หัวข้อ 88% ของผู้ใหญ่ทั่วสหรัฐฯ หนุนจัดหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลในระดับม.ปลาย
โดย : Carmen Reinicke - cnbc
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

หัวข้อ 88% ของผู้ใหญ่ทั่วสหรัฐฯ หนุนจัดหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลในระดับม.ปลาย

ผลการสำรวจของประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วสหรัฐฯ พบ 88% สนับสนุนให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดวิชาการเงินส่วนบุคคลไว้ในหลักสูตรสำหรับนักเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศ เพื่อให้มีทักษะในด้านการบริหารจัดการด้านการเงิน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตยุคใหม่

เว็บไซต์ข่าวสถานีโทรทัศน์ CNBC เปิดเผยรายงานผลการสำรวจความเห็นของประชากรชาวสหรัฐฯ ในวัยผู้ใหญ่  ซึ่งจัดทำโดย National Endowment for Financial Education เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่า 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นสมควรที่รัฐบาลท้องถิ่นของตนจัดหลักสูตรการเงินส่วนบุคคล อย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา หรือต่อเนื่องตลอดทั้งปีการศึกษา

รายงานระบุว่า จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 1,030 คน ว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการเรียนวิชาการเงินส่วนบุคคลในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมถึงเห็นว่าควรให้เป็นหลักสูตรภาคบังคับหรือไม่ เกือบทั้งหมดต่างเห็นด้วยที่จะให้มีการสอนเกี่ยวกับการเงิน โดยเฉพาะในเรื่องของการเงินส่วนบุคคล

Billy Hensley ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ National Endowment for Financial Education ระบุในแถลงการณ์ว่า ผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนได้ว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต่างตระหนักดีถึงความสำคัญของการเรียนรู้ทักษะการใช้เงินตั้งแต่อายุยังน้อย และการสำรวจนี้ตอกย้ำว่ามีการสนับสนุนด้านการเงินส่วนบุคคลในระดับชาติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในทุกโรงเรียน

ขณะเดียวกัน 80% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า ว่าพวกเขาต้องการที่จะเรียนหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลเพื่อสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ยิ่งไปกว่านั้น การสำรวจยังพบว่า บรรดาผู้ใหญ่ในวัยกลางคน กลุ่มผู้มีรายได้สูง และผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายต่างสนับสนุนให้มีการศึกษาทางการเงินส่วนบุคคลมากกว่ากลุ่มอื่นๆ และว่าหากเป็นไปได้ พวกเขาต่างต้องการให้มีวิชาดังกล่าวในชั้นเรียนของโรงเรียน ขณะที่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่ไม่ใช่คนผิวขาวมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลมากกว่าคนผิวขาวและชาวอเมริกันเชื้อสายละติน

ทั้งนี้ Hensley กล่าวว่า การศึกษาในเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางการเงินอย่างชัดเจนเป็นรากฐานสำหรับการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อให้ได้มาถึงสิ่งต่างๆ

“เราต่างรู้กันเป็นอย่างดีว่า การศึกษาแต่เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะเอาชนะอุปสรรคจากระบบสังคมได้ ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยพื้นฐานหลายอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการเงินส่วนบุคคลเพื่อบรรลุความสามารถทางการเงิน” Hensley กล่าว 

ผลการสำรวจครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางกระแสความสนใจของคนในสังคมที่เริ่มมองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการด้านการเงิน ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีหลายรัฐที่กำหนดให้วิชาการเงินส่วนบุคคลเป็นหลักสูตรภาคบังคับสำหรับนักเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศ

ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐฟลอริดากลายเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดที่ต้องกำหนดให้มีหลักสูตรด้านการเงินส่วนบุคคลในโรงเรียนระดับมัธยมปลาย ขณะที่ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียได้มีการลงนามร่างกฎหมายที่กำหนดให้มีข้อบังคับดังกล่าวในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในช่วงปลายเดือนเมษายน

ทั้งนี้ จากรายงานฉบับล่าสุดขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อย่าง Next Gen Personal Finance พบว่า ปัจจุบันราว 25% ของนักเรียนมัธยมปลายในสหรัฐอเมริกาได้รับการจัดหลักสูตรวิชาการเงินส่วนบุคคลเป็นวิชาบังคับ

ยิ่งไปกว่านั้น รัฐต่าง ๆ จำนวนมากยังมีการร่างกฎหมายที่กำหนดให้มีการศึกษาด้านการเงินส่วนบุคคลแล้ว ขณะที่อีกหลายรัฐกำลังพิจารณาเพื่อผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว และพร้อมนำมาบังคับใช้ภายในปีนี้ 

หลายฝ่ายมองว่าการบัญญัติวิชาการเงินส่วนบุคคลเป็นกฎหมายระดับรัฐ เป็นความเคลื่อนไหวสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนในสหรัฐอเมริกาทุกคนสามารถเข้าถึงหลักสูตรการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นที่สำคัญสำหรับโลกในยุคศตวรรษที่ 21 

โดย Next Gen Personal Finance พบว่า หากไม่มีกฎหมายรับรองชั้นเรียนดังกล่าว นักเรียนผิวสีและนักเรียนในเขตการศึกษาที่มีรายได้น้อยมีโอกาสน้อยที่จะได้รับการศึกษาด้านการเงินส่วนบุคคลที่มั่นคง

“การดำเนินการทางกฎหมาย การสนับสนุนจากรัฐ และการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากในการปรับระดับการเข้าถึงที่เท่าเทียมกันสำหรับนักเรียนทุกคน และข้อกำหนดของรัฐอย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกโรงเรียนสามารถเสนอชั้นเรียนที่สำคัญนี้ให้กับนักเรียนโดยไม่คำนึงถึงพื้นที่เขตการศึกษา” Hensley ระบุในบล็อกโพสต์ 

นอกเหนือจากการสนับสนุนกฎหมายที่รับรองว่านักเรียนมัธยมปลายทุกคนจะได้รับชั้นเรียนการเงินส่วนบุคคลแล้ว Hensley และ Next Gen Personal Finance ชี้ให้เห็นว่าการฝึกอบรมครูเป็นส่วนสำคัญของการสนับสนุนวิชาการบริหารจัดการด้านการเงินส่วนบุคคลเช่นกัน

ในมุมมองของ Hensley หากปราศจากการพัฒนาทางวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ครูอาจรู้สึกว่าพร้อมจะสอนการเงินส่วนบุคคลได้ยาก นั่นมีผลกระทบต่อผลลัพธ์ของชั้นเรียนที่พวกเขาสอน และว่า คุณภาพของการสอนมีความสำคัญพอๆ กับการเข้าถึง

ที่มา : 88% of adults support requiring personal finance education in high school, survey finds