รัฐไอดาโฮอนุมัติเปิดทางให้นักศึกษาเลือกจ่ายค่าธรรมเนียมได้
โดย : AP News
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

รัฐไอดาโฮอนุมัติเปิดทางให้นักศึกษาเลือกจ่ายค่าธรรมเนียมได้

คณะกรรมการการศึกษาของรัฐไอดาโฮในสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบให้นักศึกษาในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยของรัฐ มีสิทธิ์เลือกที่จะจ่ายและไม่จ่ายค่าธรรมเนียมทางการศึกษาบางรายการได้ โดยแผนการศึกษาดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในปีการศึกษา 2022-2023 เป็นต้นไป และมีผลครอบคลุมถึงนักศึกษาที่จ่ายค่าเทอมไปล่วงหน้าแล้วสามารถทำเรื่องขอคืนเงินในส่วนต่างที่จ่ายเกินไปได้

การตัดสินใจของคณะกรรมการการศึกษาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสนับสนุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย (และการศึกษาระดับวิชาชีพขั้นสูง) ภายในพื้นที่รัฐไอดาโฮ ซึ่งโครงสร้างค่าธรรมเนียมการศึกษาใหม่จะทำให้จากเดิมที่นักศึกษาต้องจ่ายค่าเทอมแบบเหมาจ่าย สามารถเลือกลดราคาค่าเทอมของตนเองได้ด้วยการตัดกิจกรรมบางรายการที่นักศึกษาไม่ต้องการหรือไม่อาจเข้าร่วมได้ เช่น ค่าธรรมเนียมกิจกรรมมหาวิทยาลัย ค่าธรรมเนียมชมรมต่างๆ หรือค่าธรรมเนียมขององค์กรทั้งหลายในมหาวิทยาลัย (on-campus organizations)

นโยบายใหม่ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในภาคการศึกษาหน้าเป็นต้นไป โดยหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Moscow-Pullman Daily News รายงานว่า นักศึกษาที่จ่ายค่าเทอมไปแล้วล่วงหน้า และเห็นว่าตนเองไม่อยากเข้าร่วมชมรมกิจรรมของมหาวิทยาลัย สามารถยื่นเอกสารดำเนินการทำเรื่องขอคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาที่จ่ายไปในส่วนนี้ย้อนหลังกับทางวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยได้

ทั้งนี้ ค่าเล่าเรียนของนักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าธรรมเนียมสำหรับสนับสนุนกิจกรรมนอกหลักสูตร เช่น กิจกรรมชมรม ทัศนศึกษา กิจกรรมนอกสถานที่ และกิจกรรมในเชิงวัฒนธรรมต่างๆ ถือเป็นประเด็นที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐไอดาโฮอภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาเป็นเวลานาน ท่ามกลางความพยายามของฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐบาลท้องถิ่นที่ต้องการให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐมีราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้

รายงานระบุว่า สภารัฐไอดาโฮใช้เวลาตลอดช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อประเมินว่า ค่าธรรมเนียมประเภทใดที่นักศึกษาสามารถเลือกที่จะจ่ายหรือไม่จ่ายด้วยตัวเองได้ ขณะเดียวกันก็พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการออกระเบียบให้ทางมหาวิทยาลัยต้องแจกแจงรายละเอียดของค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เรียกเก็บจากนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษารับทราบและใช้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ

แผนใหม่ที่คณะกรรมการการศึกษารัฐไอดาโฮได้หารือกันนี้ จะจัดแบ่งค่าธรรมเนียมการศึกษาออกเป็น 4 ประเภท โดยประเภทแรกคือ ค่าลงทะเบียน ค่าเทอม และเงินสนับสนุนในกรณีที่เรียนดีหรือได้รางวัลทำชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย (success category) จะจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของทุนการศึกษา ส่วนประเภทที่สองคือส่วนของการดำเนินการของสถาบัน และการบริการสนับสนุนต่างๆ จะได้รับงบจัดสรรจากรัฐส่วนหนึ่งเป็นค่าบำรุงรักษา ประเภทที่สามคือ ค่าธรรมเนียมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (health and wellness) ของนักศึกษาที่ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายของศูนย์ออกกำลังกาย โรงยิม ฟิตเนส และบริการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวกับสุขภาพกายสุขภาพใจทั้งหมด และประเภทสุดท้ายคือ ค่าธรรมเนียมฝ่ายบริหารนักเรียน หรือก็คือค่าธรรมเนียมกิจการนักศึกษา ซึ่งครอบคลุมชมรม องค์กร และกิจกรรมนอกหลักสูตรต่างๆ โดยตามแผนค่าธรรมเนียมการศึกษาในปัจจุบัน ค่าธรรมเนียมในหมวดนี้คือทางเลือกที่นักศึกษามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่จ่ายก็ได้

เดฟ ฮิลล์ (Dave Hill) หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการการศึกษาของรัฐไอดาโฮ ได้ออกมาแสดงความขอบคุณทางสถาบันการศึกษาที่ร่วมมือทำงานกับรัฐบาลท้องถิ่นในการปรับโครงสร้างระบบค่าธรรมเนียมการศึกษา โดยย้ำว่า สถาบันต่างๆ ตอบรับกระแสเปลี่ยนแปลงอันแสนท้าทายนี้ในทิศทางที่ดี

นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการการศึกษาของรัฐยังได้ใช้โอกาสนี้ลงมติอนุมัติหลักสูตรใหม่ในระดับปริญญาตรีซึ่งเป็นหลักสูตรออนไลน์เกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยไซเบอร์ของทางสถาบัน Lewis-Clark State College (LCSC) ซึ่งเป็นวิทยาลัยประจำรัฐ ทั้งนี้หลักสูตรใหม่นี้จะเชื่อมโยงการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์กับการจัดการธุรกิจเข้าไว้ด้วยกัน โดย เฟรด ชิลสัน (Fred Chilson) รองประธานฝ่ายวิชาการของ LCSC กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าวจะมีการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนกับทางวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ

ด้านสก็อตต์ กรีน (Scott Green) อธิการบดีมหาวิทยาลัยไอดาโฮ กล่าวถึงที่มาที่ไปของหลักสูตรใหม่นี้ว่า มาจากการพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับบรรดาเจ้าของกิจการที่เห็นตรงกันว่า ทักษะความรู้ความสามารถเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์เป็นทักษะสำคัญที่บัณฑิตยุคนี้พึงมี เพื่อจะได้พร้อมขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเวลานี้ได้ทันที

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังมีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ทางมหาวิทยาลัยเทนเนสซีประกาศขยายสิทธิ์และเปลี่ยนเงื่อนไขในการรับทุนการศึกษา โดยขยายกรอบรายได้ของผู้มีสิทธิ์ขอทุนการศึกษา UT Promise Scholarship ให้เพิ่มขึ้น โดยภายใต้ระเบียบข้อบังคับใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม ปี 2022 นี้ นักเรียนที่มีรายได้ของครอบครัวต่ำกว่า 60,000 เหรียญสหรัฐ จะมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิ์ทุนการศึกษาดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้กำหนดเงื่อนไขของรายได้ครัวเรือนไว้ที่ 50,000 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ทุนการศึกษา UT Promise เป็นทุนที่มหาวิทยาลัยจะจ่ายเสริมให้แก่นักศึกษากลุ่มที่ได้รับทุนการศึกษาอื่นมาแล้ว แต่ยังต้องการความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อให้ครอบคลุมค่าเทอมและค่าธรรมเนียม โดยทุน UT Promise จะมอบให้นักศึกษาในระดับปริญญาตรีที่อาศัยอยู่ในรัฐเทนเนสซี และลงทะเบียนที่วิทยาเขตมหาวิทยาลัย (UT) ในเมืองน็อกซ์วิลล์ (Knoxville), แชตตานูกา (Chattanooga), มาร์ติน (Martin), เมมฟิส (Memphis) หรือพูลาสกี (Pulaski)

นับตั้งแต่ริเริ่มทุนการศึกษาดังกล่าวในปี 2019 มีนักศึกษามากกว่า 1,800 คนที่ลงทะเบียนเรียนในวิทยาเขตของ UT โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน โดยนอกจากเงินทุนที่ได้รับแล้ว ตัวโครงการยังให้ความช่วยเหลือในการจับคู่นักเรียนกับพี่เลี้ยงหรือครูที่ปรึกษาในการให้ความช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยรับรองความสำเร็จทางการศึกษาที่นักศึกษาเหล่านั้นจะได้รับเพิ่มมากขึ้น

ที่มา :
Idaho education board makes some college fees optional
University of Tennessee expands scholarship eligibility