เส้นทางชีวิตฉบับย่อของ ‘นน’ นนท์บดี เพิ่มลาภ นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพรุ่น 1 จากวิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี สาขาอิเล็กทรอนิกส์-แมคคาทรอนิกส์ หลักสูตร ปวส. 2 ปี ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานในตำแหน่ง ‘technician’ แผนก Quality Assurance ของบริษัทชั้นนำในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน หลังผ่านประสบการณ์ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญช่วงเรียนชั้น ปวส. ที่เขาบอกว่าตั้งแต่ได้ทุน ชีวิตเปลี่ยนไปมาก แม่เหนื่อยน้อยลง ไม่ต้องเรียนไปเครียดไปเพราะค่าใช้จ่ายเรื่องเรียน จนวันนี้ นนเรียนจบแล้ว ได้ทำงานในสายอาชีพที่ร่ำเรียนมา โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร แล้วยังสามารถหล่อเลี้ยงความฝันความตั้งใจไว้เป็นแรงขับของชีวิต …อย่างที่เขา ‘ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้’
“เพราะถ้าพี่รู้ว่าก่อนหน้านี้ชีวิตผมเป็นยังไง พี่จะนึกไม่ออกเลยว่าทำไมผมถึงบอกว่าชีวิตสามัญธรรมดาอย่างการเรียนจบแล้วมีงานทำ มันถึงเป็นสิ่งที่ผมเคยคิดว่าอาจเป็นไปไม่ได้” นนขยายความ ก่อนเล่าต่อว่าตอนจบชั้น ปวช. ชีวิตเขาอยู่ตรงจุดก้ำกึ่งว่าจะไปทางไหนดี โดยเฉพาะการเลือกสาขาที่อยากเรียน ด้วยกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะตามมา
“ตอนจบ ปวช. ผมไม่มั่นใจอะไรเลย พยายามหาข้อมูลตลาดแรงงานว่าเขาต้องการสาขาไหน ใจเราชอบพวกอิเล็กทรอนิกส์ แต่รู้ว่าเป็นสาขาที่ใช้เงินเยอะ ถ้าเรียนในระดับ ปวส. ทั้งค่าเทอม ค่าอะไรต่าง ๆ เทอมหนึ่งแตะไปเกือบหมื่น ยิ่งประเมินเรื่องเงินที่ต้องใช้ระหว่างเรียนด้วย ก็ไม่รู้ว่าถ้าเลือกเรียนแล้วจะไปได้แค่ไหน”
ทุนนวัตกรรม ฯ รุ่นแรก โอกาสน้อยนิดที่ ‘ยังไงก็ต้องคว้า’
ในช่วงที่นนนยังลังเลหาทางไม่พบ เขาก็ได้ข้อมูลจากอาจารย์ว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กำลังสำรวจค้นหาน้อง ๆ ชั้น ม.3 และ ปวช. ที่ทั้งสนใจและมีแววความสามารถในสายอาชีพ เพื่อคัดเลือกเข้าเป็นนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง รุ่น 1
“เมื่อเห็นเงื่อนไขทุนว่ามีค่าเทอม มีค่าใช้จ่ายรายเดือนให้ ผมกลับไปคุยกับแม่กับยาย ว่าจะเลือกเรียนอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรม เขาก็เห็นด้วย ถึงตรงนั้นไม่คิดแล้วครับ ยังไงก็ต้องคว้าไว้ก่อน เหลือที่ต้องคิดแค่ว่าจะผ่านคัดเลือกได้ไหม จนพอประกาศรายชื่อมา ก็ต้องบอกว่าคือจุดนั้นเลยครับที่ทำให้ผมเรียนต่อมาได้”
‘ทางที่เปลี่ยนแปลง หลังชีวิตเปลี่ยนไป’
“ถึงจะเรียนมาตั้งแต่ ปวช. แต่เอาจริง ๆ ผมเพิ่งมากระจ่างว่าอิเล็กทรอนิกส์คืออะไรตอนไปฝึกงานช่วง ปวช. 3 นี่เอง เหมือนว่าเราต้องเรียนรู้เก็บเกี่ยวจากการลงมือปฏิบัติจริง ๆ พอได้เข้ามาต่อ ปวส. ยิ่งเริ่มเข้าถึงหัวใจของระบบ ว่าทำงานอย่างไร ต้องซ่อมแซมยังไง จากนั้นก็หาความรู้ต่อเนื่องไปเรื่อย งานบางอย่างก็ยังไม่ค่อยถนัดเช่นพวกเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ได้เพื่อนได้อาจารย์ช่วยกันสอนพื้นฐานจนแน่นครับ”
นนเล่าประสบการณ์ชั้น ปวส. ที่วิทยาลัยและ ‘ทุน’ เข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง จนเขาสรุปได้ว่า เส้นทางชีวิตได้เปลี่ยนไปจากตรงนั้น โดยเฉพาะตอนใกล้เรียนจบ นนต้องทำโปรเจคต์ใหญ่ แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยแรงหนุนจากทุน ฯ ที่รองรับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
“ต้องขอบคุณทุนเลยครับ ช่วยผมได้มาก ทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าอะไรต่าง ๆ ยิ่งวันนี้ที่มาทำงานแล้วนึกย้อนไป นอกจากความรู้ที่เรียนซึ่งเป็นวิชาชีพ ทุน ฯ ยังช่วยส่งเสริมทักษะชีวิต ให้โอกาสผมได้ทำกิจกรรม พบเจอเพื่อนเจอรุ่นน้องมากมายจากทั่วประเทศ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตกัน มันทำให้ทักษะสังคมเราดีขึ้นไม่รู้ตัว ได้ฝึกการทำงานเป็นทีมกับคนไม่รู้จักมาก่อน พรีเซนท์งานต่อหน้าคนเยอะ ๆ
“ที่ประทับใจที่สุดคือก่อนจบ กสศ. ชวนทำกิจกรรมเพื่อสังคม มีงบมาให้ เราก็คิดโปรเจกต์ปรับปรุงห้องน้ำที่วิทยาลัยให้ดีขึ้น พองานเสร็จ เราได้ทั้งความภูมิใจ ได้ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ แล้วเหมือนว่าความมีจิตอาสาในตัวเราได้บ่มเพาะขึ้นมา”
…แล้วก็ถึงวันที่นนเรียนจบ พร้อมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่ไม่มีใครบอกได้ว่าควรจัดการกับชีวิตอย่างไร ในวิกฤตการณ์ที่คนทั้งโลกล้วนต่างอยู่ในความไม่แน่นอนเทียมกัน
ประคองฝันไว้ได้ด้วย ‘เงินออม’
“ปีที่ผมจบ โควิดกำลังรุนแรงพอดี ผมต้องคิดว่าจะไปสอบเรียนต่อหรือเอายังไงดี แผนที่วางไว้คืออยากทำงานราชการในสายงานอิเล็กทรอนิกส์ที่ถนัด พอลองไปสอบดูก็ยังไม่ได้ แต่ก็เริ่มคิดว่าในสถานการณ์อย่างนี้ ควรแบ่งเบาภาระของที่บ้านด้วย เลยตัดสินใจหางานทำ จนมาได้งานที่บริษัทนี้ครับ”
นนเล่าถึงแผนชีวิตที่ตั้งใจจะมุ่งไปในสายราชการ ด้วยมองว่าเป็นอาชีพที่แม้ค่อย ๆ เติบโต ทว่าสิ่งที่ได้รับคือความมั่นคง รวมถึงมีสวัสดิการรองรับในระยะยาว “อย่างที่บอกว่าตั้งแต่ได้ทุน ทางบ้านก็ดีขึ้นมาก ไม่ต้องเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เงินที่ได้ตอนเรียนผมก็เก็บสะสมไว้เป็นทุนสำรอง เอามาเป็นค่าใช้จ่ายในการหางาน สมัครงาน ค่าเช่าที่อยู่ ค่าใช้จ่ายประจำวัน แล้วถ้าผมบริหารเงินได้ดี ทุนก้อนนี้จะช่วยผมได้จนวันที่สอบเข้าทำงานสายราชการที่ตั้งใจไว้ได้”
ลงสนามทำงานจริง
“ทุกสิ่งที่สะสมมาจากวิทยาลัย ได้เอามาใช้หมด”
เมื่อถามถึงความเปลี่ยนแปลงหลังเข้าสู่โลกการทำงานมาแล้วครึ่งปี นนบอกว่าประสบการณ์จากวิทยาลัยทุกด้านได้เอามาใช้ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การโชว์ผลงาน หรือ Portfolio ในวันวันสัมภาษณ์ซึ่งสร้างความประทับใจให้บริษัท ประกอบกับพื้นฐานทักษะวิชาชีพที่แข็งแรง ทั้งยังคล่องแคล่วกับการเข้าสังคมใหม่ และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีในการทำงานกับบริษัทต่างชาติ
“เหมือนสิ่งที่เราเรียนมา พอลงสนามทำงานจริงก็ได้ใช้ทั้งหมด อย่างแรกเขาถามเราก่อนเลยว่าเคยทำอะไรมาบ้าง ผมก็มีทั้งโครงงานที่ทำ มีประสบการณ์การเข้าแข่งขันทักษะอาชีพ มีพอร์ตงานด้านจิตอาสา คือเราพร้อมหมดทุกอย่าง พอเข้าทำงานจริงทุกอย่างก็ราบรื่นดีครับ ค่อย ๆ เรียนรู้ปรับตัวไป ผมเป็นเด็กใหม่ก็ดีใจ ที่เข้ามาแล้วตามพวกพี่ ๆ เขาทัน สามารถทำงานได้”
ก่อนจบการสนทนา นนได้ทิ้งท้ายฝากไว้ในฐานะนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่นแรกว่า ขอขอบคุณทุนนี้ที่ทำให้เส้นทางชีวิตของเขาและครอบครัวเปลี่ยนแปลงไป ส่วนสำหรับรุ่นน้องหรือเพื่อน ๆ ที่จบการศึกษาในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากสถานการณ์โควิดเช่นเดียวกัน อยากให้ทุกคนพยายามมาก ๆ และตระหนักถึงสิ่งสำคัญสามอย่าง คือ ‘ขยัน อดทน และตรงต่อเวลา’ ซึ่งจะช่วยให้เราเป็นที่เชื่อถือยอมรับ และสามารถพัฒนาตนเองได้ไม่สิ้นสุด แล้วจากนั้นเส้นทางการศึกษาหรือการทำงานที่รออยู่ข้างหน้าจะเปิดกว้างยิ่งขึ้น
นี่คือเรื่องราวของ ‘นน’ นักศึกษาทุน ฯ รุ่น 1 ที่ใช้โอกาสทางการศึกษาทลายขีดจำกัด จนวันนี้สามารถเป็นสมาชิกคนแรกของครอบครัวที่จบการศึกษาสูงกว่าขั้นพื้นฐานได้ในที่สุด ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้อง ๆ รุ่นต่อไปก้าวตามมาบนเส้นทางเดียวกัน
