ปีใหม่นี้ กสศ.- Sea (ประเทศไทย) – เครือข่ายโรงเรียนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชวนส่งต่อการให้ไม่สิ้นสุด กับแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ”

ปีใหม่นี้ กสศ.- Sea (ประเทศไทย) – เครือข่ายโรงเรียนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ชวนส่งต่อการให้ไม่สิ้นสุด กับแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ”

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้จับมือกับ Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ ช้อปปี้ (Shopee) และเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติ เดินหน้าแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ” โดยได้สานต่อจากแนวคิดของตลาดวาดฝันที่นำผลิตภัณฑ์ของนักเรียนทุนเสมอภาคมาเพิ่มมูลค่าทางการตลาด โดยในครั้งนี้ยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากนักเรียนทุนเสมอภาค กสศ. 12 โรงเรียน และนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ 7 โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาความยั่งยืนของนวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnership’s School Network 4) ที่สานต่อภูมิปัญญาชุมชน โดยได้จับมือกันพัฒนางานหัตถกรรมต่างๆ ออกเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ

“กสศ. มีความตั้งใจสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ เสริมทักษะชีวิตให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะเด็กทุกคนมีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเอง หากด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ไม่สามารถต่อยอดและพัฒนาพรสวรรค์ในตัวเองได้ ซึ่งโครงการนี้ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นในสามปีแรก ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนและภาคประชาชน และยังสร้างรายได้กลับคืนสู่โรงเรียนเครือข่าย กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ที่สำคัญยังเกิดเครือข่ายนานาชาติในการร่วมกันออกแบบกิจกรรมที่มีเป้าหมายร่วมกัน ในการสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษา ที่จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำ” ดร.ไกรยส กล่าว

ดร.ไกรยส กล่าวย้ำเติมว่า โครงการดังกล่าวคือตัวอย่างของการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่ลงมือทำได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่อาศัยความร่วมมือ ร่วมใจจากหลากหลายภาคส่วน ในการระดมความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ เติมเต็มความรู้ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพให้กับเด็กๆ  เป็นคุณค่าของ ALL FOR EDUCATION  ปวงชนเพื่อการศึกษา ที่สำคัญยังช่วยเสริมทักษะที่สำคัญต่อโลกยุคปัจจุบันใน 3 ด้าน ได้แก่

1.ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง 2.ทักษะความคิดสร้างสรรค์ในยุคศตวรรษที่ 21 และ 3.ทักษะการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา จากการสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเครือข่ายที่มีเป้าหมายร่วมกัน และภายใต้แนวคิดที่มุ่งสร้างสรรค์พื้นที่สังคมแห่งความร่วมมือและมิตรภาพวันนี้ ทาง กสศ. และภาคีเครือข่าย ได้เล็งเห็นความสำคัญส่วนนี้ จึงอยากเชิญชวนให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมตามความถนัดของตัวเอง และช่วยกันมองว่าจะทำอย่างไรให้เด็กๆกลับสู่เส้นทางการพัฒนาศักยภาพ รวมถึงการเรียนรู้ทักษะอาชีพ เพื่อเปลี่ยนแปลงเส้นทางอนาคตของพวกเขาได้

คุณพุทธวรรณ สุภัทรนันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร SEA (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีนี้ SEA (ประเทศไทย) ในนามของ Shopee ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาความยั่งยืนของนวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnership’s School Network) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว ประโยชน์ของโครงการที่เห็นได้ชัดคือ น้อง ๆ นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลกับเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติ ได้ร่วมเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีในการต่อยอดการขายผลิตภัณฑ์ให้ชุมชนจนเกิดรายได้จริง การได้เข้ามาเรียนรู้ด้วยกันเหมือนกับเป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เปิดใจ ทดลองทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มที่เป็นรูปแบบใหม่ ๆ เมื่อได้ทดลองทำจะเห็นว่า Shopee มีเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการมองเห็นจากกลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มขึ้น โดยที่มีต้นทุนในการใช้งานที่ต่ำไม่ต้องลงทุนมาก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเอกชนต่าง ๆ เห็นความสวยงามของผลิตภัณฑ์แล้วสั่งเป็นของขวัญปีใหม่เป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นอีกช่องทางสำคัญที่เราทุกคนจะเข้ามาช่วยกันสนับสนุนศักยภาพของน้องๆ นักเรียนให้สำเร็จตามฝัน

“Sea (ประเทศไทย) มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือของโครงการฯ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยการสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยนักเรียนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างรายได้กลับคืนสู่นักเรียนได้จริง พร้อมต่อยอดการสร้างอาชีพในอนาคตให้กับนักเรียน และรวมไปถึงการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลผ่านการลงมือทำจริง และการลดช่องว่างทักษะดิจิทัล และร่วมลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร SEA (ประเทศไทย) กล่าว

Mr.Gregory Threlfall ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่องค์ความรู้ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ กรุงเทพฯ กล่าวว่า โครงการพัฒนาความยั่งยืนของนวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnership’s School Network 4) ถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเสมอภาคระหว่างเด็ก ๆ จากโรงเรียนในเมืองกับเด็ก ๆ จากโรงเรียนในต่างจังหวัด ผ่านการสร้างประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีคุณค่า ซึ่งไม่เพียงสร้างมิตรภาพระหว่างกัน แต่ยังก่อให้เกิดการบูรณาการทักษะอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย

สำหรับในซีซั่น 4 นี้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า 12 ผลิตภัณฑ์พร้อมการ์ดขอบคุณแทนใจจากน้องๆ นักเรียน อาทิ โรงเรียนเพียงหลวง 16 จังหวัดเชียงรายกับโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ได้พัฒนากระเป๋าผ้าใยกัญชง ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ มีความเหนี่ยว ทนทาน  แบบคล้องแขน ตัวกระเป๋ากว้าง 7 นิ้ว สูง 8 นิ้ว สายกระเป๋าหนัง PVC สีน้ำตาลกระเป๋ามี 2 สี : ผ้าทอสีพื้น, ผ้าทอลาย

โรงเรียนบ้านแม่โต๋ จังหวัดเชียงใหม่ กับโรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า น้องๆสองโรงเรียนได้พัฒนาเสื้อทอมือปักลวดลายสีสันจากขุนเขาตกแต่งด้วยลูกเดือยธรรมชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อผ้านิ่มสวมใส่สบาย สีไม่ตก ดีไซน์เก๋เอวลอย

ขณะที่โรงเรียนบ้านตะเคียนกูยวิทยา จังหวัดสุรินทร์ กับโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์กรุงเทพ พัฒนาหมวกทรง Bucket ขนาด 55-58 ซม. มีสายคล้อง ตกแต่งขอบหมวกด้วยการแซวเส้นไหมหลากสี / หมอนอิงผ้าลายลูกแก้ว ขนาด 40*40 ซม. มี 2 สี สีดำและสีครีม มีการแซวเส้นไหมรูปหน้าช้างกลางหมอน ตกแต่งด้วยพู่เส้นไหม 4 มุม

สำหรับโครงการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 มีโรงเรียนในเครือข่าย กสศ. เข้าร่วมจำนวน 12 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนเพียงหลวง 16 อ.เทิง จ.เชียงราย 2.โรงเรียนชุมชนดอยช้าง จ. เชียงราย 3.โรงเรียนบ้านขุนกลาง จ. เชียงใหม่ 4. โรงเรียนบ้านแม่โต๋ จ. เชียงใหม่ 5.โรงเรียนบ้านทับเบิกร่วมใจ จ. เพชรบูรณ์ 6.โรงเรียนศรีโพนทองวิทยา จ. นครพนม 7.โรงเรียนบ้านสามขามิตรภาพที่ 3 จ. มุกดาหาร 8.โรงเรียนบ้านแกใหญ่ จ. สุรินทร์ 9.โรงเรียนบ้านตะเคียนกูยวิทยา จ. สุรินทร์ 10.โรงเรียนบ้านโนนกุ่มมิตรภาพที่ 2 10.จ. นครราชสีมา 11. โรงเรียนวัดหุบกระทิง จ. ราชบุรี 12. โรงเรียนบ้านหนองธง จ. พัทลุง

พร้อมด้วยเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติที่เข้าร่วมโครงการ 7 โรงเรียน ได้แก่ 1 โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี 2. โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า 3. โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์กรุงเทพ 4. โรงเรียนสาธิตประสานมิตร หลักสูตรนานาชาติ 5. โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ 6. โรงเรียนนานาชาติรักบี้ 7. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะจัดจำหน่ายแบบพิเศษสุด (Exclusive) ผลิตภัณฑ์ละ 50 ชิ้นเท่านั้น บนแพลตฟอร์ม Shopee (แคมเปญ 12.12) ตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ที่ ชวนคุณส่งต่อการให้ไม่สิ้นสุด กับแคมเปญ “ให้โอกาสเป็นของขวัญ” หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Shopee ได้จากทั้ง Play Store และ Apple Store โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดจะนำกลับคืนให้กับนักเรียนทุนเสมอภาคในโรงเรียนสังกัด สพฐ.โดยไม่หักค่าใช้จ่ายเพื่อให้เด็กๆ นำไปต่อยอดเพื่อส่งเสริมด้านการพัฒนาทักษะอาชีพในอนาคต   หรือร่วมสนับสนุนทุนต่อยอดการพัฒนาทักษะอาชีพให้กับน้องๆ ได้ที่ eef.or.th/donate