นศ.ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง กสศ. สาขาแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี คว้าแชมป์ GreenBot Application 2025 สะท้อนพลังการลงทุนด้านการศึกษา

นศ.ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง กสศ. สาขาแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี คว้าแชมป์ GreenBot Application 2025 สะท้อนพลังการลงทุนด้านการศึกษา

อีกครั้งหนึ่งของความสำเร็จในการพัฒนากำลังคนสายอาชีพคุณภาพ ภายใต้โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่มุ่งสร้างบุคลากรสมรรถนะสูงเพื่อรองรับภาคการผลิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

ล่าสุด นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง กสศ. สาขาแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี คว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมรับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเวทีการแข่งขันนวัตกรรม GreenBot Application 2025 ซึ่งจัดโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมกับบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) นับเป็นเวทีสำคัญระดับประเทศที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาสายอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษาได้แสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

(ขวา) นครินทร์ สุดจิตต์

‘บิว’ นครินทร์ สุดจิตต์ นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง กสศ. ชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 1 แผนกแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ เล่าถึงวินาทีที่ชื่อวิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรีถูกประกาศเป็นผู้ชนะ บนเวทีการแข่งขันสุดยอดนวัตกรรมอาชีวศึกษา ว่า

“ภูมิใจที่ทำสำเร็จ รางวัลนี้ทำให้รู้สึกว่าจากนี้เราจะเดินหน้าไปบนเส้นทางอาชีพอย่างมั่นใจ” 

บิวอธิบายว่า ความท้าทายของการแข่งขันครั้งนี้อยู่ที่การเปิดโอกาสให้นักศึกษาหลากหลายระดับเข้าร่วม ไม่เพียงแข่งขันกับนักศึกษาระดับ ปวส. ด้วยกันเท่านั้น แต่ยังต้องวัดฝีมือกับนักศึกษาสายอาชีพระดับมหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศ ทำให้บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความกดดันและความตื่นเต้นยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“ผมเคยลงแข่งวัดทักษะวิชาชีพนักศึกษา ปวช. ระดับประเทศ และได้รางวัลชนะเลิศมาแล้ว แต่ครั้งนี้เราแข่งแบบโอเพน ซึ่งมีพี่ ๆ คณะวิศวะระดับมหาวิทยาลัยร่วมด้วยก็ตื่นเต้นครับ คิดตลอดว่าพอก้าวขึ้นมาวัดทักษะกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในระดับที่สูงกว่าเดิมเราจะดีพอไหม ตอนรู้ว่าชนะเลยตกใจนิดหนึ่งครับ แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ ภูมิใจ และรู้สึกเชื่อในตัวเองยิ่งขึ้น”   

สำหรับผลงานที่คว้ารางวัล ทีมได้รับโจทย์ให้พัฒนา “ระบบสั่งงานแขนกลหุ่นยนต์” สำหรับใช้หยิบจับชิ้นงานในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยบิวและเพื่อนร่วมทีมมุ่งเน้นการออกแบบให้แขนกลมีประสิทธิภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และพร้อมทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง

“เราเชื่อว่าสิ่งประดิษฐ์ที่ดีวัดกันที่คุณภาพการใช้งาน ยิ่งเป็นงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ยิ่งต้องทำให้ดีกว่าเดิม และช่วยยกระดับระบบเดิมที่มีให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราจึงตั้งใจให้การพัฒนาแขนกลมุ่งไปที่การใช้งานในงานเชื่อมหรืองานประกอบชิ้นส่วนซึ่งอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากเป็นภารกิจที่จะเจอกับความร้อนและแสงสว่างตลอดเวลา ดังนั้นถ้าเรามีแขนกลหุ่นยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้คนทำงานปลอดภัย ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยสามารถทำงานอย่างต่อเนื่องยาวนานยิ่งขึ้น”  

(ซ้าย) อาจารย์กิตติชัย แซ่ตั้ง

ด้าน อาจารย์ณรงค์ศักดิ์ แสงเงิน วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ผู้ดูแลการฝึกซ้อมร่วมกับ อาจารย์กิตติชัย แซ่ตั้ง กล่าวว่าความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของวิทยาลัย โดยมีนักศึกษาชั้น ปวส.1 จากแผนกแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ ได้แก่ ณัฐภณ สุมะโน และ นครินทร์ สุดจิตต์ เป็นสมาชิกทีม 

“เป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งของวิทยาลัยที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่ระดับประเทศ และยิ่งกว่านั้นคือเป็นการเติมความมั่นใจของนักศึกษา ในการต่อยอดสู่เส้นทางอาชีพ โดยเฉพาะนครินทร์ หรือบิว ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นจนมีพัฒนาการโดดเด่นเห็นชัด ภายหลังได้รับคัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง”  

อาจารย์ณรงค์ศักดิ์ยังเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของบิวว่า เป็นเด็กจากโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล แต่มีความชัดเจนในเป้าหมายชีวิตตั้งแต่ยังเรียนชั้น ม.3 แม้จะมีข้อจำกัดด้านโอกาสและฐานะ สามารถก้าวขึ้นมายืน ณ ตำแหน่งหัวแถวของนักศึกษาสายอาชีพทั้งประเทศได้ นี่คือหลักฐานยืนยันว่าทุนการศึกษา สามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้  

“วันที่พบบิว เขาเรียนอยู่ชั้น ม.3 ใกล้จะจบแล้ว ตอนนั้นสิ่งที่เราเห็นว่าเขาแตกต่างจากเด็กคนอื่น คือในช่วงวัยและโอกาสน้อยนิดจากสภาพแวดล้อมอันจำกัด เขากลับรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดอะไร และอยากมุ่งหน้าไปทางไหน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเจ้าตัวไม่แน่ใจว่าจะได้เรียนต่อหรือไม่ ทางวิทยาลัยจึงเห็นว่าบิวคือคนที่ทุนกำลังมองหาและรับเข้าเรียนทันที”

อย่างไรก็ตาม หลังเข้าศึกษาได้ไม่นาน บิวเคยตัดสินใจขอลาออก เนื่องจากต้องเดินทางไป–กลับบ้านกับวิทยาลัยด้วยรถจักรยานยนต์เก่าระยะทางเกือบร้อยกิโลเมตรต่อวัน จนร่างกายและค่าใช้จ่ายไม่เอื้ออำนวย

“เป็นจังหวะพอดีที่มีประกาศว่าเขาได้ทุน เราเลยบอกว่าต่อจากนี้เขาจะมีค่าสนับสนุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายรายเดือน และสิ่งที่ทำให้เขาดีใจที่สุด คือในฐานะนักศึกษาทุนบิวจะได้อยู่หอพักของวิทยาลัยพร้อมอาหารครบมื้อ”   

อาจารย์ณรงค์ศักดิ์ชี้ว่า จังหวะในวันนั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้บิวเริ่มมีสมาธิกับการเรียน ปรับตัวได้ ค่อย ๆ ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ และยิ่งเปล่งประกายขึ้นเมื่ออยู่ชั้น ปวช.3 เขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนวิทยาลัยลงแข่งขันทักษะวิชาชีพแมคคาทรอนิกส์ระดับประเทศ และคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศไทย

“จุดเด่นของบิวคือจะแสวงหาความรู้ด้วยตัวเองตลอดเวลา และเรียนรู้จากทุกทาง เขามักตั้งคำถาม หาคำตอบ และใช้ประโยชน์จาก AI ยูทูป หนังสือ หรือหาความรู้จากรุ่นพี่ จากเพื่อน ๆ จากอาจารย์โดยไม่ต้องรอใครมาบอก คือเหมือนเราแค่ช่วยเปิดสวิต แล้วเขาจะปล่อยสิ่งที่มีในตัวออกมาได้เลย”

ในมุมของระบบจัดการเรียนรู้ วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรีให้ความสำคัญกับการออกแบบเส้นทางการเรียนที่เชื่อมโยงต่อเนื่องตั้งแต่พื้นฐานจนถึงตลาดแรงงาน ทุกภาคเรียนมีกรอบโครงงานชัดเจน เพื่อให้นักศึกษาเห็นว่าสิ่งที่เรียนจะนำไปใช้ในอาชีพได้อย่างไร พร้อมผลักดันให้ออกไปเก็บประสบการณ์จริงจากสถานประกอบการหรือเวทีการแข่งขันทางวิชาการ เพื่อยกระดับนักศึกษาทั้งชั้น ไม่ได้มุ่งเพียงคนที่มีความสามารถโดดเด่นเท่านั้น

ขณะเดียวกัน การเข้าร่วมโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงของ กสศ. ยังช่วยเสริมศักยภาพวิทยาลัยด้วยงบประมาณด้านวัสดุอุปกรณ์ และการอบรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้นักศึกษามั่นใจว่าเมื่อก้าวสู่โลกการทำงานจริง จะสามารถปรับตัวและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมได้ทันที

ท้ายที่สุด บิว นครินทร์ สะท้อนความหมายของ “โอกาส” ที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเขาไว้ว่า

“ผมมีวันนี้ได้เพราะโอกาส แม้จะรู้ว่าตัวเราต้องการก้าวไปทางไหน แต่การเรียนภายใต้ความกังวลว่าเราไม่พร้อมด้านทุนทรัพย์ มันทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ไม่เต็มที่ และไม่รู้เลยว่าอาจต้องเลิกเรียนกลางทางเมื่อไหร่ แต่พอมีทุนมาช่วย ผมจึงแน่ใจว่าเดินมาถูกทางแล้ว และยังเชื่อว่าจะยังไปได้อีก ยิ่งเรามีวุฒิ มีใบประกาศจากงานแข่งขันวัดทักษะในมือ ก็ยิ่งเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพได้แน่นอน”