‘SIM พร้อมเรียน’ นำโอกาสการศึกษาสู่พื้นที่สูง เปิดโลกเรียนรู้ให้นักเรียนทุนเสมอภาคโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ แม่ฮ่องสอน

‘SIM พร้อมเรียน’ นำโอกาสการศึกษาสู่พื้นที่สูง เปิดโลกเรียนรู้ให้นักเรียนทุนเสมอภาคโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ แม่ฮ่องสอน

“สำหรับเด็กที่อยู่ไกลจากศูนย์กลางความเจริญเป็นร้อยเป็นพันกิโลเมตร การส่งเสริมให้เขาแสวงหาความรู้ด้วยตัวเองได้ มีลักษณะนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนติดตัวไป เท่ากับเราช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตและใช้ชีวิตในสังคม และวิธีที่สะดวก เร็วที่สุดที่ทำได้ตอนนี้คือทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างเสมอภาคมากขึ้น”  

นายสมบัติ ยาวิชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พูดถึงความสำคัญของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในฐานะ ‘เครื่องมือร่นระยะห่างของช่องว่างความเหลื่อมล้ำ’ ระหว่าง ‘เมืองใหญ่’ กับ ‘พื้นที่ห่างไกล’ ให้แคบลง ในวันที่ กสศ. ชวนตัวแทนแพลตฟอร์มการเรียนรู้ We Space, Buddy Thai และ เว็บไซต์ส่องทางทุนของเรา ไปทำกิจกรรมแนะนำการใช้งานแพลตฟอร์มการเรียนรู้จาก ‘SIM พร้อมเรียน’ หรือ ‘ซิมการ์ดแห่งการเรียนรู้’ ที่จะช่วย ‘เปิดเน็ตให้น้อง ๆ ในพื้นที่ห่างไกล’ และ ‘ปิดความไม่พร้อมทางการศึกษา’ ที่ กสศ. ร่วมมือกับ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่าย Infinite Sim เพื่อสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาค ระดับ ป.6 – ม.3 ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตฟรีเพื่อการศึกษา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม 2568 นี้

กิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะเป็นการชวนน้อง ๆ นักเรียนทุนเสมอภาคชั้นมัธยมต้นโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ทั้ง 162 คน มาทำความรู้จักพื้นที่การเรียนรู้ด้วยตนเองที่มาพร้อมกับ SIM พร้อมเรียน ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน 3 ฐาน ได้แก่ 1.ค้นหาตัวเองและต่อยอดความสนใจ 2.เสริมสร้างสุขภาพใจให้แข็งแรง และ 3.แนะนำโอกาสการศึกษาต่อ เรายังถือโอกาสนี้ไปสำรวจความพร้อมและอุปสรรคของเด็ก ๆ ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงหลังได้รับ SIM พร้อมเรียน รวมถึงหลังใช้งานแล้วน้อง ๆ มีความเห็นและข้อเสนอแนะอย่างไร  

ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ ขยายให้เห็นภาพว่าโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์เป็นโรงเรียนขยายโอกาส จัดการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 ถึง ม.3 ลักษณะสำคัญคือนักเรียนส่วนใหญ่คือเด็กที่มีภูมิลำเนาใกล้บริเวณตะเข็บชายแดน ซึ่งห่างออกจากโรงเรียนไปมากจนเกินกว่าจะเดินทางไปกลับได้ทุกวัน เด็กมากกว่าครึ่งหนึ่งจึงอาศัยพักนอนที่โรงเรียน และด้วยบริบทของความห่างไกล น้อง ๆ จำนวนไม่น้อยจึงขาดแคลนโอกาสทั้งด้านการศึกษาและคุณภาพชีวิต ดังนั้นทางโรงเรียนจึงมีแนวทางจัดการเรียนรู้ที่ผสานเนื้อหาวิชาการ เข้ากับการปลูกฝังพัฒนาทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต โดยใช้ ‘เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต’ เป็นสื่อ    

“ทุกวันนี้การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดแค่ในห้องเรียนอีกแล้ว โลกอินเทอร์เน็ตคือคลังความรู้กว้างใหญ่ที่เด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ แต่นั่นมีข้อแม้ว่าทุกอย่างต้องพร้อม ไม่ว่าเครื่องมือหรือสัญญาณเน็ต ขณะที่ครูเราพยายามส่งเสริมให้นักเรียนใช้สื่อออนไลน์เพื่อค้นหาความรู้ตามนโยบาย Anywhere Anytime ผ่านคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนบ้าง หรือสมาร์ตโฟนบ้าง 

“อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญคือนักเรียนหลายคนไม่มีโทรศัพท์ ทำให้เขาต้องแก้ปัญหาโดยใช้วิธีดูกับเพื่อนหรือใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียน ซึ่งหมายถึงเด็กกลุ่มนี้จะมีข้อจำกัดคือความสะดวกในการใช้ และคือภาพสะท้อนว่าแม้เด็กในพื้นที่เดียวกันเองก็ยังมีความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงโอกาส อันเนื่องมาจากความไม่พร้อมด้านฐานะ ฉะนั้นแนวคิดของการมอบ SIM พร้อมเรียนให้น้อง ๆ ทุนเสมอภาคจึงเท่ากับเป็นการเปิดโลกของเด็ก ๆ และคือการเพิ่มโอกาสสร้างทักษะการหาความรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งมันจำเป็นมาก ๆ กับการใช้ชีวิตของคนในยุคสมัยนี้”

ผอ.สมบัติ เล่าว่าเมื่อนักเรียนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างเสมอภาค ครูก็จัดการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์เด็กทุกคนได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาครูไม่พอต่อจำนวนเด็ก หรือทดแทนเรื่องความไม่พร้อมของสื่อการสอนในบางรายวิชา 

“เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าถ้าครูเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้แนะนำ ผู้ให้คำปรึกษา หรือผู้ชี้ทางไปสู่ความรู้ให้เด็กได้ การเรียนรู้นั้นก็จะ ‘ก้าวไปไกล’ ได้ยิ่งกว่าเพียงบนตำราเรียนหรือในห้องเรียนอย่างเดียว

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเปิดโลกทั้งใบให้เด็ก ๆ ของเราเห็น พวกเขาจึงรับรู้ได้เพียงชีวิตของผู้คนรอบตัวและกิจวัตรประจำวันไม่กี่อย่าง ขณะที่เด็กในเมืองใหญ่เขาเห็นความเคลื่อนไหวมากกว่า สัมผัสและเข้าถึงความหลากหลายได้ตลอดเวลา มันก็ทำให้เกิดช่องว่างที่ค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นของความรู้ แต่วันนี้อินเทอร์เน็ตทำให้ความต่างนั้นแคบลงแล้ว ด้วยคอนเทนต์ต่าง ๆ หรือบทเรียนสำเร็จรูปมากมายที่รอให้เด็ก ๆ เข้าไปค้นคว้าทดลอง กระทั่งการเรียนรู้เรื่องทักษะอาชีพ งานอดิเรก หรือการเล่นกีฬา ใครชอบสิ่งไหนก็เลือกดูได้ตามความสนใจ แล้วพอเข้าถึงแหล่งความรู้มากขึ้น ในระยะยาวภาพของเด็กทั้งโรงเรียนก็จะเปลี่ยนไป หรือถ้าพูดถึงเรื่องเป้าหมายการศึกษาก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนตามไปด้วย เพราะเขารู้แล้วว่าตัวเองชอบอะไร อยากเรียนอะไร จะพาชีวิตไปทางไหน”

ครูแจ็ค อภิเชษฐ์ หมื่นเทพ ครูคอมพิวเตอร์โรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ ย้ำสิ่งที่ ผอ. สมบัติกล่าวว่า “ถ้าจะวัดความด้อยโอกาส ณ วันนี้ เราอาจไม่ใช้ความห่างไกลเป็นตัวตั้งอีกต่อไป แต่กลายเป็นต้องดูกันที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากกว่า” 

และนั่นเองเป็นที่มาของการที่ครูโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้ 

“ถึงโรงเรียนเราตั้งอยู่ห่างไกล แต่เรามีเด็ก ๆ ที่สนใจการเต้น การทำอาหาร มีแรงบันดาลใจที่จะประกอบอาชีพใหม่ ๆ แต่ก่อนหน้านี้ก็ค่อนข้างลำบากต่อการสืบค้นข้อมูลหรือการทดลองปฏิบัติ เพราะข้อจำกัดเรื่องอุปกรณ์สื่อสาร หรือสัญญาณเน็ตที่ไม่ครอบคลุม อย่างไรก็ตามการจัดการเรียนการสอนที่พาเด็กท่องไปบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยครูจะเป็นคนแนะนำช่องทางหาความรู้ เปิดคลิปน่าสนใจให้เด็กได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการปลูกฝังนิสัยใฝ่รู้ให้ติดตัวเด็ก ๆ ไป

“ด้วยความไม่เสถียรของสัญญาณ ครูจะพยายามโหลดคลิปโหลดไฟล์เก็บไว้ เมื่อก่อนเราทำกันอย่างนี้ เพื่อพยายามหาช่องทาง หาโลกใบใหม่ ๆ มาเปิดให้นักเรียนได้เห็น จนวันนี้ที่มี SIM พร้อมเรียน เรายิ่งเชื่อแล้วว่ามาถูกทาง เพราะเด็ก ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถต่อยอดการค้นคว้าเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ หรือมีทักษะการเข้าถึงข้อมูลตามโจทย์ที่ครูให้ในชั้นเรียนได้ 

“การเห็นวิธีการมันสำคัญมากต่อความช้าเร็วในการเรียนรู้ บางอย่างถ้าเด็กไม่เห็นก็ไม่อาจทำตามได้ หรือไม่เข้าใจได้ว่าคืออะไร แต่พอเห็นแล้ว เขาทดลองทำตามได้ ไม่นานทักษะก็ดีขึ้น อีกประการหนึ่งคือสำหรับเด็กที่กำลังจะจบ ม.3 การมีอินเทอร์เน็ตจะช่วยเรื่องหาข้อมูลเรียนต่อตามทางที่สนใจ หรือสำหรับคนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เขาก็สามารถสืบค้นช่องทางหาทุนการศึกษา หรือหางานพิเศษทำพร้อมกับเรียนไปด้วยได้ นอกจากนี้ในสื่อออนไลน์ทุกวันนี้ยังมีคอนเทนต์เกี่ยวกับการเตรียมสอบหรือติวก่อนสอบจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียง เราก็จะช่วยแนะนำนักเรียนให้เข้าถึงได้อีกด้วย”

ครูแจ็คฝากไว้ว่า หากจะมีการต่อยอดโครงการทดลอง SIM พร้อมเรียนหลังจาก 6 เดือนผ่านไปแล้ว ก็อยากให้พิจารณาทำเป็น SIM รายปีการศึกษา เพื่อขยายเวลาและโอกาสให้กับเด็ก ๆ หรือถ้าจะมีโครงการที่ทำเป็น SIM ราคาถูกเพื่อการศึกษาที่มีแอปพลิเคชันส่งเสริมเรื่องการค้นหาตัวเอง แนะแนวทุนการศึกษา และการดูแลสุขภาพใจเช่นที่ SIM พร้อมเรียนเริ่มต้นไว้ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาที่เสมอภาคสำหรับเด็กทุกคนได้ดียิ่งขึ้น 

ถ้าเราจะพัฒนาเด็กในพื้นที่ห่างไกล ก็อาจต้องเริ่มจากการหันมามองเด็ก ๆ ที่ขาดโอกาสเหล่านี้ โดยให้เทคโนโลยีเป็นปัจจัยพื้นฐานของการเข้าถึงความรู้ เพื่อที่เขาจะสามารถพัฒนาตัวเองและมีทางไปต่อในอนาคต ดังนั้นถ้าถามว่าอินเทอร์เน็ตฟรีหรือราคาถูกและทั่วถึงจะมีประโยชน์แค่ไหน ตอบได้เต็มปากว่ามันเพิ่มโอกาสทางการเรียนรู้แน่ ๆ หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ”

เมื่อเจาะจงที่ผู้ใช้งาน ซึ่งคือน้อง ๆ นักเรียนชั้น ม.1-ม.3 ของโรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ น้องไอรีน อัญชลี วิมานสาคร นักเรียนชั้น ม.3 บอกว่า ก่อนมีซิมพร้อมเรียนจะใช้ Wi-Fi ของโรงเรียนเพื่อหาความรู้ ซึ่งจะมีปัญหาหลักคือพอคนใช้พร้อมกันมาก ๆ เข้า สัญญาณจะช้า หรือนอกจากที่โรงเรียนแล้วก็ไม่สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตได้เลย ขอบเขตการใช้งานจึงค่อนข้างจำกัด แต่พอได้รับ SIM พร้อมเรียน ตอนนี้จึงเรียนรู้ได้ทุกที่ ส่วนสำหรับปิดเทอมนี้ก็เริ่มรู้สึกมั่นใจกับอนาคตมากขึ้น เพราะจะมีช่องทางหาข้อมูลเพื่อวางแผนเรียนต่อ และออกแบบเส้นทางอนาคตต่อไป

(ไอรีน) 

น้องชม ชมพูนุท วนาเจริญยศ ชั้น ม.3 บอกว่า “เมื่อก่อนต้องรบกวนพ่อแม่เพื่อเติมเงินอินเทอร์เน็ตเดือนละ 100-200 บาท พอมี SIM พร้อมเรียนจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถเก็บเงินส่วนนี้ไว้สำหรับการสมัครสอบเรียนต่อได้ และส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่มีอินเทอร์เน็ต เราจะไม่มีทางเรียนรู้ได้เท่าทันเพื่อนในพื้นที่อื่น ๆ ได้เลยค่ะ หนูจึงคิดว่าซิมนี้จะช่วยให้เด็กทุกคนมีโอกาสมากขึ้น และไม่ใช่แค่เรื่องไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ใน SIM พร้อมเรียน ยังมีแอปพลิเคชันที่เป็นสื่อการเรียนการสอนให้ค้นคว้ามากมาย และนอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องการค้นหาตัวเองว่าชอบไม่ชอบอะไร หรือถ้าเรารู้ตัวแล้วว่าชอบอะไรสักอย่าง ก็ยังมีข้อมูลที่บอกเราได้อีกว่าจะมีวิธีไปต่อในเส้นทางนั้นได้อย่างไร”   

(ชม) 

น้องโปโป วรรณษา ชัยมโนกุล ชั้น ม.3 บอกว่า “ตั้งแต่มี SIM พร้อมเรียนก็เซฟค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แล้วยังช่วยให้เข้าถึงข้อมูลสำคัญ ๆ บนโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ส่วนถ้าจะมีข้อแนะนำก็อยากเสนอว่า อยากให้ขยายเวลาใช้งานออกไปเป็นสักหนึ่งปี เพราะว่ามันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กอีกหลาย ๆ คนได้จริง ๆ ค่ะ”  

(โปโป) 

น้องกาย ตติธัช นิธิพุทธิขจร ชั้น ม.2 บอกว่า สิ่งที่ชอบที่สุดใน SIM พร้อมเรียนและกิจกรรมครั้งนี้ คือการใช้งานที่สะดวก ไม่ต้องรอใช้ Wi-Fi เฉพาะที่โรงเรียนอย่างเดียว ซึ่งทำให้การใช้งานเปิดกว้างจากเรื่องเรียนไปสู่สิ่งที่สนใจเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา และที่ชอบที่สุดคือเว็บไซต์ส่องทางทุน ที่ช่วยเรื่องการหาทุนเรียนต่อในระดับสูง ซึ่งจะเป็นเหมือนคู่มือสำหรับวางแผนการศึกษาต่อไป

(กาย) 

และ ต้น กิตติภัทร นาทีทองเด่น ชั้น ม.3 บอกว่า “อินเทอร์เน็ตคือตัวช่วยอันดับหนึ่งในการค้นคว้าสิ่งที่เรายังไม่รู้ สำหรับผมนอกจากเรื่องเรียนก็ใช้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย ผ่านช่องทางยูทูปและติ๊กตอก และตั้งแต่มี SIM พร้อมเรียนก็รู้สึกสะดวกเพราะใช้อินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ จึงอยากให้โอกาสแบบนี้มีบ่อย ๆ และเผื่อแผ่ไปถึงเด็กทุก ๆ คนด้วยครับ”       

(ต้น)

และปิดท้ายด้วยเสียงของพี่ ๆ ผู้มาจัดกิจกรรมแนะนำการใช้งานแพลตฟอร์มการเรียนรู้จาก ‘SIM พร้อมเรียน’ ให้กับน้อง ๆ ว่าพวกเขา ‘เห็น’ หรือ ‘ได้รับบทเรียน’ ใดบ้าง จากการมาพบน้อง ๆ โรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ครั้งนี้ เริ่มจาก พี่นัน กุลนันท์ พันธุ์อนุกูล จาก WE Space กับ ‘ฐานการค้นหาตัวเองและต่อยอดความสนใจ’ 

“กิจกรรมหลัก ๆ วันนี้ เราเน้นให้น้อง ๆ ได้เล่น โดยจะสอดแทรกเรื่อง Mindset เกี่ยวกับสิ่งที่สนใจ สิ่งที่ชอบ หรือสิ่งที่ถนัด ซึ่งของอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องรู้ในวันเดียว แต่คือสิ่งที่จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากสิ่งที่เราสนใจในตอนนี้ ซึ่งค้นหาได้จากสิ่งที่แต่ละคนชอบมากที่สุด ก็พยายามพาเด็ก ๆ ทำความเข้าใจเรื่องนี้

“สิ่งที่ได้พบคือน้อง ๆ ที่นี่ต้องบอกว่ามีระบบความคิดที่ดีมาก คือต่อให้เป็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่เรารับรู้ได้ถึงความพยายามของครูในการปลูกฝังการต่อยอดความสนใจต่าง ๆ พอถามกับน้อง ๆ ก็ได้คำตอบว่าอินเทอร์เน็ตสำคัญมาก ๆ ต่อการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่กว้างไปกว่าแค่ในห้องเรียนหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งมันยืนยันได้ว่า ถ้าเด็กคนหนึ่งได้เห็นได้รับรู้ข้อมูลอื่น ๆ ว่าโลกใบนี้มีศาสตร์ มีอาชีพ มีหลักสูตรเรียนรู้ และมีกิจกรรมอีกมาก เขาก็จะพบหนทางพัฒนาตัวเองได้ มีความอยากรู้อยากเห็นที่เปิดกว้าง และนั่นหมายถึงโอกาสในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย”

พี่ขนม ขวัญเนตร สีดาจิตร์ จาก Buddy Thai Application กับ ‘ฐานเสริมสร้างสุขภาพใจให้แข็งแรง’ กล่าวว่า Buddy Thai Application เป็นแอปพลิเคชันสำหรับช่วยดูแลสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน วันนี้ตั้งใจมาชวนน้อง ๆ ให้หมั่นตรวจสอบสุขภาวะจิตใจตัวเอง เพื่อบริหารจัดการเกี่ยวกับความรู้สึกภายในที่เกิดขึ้น 

“แอป ฯ ของเรานอกจากดูแลเรื่องความตระหนักรู้เกี่ยวกับตัวเองแล้ว เราจะบอกน้อง ๆ ด้วยว่าเมื่อพบปัญหา เขาจะขอความช่วยเหลือได้อย่างไร ซึ่งการพบกันวันนี้ทำให้เราเห็นถึงประโยชน์ของการขยายโอกาสผ่านเครื่องมือและเทคโนโลยี ไม่เฉพาะเรื่องการศึกษา แต่ยังเป็นเรื่องช่องทางการเข้าถึงการดูแลจิตใจ ซึ่งน้อง ๆ บางคนไม่รู้ว่าคือสิ่งสำคัญ จนพอเรามาย้ำประเด็นนี้ เขาจึงได้เพ่งไปที่การให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้น ดังนั้นถ้าถามว่าอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้แค่ไหน ต้องบอกว่าคือช่องทางสำคัญช่องทางหนึ่ง ที่จะช่วยให้เด็กที่เคยเข้าไม่ถึงโอกาสได้รับการดูแลมากขึ้น และอยากฝากไว้ว่า เด็กทุกคนต้องการโอกาส ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละฝ่ายจะมีช่องทางการให้โอกาสเขาอย่างไร ดังนั้นสำหรับใครก็ตามที่สนใจ อยากให้ลองก้าวออกมามอบโอกาสให้น้อง ๆ สักกลุ่มหรือสักหนึ่งโรงเรียน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็ก ๆ ในวันข้างหน้า”

ด้าน เบญจมาภรณ์ จันทนา นักวิชาการจากสำนักพัฒนาหลักประกันโอกาสทางการศึกษา กสศ. กับ ‘ฐานแนะนำโอกาสการศึกษาต่อ’ ผ่านเว็บไซต์ ‘ส่องทางทุน’ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นการให้น้อง ๆ ได้สะท้อนถึงความชอบหรือความสนใจที่จะพาไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคต และแนะแนวทางการศึกษาต่อผ่านทุนการศึกษาที่สอดคล้องต่อความสนใจนั้น ๆ 

“สิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้คือเราเห็นความฝันของเด็ก ๆ ที่หลากหลาย คือเด็กบางคนสนใจอาชีพที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลัก หรือนอกจากนั้นยังสะท้อนความชอบความสนใจที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินกว่าที่เราคาดไว้ ตรงนี้ทำให้เราเชื่อในเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะสำหรับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เพราะพอเขามีข้อมูล มีทักษะการสืบค้นข้อมูล เราเห็นเลยว่าช่องว่างของความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติต่าง ๆ มันลดช่องว่างจากเด็กในพื้นที่อื่น ๆ ลงมาก 

“ส่วนเป้าหมายของส่องทางทุน คือเราจะเป็นคลังข้อมูลที่รวบรวมไว้ด้วยทุนต่าง ๆ โดยจำแนกประเภททุน ลักษณะทุน รวมถึงวิธีการค้นหาและไปถึงทุนการศึกษาที่เหมาะกับแผนการศึกษาของแต่ละคน ซึ่งจะทำให้น้อง ๆ มองเห็นเส้นทางตั้งแต่เขายังอยู่ชั้นมัธยมต้น ว่าแต่ละคนจะไปต่อมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยอย่างไร หรือถ้าเลือกเรียนสายอาชีพควรเรียนสาขาใด สถาบันไหน แล้วจะมีทุนใดรองรับบ้าง ซึ่งส่องทางทุนจะช่วยให้เห็นว่าทุนการศึกษาที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดเตรียมไว้แตกต่างกันอย่างไร เช่น มีทุนที่ให้เปล่า ทุนที่ให้ต่อเนื่อง ทุนที่ให้ครั้งเดียว หรือมีทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่จะช่วยต่อยอดเส้นทางเรียนรู้ให้ไปต่อได้ แล้วเราจะช่วยให้น้อง ๆ ทำความเข้าใจว่าความฝันความต้องการ หรือคุณสมบัติของเขาเหมาะกับทุนไหน”

นักวิชาการสำนักพัฒนาหลักประกันโอกาสทางการศึกษา กสศ. เน้นย้ำว่าการสะท้อนตัวตนผ่านกิจกรรมของเด็ก ๆ ที่สามารถบอกถึงความสนใจ พร้อมระบุได้ว่าตนเองถนัดหรือทำอะไรได้ดี แล้วนำไปเชื่อมโยงกับมิติต่าง ๆ รอบตัว เพื่อร่างเส้นทางความฝันไปสู่การการประกอบอาชีพ ทำให้เห็นว่าเด็ก ๆ ส่วนใหญ่ที่โรงเรียนบ้านห้วยสิงห์ต่างมีเป้าหมาย ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการเตรียมพร้อมโดยครู และโอกาสจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ก่อนจะฝากเว็บไซต์ส่องทางทุน https://findstudentship.eef.or.th ไว้สำหรับผู้สนใจ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเส้นทางการศึกษาต่อในช่วงปิดเทอมใหญ่นี้  

*และสำหรับน้อง ๆ นักเรียนทุนเสมอภาคที่ได้รับ SIM พร้อมเรียนทุกคน ปิดเทอมนี้ กสศ. และ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่าย Infinite Sim ขอชวนมาท่องโลกการเรียนรู้ออนไลน์โดยเปิดใช้งาน SIM พร้อมเรียน เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มการเรียนรู้ฟรี! เพียงแอด LINE OA ID ‘@sim2learn’ ซึ่งจะสามารถเรียนรู้ตามความสนใจได้ใน 4 ด้าน ตั้งแต่ การค้นหาตัวเองและการแนะแนวอาชีพ ความรู้ด้านวิชาการและทักษะอาชีพ การดูแลสุขภาพใจ และกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือน กรกฎาคม 2568 นี้