อินเดียเร่งค้นหาอาสาสมัครร่วมโครงการ ‘Education at doorstep’
โดย : The Times of India, The Telegraph India
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

อินเดียเร่งค้นหาอาสาสมัครร่วมโครงการ ‘Education at doorstep’

รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของอินเดีย ประกาศรับสมัครอาสาสมัครในพื้นที่เพื่อเข้าร่วมโครงการ ‘Education at doorstep’ หรือชื่อในภาษาท้องถิ่นว่า ‘Illam Thedi Kalvi’ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำพาความรู้ส่งตรงไปยังกลุ่มเด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาสในสังคมถึงหน้าประตูบ้าน หวังลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

เว็บไซต์ข่าวของ The Times of India รายงานว่า โครงการ ‘Illam Thedi Kalvi’ มูลค่า 200 ล้านรูปี (ราว 88 ล้านบาท) ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ถือเป็นโครงการนำร่องสำหรับเขตการศึกษาในพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกจากภาครัฐ ภายใต้การดำเนินการของหน่วยงานทางการศึกษาของรัฐทมิฬนาฑู โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเชื่อมช่องว่างการศึกษาสำหรับนักเรียนในระดับเกรด 1- 8 (เทียบเท่าประถมศึกษาปีที่ 1- มัธยมศึกษาปีที่ 2)

รายงานระบุว่า คุณสมบัติของอาสาสมัครคือ ใครก็ตามที่สำเร็จการศึกษาในระดับเกรด 8 ก็จะสามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘Illam Thedi Kalvi’ (การศึกษาที่หน้าประตูบ้าน) ได้

สำหรับพื้นที่นำร่องโครงการจะประกอบด้วย 8 เขตการศึกษาหลัก รวมถึงมาดูราย (Madurai) โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานระดับอำเภอกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนดำเนินงาน รวมถึงเริ่มเตรียมเปิดรับอาสาสมัครของโครงการนี้

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการของรัฐทมิฬนาฑูรายหนึ่งเปิดเผยว่า ภายใต้โครงการนี้ จะจัดให้มีชั้นเรียนหลังเลิกเรียนในตอนเย็นกินเวลา 2 ชั่วโมง โดยอาสาสมัครจะดำเนินการสอนเพื่อช่วยเสริมความรู้ให้แก่นักเรียนเกรด 1 – 8 โดยจะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ และอาสาสมัครหนึ่งคนจะดูแลนักเรียนไม่เกิน 20 คน

“ตอนนี้เราเริ่มทำการประชาสัมพันธ์โครงการแล้ว และกำลังเปิดรับสมัครอาสาสมัคร” เจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการของรัฐทมิฬนาฑูเปิดเผย พร้อมระบุว่า อาสาสมัครที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Illam Thedi Kalvi

สำหรับการคัดเลือกอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจะมีขั้นตอนในการพิจารณาอย่างละเอียด ทั้งนี้โครงการนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่เกรด 8 ขึ้นไปสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้

ขณะเดียวกัน ในระหว่างการรับสมัครก็จะมีการจัดอบรมระดับอำเภอและประชุมกับเจ้าหน้าที่แผนกการศึกษา ผู้ประสานงานครู นักเคลื่อนไหวด้านสวัสดิการ และนักการศึกษา ควบคู่ไปด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโครงการดังกล่าวจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งฟื้นฟูความรู้ให้เด็กๆ ซึ่งเจอวิกฤตโควิด-19 จนแทบไม่ได้ไปโรงเรียน แต่บรรดาครูโรงเรียนรัฐหลายรายต่างออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพการสอนของโครงการ ‘การศึกษาถึงหน้าประตูบ้าน’ ของบรรดาอาสาสมัครเหล่านี้

“เป้าหมายของโครงการนั้นดีและน่าสนับสนุน แต่ควรใคร่ครวญในการดึงอาสาสมัครมาเข้าร่วม เพราะอาสาสมัครไม่ใช่ครูมืออาชีพและอาจไม่มีประสบการณ์ในการสอนมาก่อน” ครูใหญ่ของนักเรียนมัธยมศึกษาของรัฐแห่งหนึ่งในพื้นที่กล่าว

โครงการนำร่องในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนในอินเดีย โดยเฉพาะเด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาส ซึ่งได้รับผลกระทบด้านการศึกษาอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19

โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน ทาง The Telegraph India รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตการศึกษา South 24-Parganas ในเบงกอลตะวันตก ได้ประกาศว่าจะช่วยเด็กที่ถูกบังคับให้เลิกเรียนกลางคันด้วยเหตุผลทางการเงิน ให้ได้กลับไปเรียนต่อที่โรงเรียน ภายใต้ความร่วมมือกับโครงการ ‘กันญาชรี’ (Kanyashree) ซึ่งเป็นโครงการรัฐที่เน้นช่วยเหลือเด็กผู้หญิงวัยรุ่นให้ได้เรียนหนังสือ

รายงานระบุว่า โครงการในย่อหน้าข้างต้นเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระในพื้นที่ (NGO) ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือในการจัดทำแผนที่ข้อมูลของรัฐในการเฟ้นหาเด็กกลุ่มเสี่ยงและเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาไปแล้ว ก่อนร่วมพัฒนาแผนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เด็กและพ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการศึกษา และยินยอมให้บุตรหลานได้กลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน

ทั้งนี้ โครงการ ‘กัญชรี พระกัลพา’ (Kanyashree Prakalpa) และโครงการเพื่อเด็กหญิงวัยรุ่น หรือ ‘Scheme for Adolescent Girls’ (SAG) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและองค์กรทางสังคม เช่น ‘Child In Need Institute’ (CINI) ที่ทำงานเพื่อเด็กยากจนในอินเดีย ได้ประกาศที่จะเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือเด็กที่เลิกเรียนกลางคันเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ให้กลับมาเรียนหนังสือได้อีกครั้ง

“เนื่องจากความยากจนของครอบครัวเด็กเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กต้องลาออกจากโรงเรียน ดังนั้นฝ่ายบริหารเขตจึงต้องแน่ใจว่า โครงการที่ขับเคลื่อนอยู่จะมอบสวัสดิการที่ครอบคลุมแก่ครอบครัวเด็กได้อย่างยั่งยืน” เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุ

โดยในช่วงที่ผ่านมา ทางหน่วยงานรัฐได้ให้ความช่วยเหลือเด็กที่เลิกเรียนกลางคันได้แล้วอย่างน้อย 12 คน รวมถึงเด็กหญิงรายหนึ่งที่ต้องเลิกเรียนเพราะถูกบังคับให้แต่งงานทั้งๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมถึงเด็กที่มีความต้องการพิเศษ แต่ต้องหยุดเรียน เพราะถูกล่วงละเมิดและกลั่นแกล้งรังแกจากเพื่อนรอบข้าง

ที่มา :
Search on for volunteers to lead ‘Education at doorstep’ scheme
Bid to bring back dropouts to schools in South 24-Parganas