ศธ.ออกมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่

ศธ.ออกมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่

สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ เกิดการแพร่เชื้อกระจายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด  เช่นเดียวกับกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมาตรการควบคุม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยการปรับลดเวลาและวันทำงานของบุคลากรในสังกัด และในกำกับของศธ. ด้วยปรากฎว่ามีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ขึ้นและแพร่ระบาตในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ศธ. จึงกำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการปรับลดเวลาและวันทำงานของบุคลากรในสังกัดและในกำกับของศธ. ใน 5 จังหวัด ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2. จ.นนทบุรี 3. จ.นครปฐม 4. จ.ปทุมธานี และ 5.จ.สมุทรปราการ

พร้อมกับให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1.ให้ผู้บริหารของแต่ละหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของศธ. มอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยตามความเหมาะสมและส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในการปฏิบัติงานทุกชนิต โดยให้เปิดเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาและให้ทุกหน่วยงานจัดบุคลากรหมุนเวียนมาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงานไม่เกินร้อยละ 25 ของบุคลากรทั้งหมด โดยให้คำนึงถึงบุคลากรที่จำเป็นสำหรับงานให้บริการประชาชนเป็นสำคัญ

2.ให้ผู้บริหารแต่ละหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของศธ. กำหนดวิธีการที่ชัดเจน และเหมาะสมในการมอบหมายงานให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย รวมถึงการรายงานผลที่ปฏิบัติไปในช่วงที่ไม่ได้มาปฏิบัติงาน ณ สถานที่ทำงาน โดยคำนึงถึงเป้าหมายการดำเนินงานของงานที่ได้รับมอบหมายเป็นสำคัญ

ในกรณีที่หน่วยงานในสังกัดและในกำกับของศธ. ได้กำหนดให้มีการจัดประชุม การฝึกอบรม หรือการสัมมนา ไว้แล้ว ให้เลื่อนการจัดประชุม การฝึกอบรม หรือการสัมมนาดังกล่าวออกไปก่อน เว้นแต่กรณีจำเป็นเร่งด่วนต้องจัดประชุมให้ใช้การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 – 23 เมษายน 2564

ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เวียนหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง การปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ถึงผู้บริหารและบุคลากร และเจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทุกส่วนงาน เพื่อให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด

โดยระบุว่า ปัจจุบันได้พบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ปฏิบัติงานภายในที่พัก (Work from Home) ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 8 – 21 เมษายน 2564 จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยให้พิจารณาดำเนินการดังนี้

1.ให้ผู้อำนวยการ สำนัก กอง ศูนย์ วางแผนการปฎิบัติงาน ตรวจสอบ ติดตามและสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในที่พักอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานให้กองการเจ้าหน้าที่(กจท.) ทราบทุกวัน เพื่อประมวลผลรายงาน ปนร. ทราบตามแนวทางที่ได้ปฏิบัติมา

2.งานการให้บริการประชาชนและการประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานตามกฎหมาย ขอให้พิจารณาแนวทางการดำเนินการตามความเหมาะสมและอย่าให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

3.ติดตามสถานการณ์โควิด-19 และข่าวสารที่เกี่ยวข้องจาก ศบค. ทุกวัน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับคนในครอบครัวและญาติมิตร อย่างต่อเนื่อง

4.ปฏิบัติตามประกาศ สปน. ลงวันที่ 8 มกราคม 2564

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด มีประวัติเคยติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ รวมทั้งผู้ที่มีอาการน่าสงสัย ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันทีและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ