ไม่มีเด็กคนไหนอยากหลุดระบบ แต่เพราะ…
สำรวจสถานการณ์เด็กหลุดระบบผ่านอคติมากมายซับซ้อนยิ่งกว่าเขาวงกต และทางออกยั่งยืนที่เรียกว่าพื้นที่ปลอดภัย

ไม่มีเด็กคนไหนอยากหลุดระบบ แต่เพราะ…

“ผมโดนครูตีแบบไม่มีสาเหตุ”

“หนูซ้ำชั้น 3 รอบ” 

“อยู่กับยาย 2 คน พ่อแม่ไม่รู้ไปไหนเลยต้องออกเรียนมาทำงาน”

หลากหลายสาเหตุที่ทำให้เด็กคนหนึ่ง ‘หลุดออกจากระบบการศึกษา’ ไม่ใช่แค่เกเร ไม่รักเรียน หรือเรียนไม่เก่งอย่างที่อคติสังคมอาจเข้าใจไปในทางนั้น 

880,463 คนคือจำนวนคงเหลือของเด็กและเยาวชนอายุ 3-18 ปี ที่อยู่นอกระบบการศึกษาในปี 2567 ซึ่งเป็นผลสำรวจจากฐานข้อมูล Thailand Zero Dropout

งานวิจัยเชิงสํารวจเพื่อศึกษาข้อมูลของเด็กนอกระบบการศึกษาภายใต้ “โครงการการสนับสนุนและพัฒนากลไกการขับเคลื่อนครูและเด็กนอกระบบการศึกษา” โดยการพัฒนาของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) วิเคราะห์จำนวนเด็กนอกระบบการศึกษาจำแนกตามสาเหตุของการออกนอกระบบการศึกษาพบว่า มีสาเหตุมาจากความยากจนมากที่สุด ร้อยละ 46.70 รองลงมาคือ มีปัญหาครอบครัว ร้อยละ 16.14 ออกกลางคัน/ถูกผลักออก ร้อยละ 12.03 ไม่ได้รับสวัสดิการด้านการศึกษา ร้อยละ 8.88 ปัญหาสุขภาพ ร้อยละ 5.91 อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 4.93 และได้รับความรุนแรง ร้อยละ 3.63

รวมถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อีกเช่น ไม่อยากเรียน ต้องการทำงาน ตั้งครรภ์ในวัยเรียน มีครอบครัว ไม่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประชาชน พิการ ยาเสพติด ฯลฯ โดยที่สำคัญที่สุดคือเด็กกลุ่มนี้กำลังเผชิญกับปัญหาที่โยงใยซับซ้อนมากกว่า 1 ปัญหา โดยที่ไม่สามารถแก้เพียงเรื่องหนึ่งเรื่องใด แล้วจะหลุดพ้นจากวิกฤตได้

นเรศ สงเคราะห์สุข หรืออาจารย์ต๋อม รองหัวหน้าโครงการหนุนเสริมทางวิชาการและการจัดการความรู้สำหรับการพัฒนาเด็กนอกระบบการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ลงหน้างานคุยกับเด็ก และศึกษาเรื่อง ‘ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา’ ทำให้พบว่าระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันไม่สามารถรองรับความแตกต่างของบริบทหรือเงื่อนไขของเด็กแต่ละคนได้

เหมือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสองพี่น้องที่หมู่บ้านกองผักปิ้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 

“ผมโดนครูตีจนขาแตก เลือดออกเยอะมาก  ไม่รู้เหมือนกันว่าโดนครูตีเพราะอะไร แรกๆ ครูบอกว่าผมเรียนไม่ทันเพื่อน บอกพัฒนาการช้า แต่น้องสาวผมก็โดนตีเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเพราะพวกเราเป็นลาหู่ กลุ่มหมู่บ้านที่จนที่สุดที่นี่หรือเปล่า พ่อแม่เลยให้ออกโรงเรียนดีกว่า” 

ดังนั้นแล้วการแก้ปัญหาของเด็กหลุดระบบถึงต้องทำงานกับหลายภาคส่วน และสิ่งที่สำคัญคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยของเด็กจริงๆ แบบที่พวกเขาไม่ต้องกลับเข้าโรงเรียนก็ได้ ซึ่งนับเป็น 1 ใน 4 มาตรการหลักของนโยบาย Thailand Zero Dropout ด้วยการสร้างรูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เช่น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ศูนย์การเรียนรู้ การเรียนออนไลน์ผ่าน Mobile School การเทียบโอนหน่วยกิตเพื่อรับรองวุฒิการศึกษา ฯลฯ

“พื้นที่ปลอดภัยของเด็กๆ ไม่ใช่แค่ตามตัวเด็กที่หายไป หรือนำเด็กกลับเข้าโรงเรียน แต่คือสร้างรูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น มอบทักษะชีวิต อาชีพให้เด็กเรียนรู้และมีรายได้ควบคู่กันไป ปัจจุบันมี 40 หน่วยการเรียนรู้ ภายใต้โครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา จากการร่วมมือของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)  คือหน่วยจัดการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา ที่สามารถนำไปตอบโจทย์เป้าหมาย Thailand Zero Dropout ที่เป็นกระบวนการสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เป็นรูปธรรมที่ทำได้”นเรศ สงเคราะห์สุข  อธิบาย 

ที่มา :
7 สาเหตุที่ทำให้เด็กออกนอกระบบการศึกษา
เด็กหลุดจากระบบการศึกษา ไม่ใช่แค่เรื่องของพวกเขา…แต่เป็นเรื่องของเราทุกคน

ดาวน์โหลดเพิ่มเติม