กสศ. – เทศบาลเมืองอ่างทอง ผนึกกำลังครูค้นหาติดตามเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา ผ่านตัวอย่างโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน
ชูฐานข้อมูลจากครูคือจุดเริ่มต้นเพื่อไปสู่การสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษาที่สูงขึ้นได้

กสศ. – เทศบาลเมืองอ่างทอง ผนึกกำลังครูค้นหาติดตามเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา ผ่านตัวอย่างโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) พร้อมด้วย นางสาวกนิษฐา คุณาวิศรุต รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนาหลักประกันโอกาสทางการศึกษา กสศ. ลงพื้นที่โรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนายธวัช ศรีสว่าง รองนายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง นายทนงศักดิ์ ศรีวิเชียร ปลัดเทศบาลเมืองอ่างทอง นางอุษากร สีดาบุตร ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลเมืองอ่างทอง นางทัศนีย์ ระเบียบดี ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน คณะครู และสื่อมวลชน เกี่ยวกับบทบาทของโรงเรียนในภารกิจเยี่ยมบ้านและการจัดการข้อมูลในโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข (นักเรียนทุนเสมอภาค) ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อพูดคุยให้กำลังใจนักเรียนทุนเสมอภาค

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ.

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า การลงพื้นที่โรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน ครั้งนี้ กสศ. ต้องการเรียนรู้และเข้าถึงสถานการณ์จริงในพื้นที่การทำงานทุนเสมอภาค หลังจากโรงเรียนเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 มากว่า 3 ปี เพื่อนำข้อมูล ข้อเสนอ และคำแนะนำจากทุกภาคส่วน ไปพัฒนากลไกการทำงานดูแลเด็กเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงหลักประกันโอกาสทางการศึกษา ขณะเดียวกันพบว่ารายได้ของครอบครัวเด็กยากจนและยากจนพิเศษยังคงลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไปถึงโอกาสทางการศึกษาของเด็ก ๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการหลุดออกจากระบบการศึกษา

ดร.ไกรยส กล่าวย้ำว่า เนื่องจากโจทย์ความซับซ้อนของปัญหาเด็กกลุ่มเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจหรือการเงินเท่านั้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ กสศ. ต้องให้น้ำหนักกับการทำงานร่วมกันระหว่างโรงเรียนและครอบครัว หรือความสัมพันธ์ระหว่างคุณครูกับผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเหมือนตาข่ายสำคัญที่คอยช่วยกลั่นกรองป้องกันไม่ให้เด็กกลุ่มนี้หลุดออกจากระบบการศึกษา และประเด็นสำคัญคือพบนักเรียนจำนวนไม่น้อยมองว่าตนเองไม่สามารถเรียนต่อไปได้จนถึงระดับอุดมศึกษาเพราะต้องออกมาทำงานหารายได้ เป็นเรื่องที่ กสศ. มองว่าจะต้องมีการปลูกฝังทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและเด็กตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้เด็กมีเป้าหมายไม่ออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร ที่สำคัญคือผู้ปกครองจะต้องเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันเป้าหมายนี้ให้ประสบความสำเร็จให้ได้ด้วยการทำงานใกล้ชิดกับคุณครูมากขึ้น เพื่อช่วยกันพานักเรียนไปสู่เป้าหมายในชีวิต

ดร.ไกรยส กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากระบบ TCAS พบว่า นักเรียนทุนเสมอภาคสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยปีละประมาณ 12-14% ถ้ามาตรการป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากการศึกษาทำได้ดีตั้งแต่อนุบาลจนถึง ม.ปลาย เมื่อนักเรียนกลุ่มนี้เข้าสู่ระดับอุดมศึกษา กสศ. ได้ส่งต่อข้อมูลนักเรียนยากจนพิเศษไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อช่วยหาทุนการศึกษาต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงการเข้าถึงระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา เพื่อทำให้ปัญหาความยากจนไม่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จึงหวังว่าการทำงานของคุณครูโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน หรือเรื่องราวของนักเรียนที่ได้ไปเยี่ยมบ้านจะเป็นพลังในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณครูและสถานศึกษาอื่น ๆ ในประเทศไทย ช่วยกันดูแลคัดกรองและคุ้มครองไม่ให้พวกเขาหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควร เพราะข้อมูลที่คุณครูและท้องถิ่นช่วยกันสำรวจค้นหาจนพบตัวเด็ก จะสามารถนำไปสู่การติดตามปัญหาของเขาได้อย่างต่อเนื่องไป เพื่อประสานความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นๆ ต่อไป พลังเหล่านี้จะเป็นส่วนเสริมให้เด็ก ๆ ไปถึงเป้าหมายทางการศึกษา

นายธวัช ศรีสว่าง รองนายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง

ด้าน นายธวัช ศรีสว่าง รองนายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง กล่าวว่า เทศบาลเมืองอ่างทองมีโรงเรียน 4 แห่ง คือ โรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน โรงเรียนเทศบาล 2 วัดโล่ห์สุทธาวาส โรงเรียนเทศบาล 3 วัดชัยมงคล และโรงเรียนเทศบาล 4 ประถมสาธิตเทศบาลเมืองอ่างทอง นอกจากการให้ความสำคัญเรื่องวิชาการ เทศบาลเมืองอ่างทองยังให้ความสำคัญกับนโยบายแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เนื่องจากบริบทท้องถิ่นพบปัญหาเศรษฐกิจอยู่มาก การสนับสนุนเด็กที่ขาดแคลนของโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน ถือเป็นต้นแบบในการทำงานที่เป็นทั้งขวัญและกำลังใจของนักเรียนในการให้ความช่วยเหลือเรื่องการเข้าถึงทุนเสมอภาคของ กสศ. ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้มีโอกาสการศึกษาที่ดีต่อไปได้

“ทุนเสมอภาคถือว่ามีความสำคัญสำหรับเขา สำหรับเด็กที่ขาดแคลน มีเงินมาโรงเรียนบ้างไม่มีบ้าง พอได้เงินจำนวนนี้ไปก็ไปช่วยสนับสนุนเขาได้มาก สำหรับสิ่งที่เทศบาลได้เข้าไปช่วยสนับสนุนโรงเรียนอีกทางหนึ่งในตอนนี้ คือเรื่องอาหารกลางวัน อย่างน้อยมาโรงเรียนเด็กจะมีอาหารกลางวันทานทุกวัน แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นภาระค่าใช้จ่ายของพวกเขาอีกมาก ไม่ว่าจะค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า อย่างน้อยเงินจากทุนเสมอภาคก็จะช่วยเหลือนักเรียนในส่วนนี้ได้มากขึ้น”

นางสาวกฤษณา ไชยาวรรณ ครูแอดมินโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน

สอดคล้องกับ นางสาวกฤษณา ไชยาวรรณ ครูแอดมินโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน กล่าวว่า ได้รับนโยบายจากผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้บริหารเทศบาลเมืองอ่างทองที่ให้ความสำคัญกับปัญหานักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษา โดยตนได้เริ่มทำงานโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข (นักเรียนทุนเสมอภาค) ของ กสศ. เมื่อปีการศึกษา 2562 ร่วมกับครูในโรงเรียน 3 คน ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและบันทึกข้อมูลลงระบบ จากนั้นจึงได้ขยายการทำงานไปที่ครูประจำชั้น สิ่งสำคัญคือการสื่อสารกับเพื่อนครูที่ทำงานร่วมกัน และการสื่อสารกับผู้ปกครองนักเรียนให้เข้าใจเรื่องการเยี่ยมบ้านที่ต้องเก็บข้อมูลอย่างละเอียด

“การสื่อสารสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งกำลังใจให้กันและกัน และส่งกำลังใจให้ผู้ปกครองด้วย เพราะยิ่งช่วงโควิดที่ผ่านมา ค่อนข้างจะหนักสำหรับผู้ปกครอง ทำให้เด็กโรงเรียนเรายากจนเยอะขึ้น ช่วงปีแรกจะมีการทำงานที่กระท่อนกระแท่นนิดหน่อย แต่ปัจจุบันการทำงานมีความคล่องขึ้น ครูมีความเข้าใจมากขึ้น ทำให้เกิดระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ”

นางสาวกนิษฐา คุณาวิศรุต รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนา
หลักประกันโอกาสทางการศึกษา กสศ.

ด้าน นางสาวกนิษฐา คุณาวิศรุต รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนาหลักประกันโอกาสทางการศึกษา กสศ. กล่าวว่า เงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาค เป็นทุนสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือเป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคม หัวใจสำคัญของทุนนี้ คือการมุ่งค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ยากจนจริง ๆ เพื่อสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด แม้ว่าเป็นการให้เงินทุนการศึกษาแบบมีเงื่อนไข แต่เป็นเงื่อนไขเกี่ยวกับการติดตามเรื่องการมาเรียน ติดตามน้ำหนัก ส่วนสูง หรือพัฒนาการตามวัย รวมไปถึงการติดตามการคงอยู่ในระบบการศึกษาของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้รับรู้สภาพการณ์ของเด็กได้ตามสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาได้ทันท่วงที

“กลไกการทำงานของโรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน มาจากความร่วมมือของคุณครูในการลงพื้นที่ทำงานอย่างจริงจังและใส่ใจ เพื่อทำให้ลูกศิษย์ได้เข้าถึงทุนเสมอภาค และได้รับการติดตามจนจบการศึกษาภาคบังคับ ซึ่งจะเป็นหลักประกันในการศึกษาว่าตลอดเวลาที่ยังเรียน จะได้เรียนต่อจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างแน่นอน และยังมีการส่งต่อข้อมูลไปให้กับทาง กยศ. หรือหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น”

ทั้งนี้ โรงเรียนเทศบาล 1 วัดต้นสน เป็นโรงเรียนขยายโอกาสเปิดสอนระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ปัจจุบันมีนักเรียน 536 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 38 คน หนึ่งในจุดเด่นของโรงเรียนคือการให้ความสำคัญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาผ่านการทำงานของครูแอดมินและครูคัดกรองอย่างเป็นระบบ ทำให้ปัจจุบันมีนักเรียนยากจนพิเศษได้รับทุนเสมอภาคและเข้าสู่ระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาของ กสศ. รวมจำนวนกว่า 40 คน นอกจากนี้คณะครูยังได้สร้างเครือข่ายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำงานทุนเสมอภาคให้แก่โรงเรียนเทศบาลเมืองอ่างทองอีก 3 แห่งด้วย