แคลิฟอร์เนียเล็งปรับเกณฑ์ในการให้ทุนสนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนรัฐ
โดย : MACKENZIE MAYS - Los Angeles Times
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

แคลิฟอร์เนียเล็งปรับเกณฑ์ในการให้ทุนสนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนรัฐ

รัฐบาลท้องถิ่นในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เล็งพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบด้านการให้ทุนการศึกษาสนับสนุนโรงเรียนรัฐทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบด้วยการยกเลิกหนึ่งในเงื่อนไขการให้ทุนด้วยการวัดจำนวนการเช็กชื่อเข้าเรียนทุกวัน

ลอสแอนเจลิสไทมส์ (Los Angeles Times) สื่อท้องถิ่นในแคลิฟอร์เนียรายงานว่า หลังจากบังคับใช้เงื่อนไขการเช็กชื่อเข้าเรียนทุกวันเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้ทุนแก่โรงเรียนรัฐทุกแห่งในพื้นที่ ในที่สุดบรรดาสมาชิกสภาท้องถิ่นของรัฐแคลิฟอร์เนียก็เตรียมพิจารณายกเลิกเงื่อนไขดังกล่าว พร้อมกับหาวิธีการใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตการศึกษาขนาดใหญ่อย่างกรุงลอสแอนเจลิส (L.A.)

แอนโทนี ปอร์ตันติโน (Anthony Portantino) วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ตนเองจะยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อทางสภา โดยจะเชื่อมโยงเกณฑ์ให้ทุนการศึกษากับการลงทะเบียนประจำปีมากกว่าบันทึกการเข้าเรียนรายวัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวน่าจะช่วยให้รัฐสามารถจัดสรรทุนให้กับทางโรงเรียนได้เพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นแคลิฟอร์เนียได้จัดสรรทุนการศึกษาให้แก่โรงเรียนในเขตการศึกษาที่มีมากกว่า 1,000 แห่งในทุกปีมาอย่างยาวนาน โดยพิจารณาจากความถี่ที่นักเรียนมาเข้าร่วมเรียนชั้นเรียนแทนที่จะนับจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด ซึ่งนโยบายดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้โรงเรียนรับผิดชอบต่อการขาดเรียนของนักเรียน และกระตือรือร้นที่จะตามเด็กที่ขาดเรียนมาเข้าเรียน

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขดังกล่าวก็มีข้อจำกัด โดยกลุ่มที่สนับสนุนข้อเสนอใหม่ของวุฒิสมาชิกปอร์ตันติโน อย่างเขตการศึกษา Los Angeles Unified School District ระบุว่า นโยบายที่อิงกับการลงทะเบียนมีความผันผวนน้อยกว่าและจะช่วยให้โรงเรียนสามารถใช้เงินได้มากขึ้น เพราะวางแผนการใช้จ่ายได้ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน เพื่อแก้ไขข้อกังวลในเรื่องของการขาดเรียน ปอร์ตันติโนได้เสนอข้อกำหนดให้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของกองทุนใหม่ใดๆ ที่โรงเรียนได้รับภายใต้นโยบายใหม่จะต้องนำไปใช้ต่อเพื่อจัดการกับการขาดเรียน ไม่ยอมทำหน้าที่นักเรียนทั้งแบบชั่วคราวและเรื้อรัง

ปอร์ตันติโนย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการให้ทุนการศึกษาไม่ควรถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะลดทอนความสำคัญของการเข้าเรียนในห้องเรียนของเด็ก แต่เป็นการมองบริบทแวดล้อมตามความเป็นจริง

ทั้งนี้ จากฐานข้อมูลของรัฐแคลิฟอร์เนียพบว่า 12% ของนักเรียนในภาคการศึกษาปกติ (ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6) กว่า 6 ล้านคนในแคลิฟอร์เนีย ถูกระบุว่า “ขาดเรียนประจำ” (“chronically absent”) ในช่วงปีการศึกษา 2018-2019 ซึ่งหมายความว่า เด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ขาดเรียนอย่างน้อย 10% อยู่แล้ว และอัตราการขาดเรียนประจำสำหรับนักเรียนผิวสีมีมากกว่านักเรียนผิวขาวถึง 2 เท่า

ขณะเดียวกัน ข้อเสนอปรับกฎในครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่สำนักวิเคราะห์กฎหมายอิสระ หรือ Legislative Analyst’s Office คาดการณ์ว่าโรงเรียนสายสามัญและวิทยาลัยชุมชนจะได้การจัดสรรทุนมากกว่า 102,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งมากกว่าเดิมที่รัฐบาลท้องถิ่นเคยตั้งงบจัดสรรไว้ที่ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงฤดูร้อนที่แล้ว ส่งผลให้โรงเรียนของรัฐได้รับการรับรองส่วนแบ่งรายได้กองทุนทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลท้องถิ่นอนุมัติแนวทางจัดสรรเงินทุนสนับสนุนเพื่อการศึกษาในปี 1988

ทั้งนี้ ฝ่ายที่สนับสนุนข้อเสนอแก้ไขเงื่อนไขของปอร์ตันติโนกล่าวว่า การขาดเรียนของนักเรียนในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาดทำให้โรงเรียนในเขตการศึกษาหลายแห่งทั่วแคลิฟอร์เนียประสบปัญหาการเช็กชื่อเข้าเรียน จนไม่สามารถดำเนินการด้านเอกสารเพื่อทำเรื่องขอรับทุนอุดหนุนการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการรายงานตัวเข้าเรียนที่ห้องเรียนได้

“ระบบการให้เงินสนับสนุนตามการเข้าชั้นเรียนในปัจจุบันทำให้โรงเรียนในพื้นที่รายได้น้อยเสียเปรียบ เนื่องจากพวกเขาประสบกับอัตราการขาดเรียนที่ค่อนข้างสูง ทำให้ไม่สามารถได้รับเงินช่วยเหลือในส่วนนี้ และความจริงก็คือ เงินสนับสนุนโดยวัดจากการเข้าเรียนกลายเป็นการลงโทษนักเรียนในโรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐมากที่สุด” เชน ดิชแมน (Shane Dishman) ประธานสมาคมพนักงานโรงเรียนแห่งแคลิฟอร์เนียระบุในแถลงการณ์สนับสนุน

แม้ว่าการเปลี่ยนไปใช้เงินทุนตามการลงทะเบียนอาจสร้างช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างเขตขนาดเล็กและขนาดใหญ่ แต่ร่างกฎหมายระบุว่า ไม่มีโรงเรียนใดจะได้รับเงินทุนน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยที่โรงเรียนแต่ละแห่งจะยังคงได้รับทุนสนับสนุนในระดับเดียวกับเงินช่วยเหลือที่ได้ในปัจจุบัน เพียงแต่ข้อเสนอใหม่จะอนุญาตให้ทางโรงเรียนสามารถสมัครขอรับทุนเสริม หากยอดรวมการลงทะเบียนมากกว่าการเข้าชั้นเรียนเฉลี่ยรายวัน

หากผ่านการพิจารณา ร่างกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ในปีการศึกษา 2023-2024 ต่อไป

“สิ่งที่เราต้องการจะสื่อก็คือ การให้ตัวเลขการลงทะเบียนที่แท้จริงเป็นหลักในการแปลงเป็นเงินดอลลาร์พิเศษสำหรับเขตต่างๆ โดยจะไม่มีเขตการศึกษาใดสูญเสียเงินช่วยเหลือ เพียงแต่เป็นการเปิดโอกาสให้โรงเรียนมีช่องทางในการเพิ่มผู้เรียนและได้รับเงินทุนที่มากขึ้น” ปอร์ตันติโนกล่าว

แคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในไม่กี่รัฐ รวมทั้งรัฐเท็กซัสและรัฐเคนทักกีที่ทางรัฐมีทุนสนับสนุนโรงเรียนโดยวัดจากจำนวนการเข้าเรียนรายวันของนักเรียน โดยข้อเสนอของปอร์ตันติโนมีขึ้นหลังจากที่กวิน นิวซัม (Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียระงับการใช้การให้ทุนโดยพิจารณาจากการเข้าเรียนเป็นการชั่วคราว เพราะนักเรียนถูกบังคับไม่ให้เรียนหนังสือที่ห้องเรียนจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กฎการเข้าชั้นเรียนที่มีมายาวนานได้ถูกกำหนดขึ้นใหม่เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมการสอนแบบตัวต่อตัว

ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการแคลิฟอร์เนียรายงานว่า จำนวนการลงทะเบียนของเด็กนักเรียนลดลงมากที่สุดในรอบ 20 ปี โดยมีนักเรียนน้อยกว่าปีก่อนหน้าประมาณ 160,000 คน โดยชั้นเรียนที่มีเด็กนักเรียนลดลงมากที่สุดก็คือ เด็กอนุบาล เพราะครอบครัวเลือกที่จะไม่ส่งเด็กเข้าเรียนในระบบ นับเป็นช่วงปีการศึกษาที่น่าวิตกมากที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์การศึกษาของรัฐแคลิฟอร์เนีย

กระนั้น แม้จะไม่มีปัญหาการขาดเรียนที่เกี่ยวเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 บรรดาเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนก็ยังได้รับคำเตือนถึงผลกระทบทางการเงินที่ตามมาจากจำนวนนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนลดลงเพราะอัตราการเกิดที่ลดลง โดยข้อมูลของนักวิจัยในสังกัดกระทรวงการคลังรัฐแคลิฟอร์เนียพบว่า จำนวนประชากรของรัฐแคลิฟอร์เนียลดลงในปี 2020 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐ อันเนื่องมาจากอัตราการเกิดที่ลดลง โดยเด็กอายุ 5 – 17 ปีคิดเป็นสัดส่วนประชากรที่น้อยลงในทุกปี

ที่มา : California lawmakers may stop tying K-12 schools’ funding to daily attendance