ชวนส่องโมเดล “ห้องเรียนติดล้อ” ฝึกงานช่างไม้ให้เยาวชน
โดย : VOA / Nada Atieh - Redding
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

ชวนส่องโมเดล “ห้องเรียนติดล้อ” ฝึกงานช่างไม้ให้เยาวชน

Zenith Community Arts Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯ เผยความสำเร็จของโมเดลการศึกษานอกห้องเรียนด้วยโครงการ Mobile Woodshop ซึ่งเป็นโรงเรียนช่างไม้เคลื่อนที่ของสถาบัน Ballou STAY Opportunity Academy ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของสหรัฐฯ ที่ได้รับการตอบอย่างดี ภายใต้เป้าหมายเพื่อการสอนทักษะงานไม้และงานช่างไม้ให้แก่เยาวชนและคนหนุ่มสาวที่สนใจ ช่วยให้เยาวชนอเมริกันสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆและมีโอกาสในการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ ภายใต้การสอนที่มีประสิทธิภาพจากผู้เชี่ยวชาญ และเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้เยาวชนได้ค้นพบเส้นทางสู่อาชีพหรือทักษะงานที่ตนเองชอบหรือถนัดได้ต่อไป

สำหรับหลายครอบครัวในสหรัฐฯ การปล่อยให้ลูกๆ เรียนรู้งานช่าง ลองหยิบจับเครื่องไม้เครื่องมือกันเอง ถือเป็นเรื่องต้องห้าม ด้วยพ่อแม่ผู้ปกครองเกรงว่า การกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับ Zenith Community Arts Foundation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯกลับมองว่า การได้หยิบจับอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ภายใต้คำแนะนำและการขัดเกลาสั่งสอนของครูผู้เชี่ยวชาญ ผู้เรียนรุ่นเยาว์ย่อมได้เรียนรู้ทักษะใหม่ที่ไม่อาจประเมินค่าได้ รวมถึงอาจะเป็นโอกาสอันดีที่นักเรียนจะได้ค้นพบความถนัดจนต่อยอดไปถึงหน้าที่การงานของตนเองในอนาคต

งานนี้ องค์กรเอ็นจีโอในกรุงวอชิงตัน ดีซี จึงได้ริเริ่มโครงการ “ห้องเรียนติดล้อ” หรือ “classroom on wheels” ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อสอนการประดิษฐ์งานไม้ และอบรมขัดเกลาทักษะต่างๆ ของช่างไม้ให้กับเยาวชนและวัยรุ่นในพื้นที่ โดยภายในห้องเรียนเคลื่อนที่บรรทุกอัดแน่น ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือสารพัดครบถ้วนสำหรับงานช่างไม้โดยเฉพาะ

ปัจจุบัน Zenith Community Arts Foundation จัดทำโครงการห้องเรียนติดล้อร่วมกับสถาบัน Ballou STAY Opportunity Academy ในกรุงวอชิงตัน โดยสถาบันดังกล่าวเป็นโปรแกรมการศึกษทางเลือกให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ได้เลือกฝึกอบรมทักษะทางอาชีพที่ตนเองสนใจ และมีโปรแกรมการศึกษาระดับมัธยมศึกษาให้กับผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 23 ปีขึ้นไป

Margery Goldberg ผู้อำนวยการองค์กร Zenith Community Arts Foundation (มูลนิธิศิลปะชุมชนซีนีท) กล่าวว่า จุดประสงค์แรกสุดของห้องเรียนช่างไม้ติดล้อแห่งนี้กก็คือ การทำให้ “คนได้งานทำ” ซึ่งในฐานะศิลปินนักแกะสลักไม้ และเป็นสมาชิกของชุมชนศิลปะในกรุงวอชิงตัน Goldberg วางหวังมานานแล้วว่าต้องการจะจัดห้องเรียนไม้เคลื่อนที่เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนในการเรียนรู้งานไม้ จนกระทั่งเป็นรูปเป็นร่างได้จริงในปี 2020 เมื่อทางคณะกรรมการชุมชนจัดสรรทุนก้อนใหญ่ให้ Goldberg ได้ดำเนินการตามโปรเจ็กต์ที่เสนอไป

ภายใต้ความร่วมมือกับสถาบัน Ballou ตัวโครงการใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Pre-Apprenticeship Carpentry Training Program หรือ โครงการฝึกอบรมช่างไม้เบื้องต้นก่อนฝึกงาน โดยวิชาและทักษะต่าง ๆ ที่สอนภายในชั้นเรียนมีความคล้ายคลึงกับวิชาและทักษะที่สอนโดยสมาพันธ์ช่างไม้ในท้องถิ่นซึ่งให้การสนับสนุนโครงการนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นทักษะการตัด การทำเครื่องหมายขึ้นรูป (marking) การวัดขนาด การตอก การสลัก ไปจนถึงวิธีการใช้เครื่องมืองานไม้ประเภทต่างๆ

แม้จะเน้นหนักในภาคปฏิบัติ แต่การเรียนการสอนก็มีในส่วนของทฤษฎีที่ผู้เรียนได้เรียนจากหนังสืองานไม้ที่จัดทำขึ้นอย่างละเอียด บอกเล่าขั้นตอนงานไม้ที่ละขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ การทำงานไม้พื้นฐานง่ายๆ อย่าง บ้านนก ไปจนถึงงานไม้ที่ซับซ้อนอย่างข้างของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ และตู้หรือหีบบรรจุของ (container)

สำหรับห้องเรียนติดล้อนี้จะมีหน้าตาไม่ต่างอะไรกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ แต่ภายในกลับบรรจุอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ สำหรับงานไม้ไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งล้วนเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำงานไม้ เรียกได้ว่าเป็นห้องเรียนติดล้อสำหรับว่าที่ช่างไม้ที่สมบูรณ์เพียบพร้อมที่สุดแห่งหนึ่ง และที่สำคัญยังมี workstation (โต๊ะทำงานไม้เคลื่อนที่) เพื่อให้นักเรียนสามารถเคลื่อนย้ายงานและอุปกรณ์ต่างๆ ไปสร้างสรรค์งานไม้ของตนนอกรถบรรทุกได้

ทั้งนี้ ในกรณีที่นักเรียนเรียนจนจบคลาสแล้วรู้สึกสนใจอยากเรียนต่อก็สามารถสมัครเรียนต่อในโปรแกรมฝึกงานของทางสมาพันธ์ช่างไม้ต่อไปได้ โดยข้อดีของการเรียนในโครงการห้องเรียนติดล้อก็คือ ผู้เรียนไม่ต้องเสียเวลาเข้าโครงการฝึกงานถึง 4 ปี เหมือนผู้เรียนทั่วไป ทำให้สามารถเรียนจบโดยใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่า แล้วให้ผู้เรียนที่พบว่าตนชอบงานไม้ไปต่อยอดตามบริษัทผลิตงานไม้อย่างจริงจังยึดเป็นอาชีพต่อไป

ในฐานะของครูผู้สอน Joe Largess กล่าวว่า การสอนในห้องเรียนยังให้น้ำหนักกับการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทักษะ ซอฟท์สกิล ทั้งหลาย นอกเหนือจากทักษะเทคนิคด้านงานไม้ เนื่องจาก ซอฟท์สกิล เป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกสาขาอาชีพล้วนจำเป็นต้องมี ยกตัวอย่างเช่น การทำงานเป็นทีม (ทีมเวิร์ค) การมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ มีทัศนคติในการทำงานที่ยอดเยี่ยม สามารถปฏิบัติตามคำสั่ง และมาทำงานตรงเวลา นอกจากนี้นักเรียนยังได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์และวิธีการอ่านไม้บรรทัดอีกด้วย

ด้าน Austin Travis ครูผู้ฝึกสอนอีกรายกล่าวเสริมว่า ขณะนี้ ตลาดแรงงานช่างไม้ล้วนต้องการช่างไม้ที่พร้อมจะทำงานได้ทันที ซึ่งความพร้อมในการทำงานนี้ หมายรวมถึงทักษะด้านซอฟท์สกิล ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องอาศัยความนุ่มนวลที่มากกว่าความสามารถในการประกอบชิ้นงานไม้เข้าไว้ด้วยกัน

ขณะที่ Ryan หนึ่งในนักเรียนที่เข้าเรียนกับทางห้องเรียนช่างไม้เคลื่อนที่ กล่าวว่า ตนเองเคยมีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับไม้และเคยใช้เครื่องมือมาบ้าง ทั้งยังเคยช่วยสมาชิกในครอบครัวสร้างรั้วรอบบ้านอีกด้วย ดังนั้นจึงตัดสินใจเลือกที่จะมาเรียนที่นี่เพราะพบว่าตนเองชอบทำงานช่าง ทำงานด้วยมือ บวกกับมีพื้นฐานรู้วิธีการทำงานกับเครื่องมือไฟฟ้าอยู่แล้ว จึงอยากให้โอกาสตัวเองในการพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Ryan ยังกล่าวอีกว่า ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการเรียนงานไม้ก็คือ สามารถขายของที่สร้างขึ้นมาเพื่อหารายได้เสริมให้ตัวเองได้อีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ ห้องเรียนช่างไม้ติดล้อนี้ถือได้ว่าสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ที่งานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างกำลังเป็นที่ต้องการสูงทั่วประเทศ โดยผลการศึกษาฉบับหนึ่งจากสถาบัน Home Builders Institute (สถาบันผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านสหรัฐฯ) พบว่า ภายในปี 2024 จะมีตำแหน่งงานด้านการก่อสร้าง ซึ่งรวมถึง งานไม้ ที่เป็นที่ต้องการมากถึง 2.2 ล้านตำแหน่งเพื่อให้เพียงพอต่อการก่อสร้างอาคาร ขณะที่สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ทุก ๆ ปีจะมีการเปิดงานช่างไม้มากกว่า 89,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ ภายใน 10 ปีข้างหน้า

สำหรับมุมมองของ Goldberg ผู้อำนวยการมูลนิธิ Zenith เจ้าตัวเชื่อมั่นว่า โครงการห้องเรียนช่างไม้จะสามารถช่วยเตรียมความพร้อมให้กับช่างไม้รุ่นต่อ ๆ ไปได้ อีกทั้งผลตอบรับและความสำเร็จในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาทำให้หลาย ๆ โรงเรียนในกรุงวอชิงตันแสดงความสนใจกับโครงการห้องเรียนช่างไม้เคลื่อนที่ ดังนั้น โครงการดังกล่าวจึงมีแนวโน้มที่ดีที่จะได้ขยายออกไปให้ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ขณะที่ ครู Largess สำทับปิดท้ายว่า ห้องเรียนงานไม้ติดล้อของสถาบัน Ballou มีเป้าหมายสูงสุดในการพยายามที่จะช่วยคนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมในโครงการฝึกงาน และพยายามที่จะให้ความช่วยเหลือแก่คนเหล่านั้นเพื่อให้มีอนาคตที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ที่มา :