มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ‘เปิดตัวครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประเทศไทย และครูรางวัลคุณากร ประจำปี 2568’
พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายครูทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ในพื้นที่ห่างไกล

มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ‘เปิดตัวครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประเทศไทย และครูรางวัลคุณากร ประจำปี 2568’

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จัดงานแถลงข่าว ‘เปิดตัวครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศไทย และครูรางวัลคุณากร ประจำปี 2568’

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับครูผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 6 ประจำปี 2568 ของประเทศไทย คือ ครูไพรวัลย์ ยาปัญ โรงเรียนบ้านกองม่องทะ (สาขาบ้านไล่โว่) อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และครูรางวัลคุณากร ได้แก่ ครูไพลรัตน์ สำลี วิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย และครูทอน บัวเรือง โรงเรียนบ้านดงน้ำเดื่อ จ.เพชรบูรณ์ ที่มาของครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีประเทศไทย เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ประกอบด้วย สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด กรุงเทพมหานคร และอีก 6 องค์กรที่มีรางวัลระดับประเทศ ซึ่งร่วมกันเสนอชื่อครูจากทั่วประเทศ เพื่อให้สังคมร่วมกันเห็นคุณค่าและยกย่องครูที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีคุณสมบัติสองประการสำคัญ คือ ‘สร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา’ ของแต่ละจังหวัด เพื่อมอบรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รางวัลคุณากร รางวัลครูยิ่งคุณ และรางวัลครูขวัญศิษย์

ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีกล่าวว่า การคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ดำเนินการตั้งแต่ปี 2558-2568 รวมแล้ว 6 รุ่น ปัจจุบันมีครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รวม 69 คน จาก 14 ประเทศ จากกลุ่มประเทศอาเซียน ติมอร์-เลสเต และในปี 2568 ได้เพิ่มเติมประเทศบังกลาเทศ ภูฏาน และมองโกเลีย ส่วนครูรางวัลคุณากร ครูยิ่งคุณ และครูขวัญศิษย์ จะเป็นการมอบให้กับครูไทยจากทุกสังกัดการศึกษา ไม่ว่าในระบบการศึกษา การศึกษาตามอัธยาศัย รวมไปถึงครูอาชีวศึกษา ทั้ง 77 จังหวัด ซึ่ง 6 รุ่นที่ผ่านมา มีผู้รับรางวัลรวมแล้วทั้งหมด 1,035 คน สำหรับการขยายผลการทำงานของเครือข่ายครูมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี มีการทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการของทั้ง 14 ประเทศ เพื่อต่อยอดการทำงานของครู ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างครูไทยและครูต่างประเทศ อาทิ การประชุมวิชาการนานาชาติ การศึกษาดูงานระหว่างครูเครือข่ายมูลนิธิ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์สอนระหว่างโรงเรียนข้ามประเทศ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือครูโดยการสนับสนุนของภาคเอกชนไทย

ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ครูเครือข่ายมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้พิสูจน์ถึงชีวิตที่ทุ่มเท เป็นแบบอย่างของความเป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษา ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับคุณภาพการศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ผ่านนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ตรงของครู ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ในพื้นที่ห่างไกลและประชากรในกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ นอกจากนี้บทเรียนและนวัตกรรมการศึกษาที่เกิดขึ้นยังเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยการเสริมสร้างทักษะใหม่ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับเครือข่ายทั้งในประเทศและภูมิภาค และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือเป็นปรับเปลี่ยนการศึกษาให้สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ครูไพรวัลย์ ยาปัญ
ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศไทย ปี 2568

ครูไพรวัลย์ ยาปัญ ครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประเทศไทย ปี 2568 กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ตัดสินใจเริ่มเป็น ‘ครูอาสา’ และร่วมผลักดันให้เกิดการจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ ว่า ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า อยากพัฒนาเด็กในถิ่นทุรกันดาร จึงตัดสินใจเดินทางมาที่บ้านกองม่องทะ ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าพื้นที่ในขณะนั้น เพื่อเป็นครูอาสา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ชาวบ้านกำลังหมดศรัทธาต่อการศึกษา เพราะครูอยู่ได้ไม่นานก็ย้ายออก ครูมดจึงเข้ามาสอนทุกวิชาและทุกระดับชั้น เป็นเวลา 17 ปี จากการผลักดันให้เกิดการจัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ จากโรงเรียนชั่วคราวให้เป็นโรงเรียนในสังกัดกองตำรวจตระเวนชายแดนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้นั้น จึงนำมาพัฒนาให้ห้องเรียนสาขาบ้านไล่โว่ เป็นโรงเรียนสาขาบ้านไล่โว่  ทำให้นักเรียนที่จบประถมศึกษาตอนปลายไม่ต้องกลับมาเรียนซ้ำ ซึ่งการปฏิบัติต่อลูกศิษย์ทุกคนอย่างสม่ำเสมอเท่าเทียม โดยจัดการศึกษาเด็กเป็นรายบุคคลทั้งพื้นฐานความรู้ ทักษะชีวิต และความถนัดที่ต่างกัน ใช้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นสื่อการสอน จนเด็กอ่านเขียนภาษาไทยได้ ทำให้นักเรียนสามารถมีผลการทดสอบระดับชาติ O-Net ในวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้น ป.6 ที่สูงกว่าผลทดสอบระดับประเทศได้สำเร็จ รวมถึงริเริ่มกิจกรรม ‘ขายข้ามเขาออนไลน์ By Kongmongta School’ เพื่อบ่มเพาะให้เป็นผู้ประกอบการ และตั้งใจอุทิศตนทำหน้าที่ครูต่อไป ให้ลูกศิษย์ถึงฝั่งที่ฝันให้ได้มากที่สุด

ครูไพลรัตน์ สำลี รางวัลคุณากร

ครูไพลรัตน์ สำลี รางวัลคุณากร ครูนักประดิษฐ์นวัตกรรมพลังงานทดแทน รวมทั้งเทคโนโลยีสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อผู้พิการกล่าวว่าตนเริ่มต้นชีวิตครูอัตราจ้างที่วิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งพนักงานราชการ ประเภทครูผู้สอน สังกัดวิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย เป็นระยะเวลากว่า 26 ปี และอยากที่จะส่งต่อความรู้ ให้การช่วยเหลือลูกศิษย์ให้ได้รับโอกาสและพัฒนาตนเอง รวมถึงลูกศิษย์ที่ขาดโอกาสเป็นผู้พิการให้ได้รับการช่วยเหลือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมกับมีรายได้ เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพราะลูกศิษย์คือเครือข่ายที่ดี ที่เอามันสมองของผมไปกระจายความรู้

ครูทอน บัวเรือง รางวัลคุณากร

ครูทอน บัวเรือง รางวัลคุณากร ครูผู้ไม่หยุดความเป็นครูแม้จะเลยวัยเกษียณ ยังคงถ่ายทอดความรู้จนลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ กล่าวว่า คุณภาพการสอนของครูสามารถเปลี่ยนชีวิตลูกศิษย์ได้ แม้ลูกศิษย์ที่เรียนรู้ช้าหรือมีข้อจำกัดทางทรัพยากรระหว่างโรงเรียนในเมืองกับชนบท ครูต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง พยายามเชื่อมโยงบทเรียนเข้ากับชีวิตของนักเรียน ทำให้การเรียนมีความหมายและนำไปใช้ได้จริง โดยปรับวิธีการสอนอยู่เสมอ สังเกตการตอบสนองของนักเรียน วิเคราะห์ข้อดีข้อจำกัด และพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่หากครูมีใจรักและมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ความสำเร็จของลูกศิษย์ คือ ดอกไม้ที่หอมหวานที่สุดในสวนแห่งชีวิตครู และการศึกษาที่มีคุณภาพไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในเมือง ทุกพื้นที่ควรมีโอกาสเท่าเทียมกัน