อนักเรียนของตนทุกคนที่สามารถเข้าร่วมโครงการอาหารฟรีหรือได้รับส่วนลดราคาอาหาร ความสนใจโดยรวมและระดับพลังงานของชั้นเรียนก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเรียนมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น 

Crawford กล่าวอีกว่า รู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องเห็นนักเรียนมานั่งเครียดเกี่ยวกับยอดเงินในบัญชีอาหารกลางวันเหลือน้อยหรือว่างเปล่าอีกต่อไป

ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดหวังว่า ทางสภาคองเกรสของสหรัฐฯ จะอนุมัติขยายโครงการอาหารฟรีที่โรงเรียน โดยมีรัฐบาลท้องถิ่นบางรัฐ เช่น แคลิฟอร์เนีย ได้ผ่านโครงการอาหารกลางวันฟรีชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว โดยผันงบช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางมาใช้ “เช่นเดียวกับที่เด็กๆ ได้นั่งรถบัสไปโรงเรียนและเรียนรู้จากหนังสือเรียนฟรี พวกเขาต้องการอาหารระหว่างวันเพื่อให้สามารถมีสมาธิกับการเรียนได้” Pratt-Heavner กล่าวปิดท้าย

ที่มา : Free school lunches for all set to end, creating ‘perfect storm’ amid high inflation