“ครูจิ๋ว” หวั่นเด็กกทม. ออกนอกระบบการศึกษา

“ครูจิ๋ว” หวั่นเด็กกทม. ออกนอกระบบการศึกษา

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อภิญญา จิตระดับ ผู้จัดการมูลนิธิกรุงเทพประกันภัย  พร้อมตัวแทนจากมูลนิธิชิน โสภณพนิช น.ส.ทองพูล บัวศรี หรือ “ครูจิ๋ว” จากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกันส่งมอบถุงยังชีพ พร้อมขนมและน้ำดื่ม ให้เด็กกลุ่มเปราะบาง ณ ชุมชนโค้งรถไฟยมราช

น.ส.ทองพูล บัวศรี หรือ “ครูจิ๋ว” จากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

“ครูจิ๋ว” เปิดเผยว่า ชุมชนโค้งรถไฟยมราช มีทั้งหมด 200 ครัวเรือนที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีก 50 ครอบครัว เป็นการเช่าบ้าน  และ 39 ครอบครัว เด็กๆ จะช่วยพ่อแม่หารายได้จุนเจือครอบครัว ด้วยการออกไปขอทาน  ขายพวงมาลัย ริมทางรถไฟ และย่านถนนกลางคืน   

“ซึ่งในจำนวน 39 ครอบครัว มีเด็กจำนวน 72 คน โดยในจำนวนนั้น 16 คนเสี่ยงต้องออกจากระบบศึกษา ซึ่งทางมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก พยายามหาทางประคับประคอง ให้เด็กเหล่านั้น ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา

ทั้งนี้ “ครูจิ๋ว” ได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนโค้งรถไฟยมราชตลอดสามสัปดาห์ ทำให้พบสภาพปัญหาของเด็กแต่ละคนที่มีแนวโน้มอาจต้องออกจากระบบศึกษา เมื่อการเปิดเทอม 1 ก.ค. มาถึง เช่น หลายครอบครัว ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า พ่อแม่ถูกเลิกจ้าง เด็กจึงต้องไปช่วยพ่อแม่ทำงานหารายได้ 

ขณะที่ เรื่องอาหารการกิน บางรายไม่ได้รับประทานอาหารเช้า เพราะต้องไปช่วยพ่อแม่ทำงาน หรือ พ่อแม่ออกไปทำงาน ซึ่งในส่วนนี้ ทางมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กสศ. และภาคเอกชน จึงได้จัดหาถุงยังชีพ ซื้อข้าวปลาอาหารมาให้น้องๆ ได้รับประทาน

“ครูจิ๋ว” เล่าว่า เด็กบางรายต้องเดินไปโรงเรียน เช่นบางราย เรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ย่านกิ่งเพชร ถ้านั่งรถมอเตอร์ไซค์ก็เสียค่ารถ 30 บาท เด็กจึงเดินเท้าไปโรงเรียนก็อาจไม่ทันอาหารเช้า ที่ทางกทม.และโรงเรียนจัดหาให้ มีผลทำให้บางส่วนไม่อยากไปเรียน

“ครูจิ๋ว”  ประเมินปัญหาเด็กออกจากระบบการศึกษาในส่วนพื้นที่กทม.ปีนี้จะมีเพิ่มขึ้น เอาเฉพาะในส่วนที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กติดตามให้ความช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยง รวม 300 คน ออกนอกระบบการศึกษาไปแล้ว  30 คน หรือคิดเป็น 10 เปอร์เซนต์

“ปีนี้จะเป็นปีเผาจริงเยอะ จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาเข้ามาซ้ำเติมส่งผลให้ผู้ปกครองต้องประสบปัญหาในการประกอบอาชีพตกงาน ขาดแคลนรายได้ และจะทำให้ปัญหาสังคมเพิ่มขึ้น” ครูจิ๋ว จากมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าว     

ก่อนหน้านี้ มูลนิธิกรุงเทพประกันภัย ร่วมบริจาคเงิน 200,000 บาท พร้อมขนม และน้ำดื่ม 4,000 ขวด ให้กับ กสศ.  เพื่อส่งมอบให้เด็กกลุ่มเปราะบาง ณ มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล (ศูนย์เมอร์ซี่) และมูลนิธิสายเด็ก 1387  (เดอะ ฮับสายเด็ก หัวลำโพง) หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19

ตัวแทนจากมูลนิธิกรุงเทพประกันภัย เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิกรุงเทพประกันภัยจะให้ความช่วยเหลือเด็กในระบบในพื้นที่ห่างไกลทั้งให้ทุนการศึกษานักเรียน ช่วยให้เขาได้มีทักษะเรื่องการอ่าน ช่วยเด็กที่เขาขาดแคลนสาธารณูปโภคต่างๆ เช่นการจัดหาน้ำดื่ม เครื่องกรองน้ำ ห้องน้ำสะอาด แต่มาช่วงนี้เกิดการระบาดของ COVID-19 ทำให้เดินทางไปต่างจังหวัดไม่ได้ทางมูลนิธิจึงเริ่มมาช่วยเหลือเด็กในพื้นที่กทม.

​ทางมูลนิธิกรุงเทพประกันภัย อยากเป็นส่วนหนึ่งของการให้ความช่วยเหลือเด็กๆ ​ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบไปยังทุกกลุ่มในสังคม โดยกลุ่มที่ควรจะเข้าไปช่วยเหลือเร่งด่วนคือเด็กที่จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ดังนั้น ควรจะได้รับโภชนาการที่ดี

 

ติดตามความคืบหน้า
โครงการ สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง
ได้ที่ https://www.eef.or.th/donate-covid/

ร่วมบริจาคช่วยเหลือน้องๆ ไปกับโครงการ
#สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม กับ กสศ.
ตั้งแต่วันนี้ – 18 มิถุนายน 2563

ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย
เลขที่ 172-0-30021-6
ชื่อบัญชี “กสศ.-มาตรา 6(6) – เงินบริจาค”
บริจาควันนี้ นำไปลดภาษีได้ 2 เท่า

สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-079-5475