หลังน้ำลด เด็กต้องไม่หายไป มูลนิธิอาสาสร้างสุขภาคใต้ สำรวจเด็กหาดใหญ่หลังวิกฤต

หลังน้ำลด เด็กต้องไม่หายไป มูลนิธิอาสาสร้างสุขภาคใต้ สำรวจเด็กหาดใหญ่หลังวิกฤต

หลังน้ำลด…หลายคนอาจคิดว่าเรื่องร้ายได้ผ่านไปแล้ว

แต่สำหรับเด็ก ๆ ในจังหวัดสงขลา วิกฤตครั้งนี้ยังคงติดอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเขา ทั้งความกลัว ความไม่แน่นอน และคำถามว่า

“พรุ่งนี้จะได้กลับไปโรงเรียนไหม”

มหาอุทกภัยครั้งนี้ไม่เพียงทำลายบ้านเรือนและรายได้ของผู้ปกครอง แต่ยังทำให้เด็กจำนวนมากต้องหยุดเรียนเป็นเวลานาน ขาดอุปกรณ์เรียน เสื้อผ้า และที่สำคัญที่สุด คือ ความรู้สึกปลอดภัย ที่โรงเรียนเคยเป็นให้ 

ขณะที่ผู้ใหญ่จำนวนมากต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่จากศูนย์ บางครอบครัวตกงานหรือย้ายถิ่นฐาน สูญเสียแทบทุกอย่างในคืนเดียว บาดแผลเหล่านี้ส่งผ่านถึงเด็ก ๆ แม้พวกเขาจะยังเล็กเกินกว่าจะอธิบายความรู้สึกได้ก็ตาม

ท่ามกลางความเสียหายที่เห็นด้วยตา อีกด้านหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ
เด็กคนไหนบ้างที่ “หายไป” จากระบบการเรียนรู้?
เด็กคนไหนกำลังพยายามกลับมา แต่สะดุดเพราะปัญหาที่ยังไม่มีใครมองเห็น

ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิอาสาสร้างสุขภาคใต้ ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ภายใต้โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ (Area-based Education : ABE) และคณะทำงาน Thailand Zero Dropout จึงลงพื้นที่สำรวจเด็กและเยาวชนในอำเภอหาดใหญ่หลังวิกฤต เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีเด็กคนใดต้องหลุดจากเส้นทางการศึกษาเพราะน้ำท่วมครั้งนี้

นิพนธ์ รัตนาคม ประธานมูลนิธิอาสาสร้างสุข เล่าว่า
การสำรวจเริ่มจากคำถามง่ายที่สุด แต่สำคัญที่สุด

“เด็กกลับมาเรียนหรือยัง?”
และหากคำตอบคือ “ยัง”
“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

สิ่งที่พบคือ หลังน้ำลด ผู้ปกครองจำนวนมากยังเผชิญความเครียดจากความสูญเสีย แม้เงินเยียวยา 9,000 บาทจะช่วยบรรเทาได้ในระยะสั้น แต่หลายครอบครัวยังไม่พร้อมพาเด็ก ๆ กลับเข้าสู่การเรียนรู้ตามปกติ

ดังนั้น การสำรวจครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการนับจำนวนเด็กขาดเรียน แต่คือการ “ตามหาเสียงที่หายไป” ของเด็กแต่ละคน เพื่อเข้าใจว่าพวกเขาต้องการอะไร

อุปกรณ์การเรียน? รายได้เสริมให้พ่อแม่? รูปแบบการเรียนที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม?

หรือบางครั้ง… เพียงผู้ใหญ่ที่ยอมฟังและเข้าใจพวกเขาอย่างจริงจัง

จากข้อมูลที่พบ มูลนิธิอาสาสร้างสุขจึงแยกเด็กออกเป็นกลุ่มเพื่อช่วยเหลือ

  • กลุ่มที่ยังไม่กลับมาเรียนเลย หลังผ่านไป 2 สัปดาห์
  • กลุ่มที่มาเรียนบ้าง–หยุดบ้าง เพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำงานหรือเผชิญปัญหาอื่น
  • กลุ่มที่กลับมาเรียนได้แล้ว แต่ยังเผชิญความยากลำบากและต้องการการสนับสนุนต่อเนื่อง

แต่ละกลุ่มต้องการแนวทางดูแลที่แตกต่างกัน ทั้งการสนับสนุนทรัพยากร การเยี่ยมบ้าน การจัดรูปแบบการเรียนที่เหมาะสม หรือการเชื่อมภาคีด้านอาชีพและสวัสดิการให้ครอบครัว


ควบคู่กับการลงพื้นที่สำรวจเด็ก ศูนย์อาสาสร้างสุขยังดำเนินงานช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตั้งครัวกลาง การจัดการเสื้อผ้ามือสอง การแพ็กถุงยังชีพ รวมถึงประสานความช่วยเหลือไปยังพื้นที่อื่นที่ได้รับผลกระทบ เช่น อำเภอสทิงพระ และจังหวัดสตูล

นอกจากนี้ นิพนธ์เล่าว่า พวกเขากำลังเตรียมขยายการทำงาน เช่น “รถพุ่มพวงเพื่อช่วยเหลือข้าวของอุปโภคบริโภค” ลงสู่ชุมชนแออัด ซึ่งจะเป็นทั้งการบรรเทาความเดือดร้อน และโอกาสในการเก็บข้อมูลเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบควบคู่กัน ขณะเดียวกัน ยังมีการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อเยียวยาหัวใจของเด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

“เราจะผลักดันแคมเปญ ค้นหา ช่วยเหลือ เด็กที่เสี่ยงหลุดจากระบบฯ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก โดยทำการช่วยเหลือเป็นรายกรณี กำหนดลำดับความสำคัญและประกาศความต้องการการช่วยเหลือให้เร็วที่สุด” นิพนธ์กล่าว

หลังน้ำลด เด็กต้องไม่หายไป

กสศ. ขอขอบคุณมูลนิธิอาสาสร้างสุขภาคใต้ ที่ลงพื้นที่สำรวจเด็กหาดใหญ่หลังวิกฤตน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เด็กทุกคนกลับมาสู่เส้นทางการเรียนรู้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง