“ผสานพลัง ก้าวไปด้วยกัน” ยกระดับ ‘การศึกษาที่มีทางเลือก’ สู่กระแสหลัก เพื่อ ‘การเรียนรู้ที่เปิดกว้าง’ ของเยาวชนนอกระบบการศึกษา

“ผสานพลัง ก้าวไปด้วยกัน” ยกระดับ ‘การศึกษาที่มีทางเลือก’ สู่กระแสหลัก เพื่อ ‘การเรียนรู้ที่เปิดกว้าง’ ของเยาวชนนอกระบบการศึกษา

วันที่ 28 กันยายน 2566 อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี – กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ‘ผสานพลัง ก้าวไปด้วยกัน’ บนเส้นทางการทำงานเพื่อเยาวชนนอกระบบการศึกษา ภายใต้ ‘โครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา ปี 2566’ โดยมีหน่วยจัดการเรียนรู้ที่ได้รับทุนสนับสนุน 40 แห่ง ร่วมด้วยคณะทำงานหนุนเสริมวิชาการโครงการ ฯ ผู้ทรงคุณวุฒิและเจ้าหน้าที่ กสศ. เข้าร่วมทำความเข้าใจแนวคิด เป้าหมาย และเส้นทางการดำเนินงาน ตลอดจนเชื่อมต่อการเรียนรู้ผ่านวงสนทนาแลกเปลี่ยน ระหว่างหน่วยจัดการเรียนรู้ทั้งภายในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค 

‘โครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา ปี 2566’ เป็นส่วนหนึ่งของ ‘โครงการส่งเสริมโอกาสทางการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน’ ซึ่ง กสศ. ดำเนินการตั้งแต่ปี 2562 ร่วมกับหน่วยจัดการเรียนรู้ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และประสบความสำเร็จในการสร้างหน่วยจัดการเรียนรู้ ที่เชื่อมโยงกับองค์ความรู้ ทรัพยากร หน่วยงาน รวมถึงคนในชุมชน จนเกิดเส้นทางอาชีพที่ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชนที่ยั่งยืน 

และในปี 2566 นี้ กสศ. ได้แยกการทำงานกับกลุ่มเยาวชนนอกระบบช่วงวัย 17-24 ปี ออกมาเป็นโครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติงานร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ ในการสร้างกลไกเสริมทักษะการเรียนรู้ ทักษะชีวิต ทักษะวิชาการ และทักษะวิชาชีพ ที่สอดคล้องกับการพัฒนาเยาวชนนอกระบบโดยเฉพาะ ทั้งในลักษณะรายกลุ่มและรายบุคคล หรือเป็นการจัด ‘การศึกษาที่มีทางเลือก’ เพื่อให้เด็กเยาวชนทุกกลุ่มเข้าถึงโอกาสพัฒนาตนเอง สามารถนำความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ไปใช้ต่อยอด ทั้งในรูปแบบการเทียบโอนหน่วยกิตเพื่อเข้าสู่การศึกษาในระบบ หรือใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ และกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นย่างก้าวสำคัญ ของการทำให้การศึกษาทางเลือกเข้าไปมีที่ทางในการศึกษากระแสหลัก เป็นการเปลี่ยนระบบการศึกษาที่เคยมีเพียงมาตรฐานเดียวทั่วประเทศ ให้มีความยืดหยุ่นหลากหลาย หรือคือเปลี่ยนการศึกษาจากเดิมที่ยึด ‘โรงเรียนเป็นศูนย์กลาง’ (Schooling) เป็น ‘การเรียนรู้ที่เปิดกว้าง’ ซึ่งเด็กเยาวชนทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองได้จากทุกที่ทุกเวลา

“มากกว่า 50 ปีผ่านมาที่องค์ความรู้ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย หรือในสถาบันการศึกษาโดยมีครูอาจารย์เป็นบุคคลสำคัญในการถ่ายทอดความรู้นั้น ขณะที่แนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของวงการการศึกษาโลกปัจจุบันนั้นเปิดกว้างขึ้น กลายเป็นการเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยมีครูเป็นผู้ออกแบบจัดการเรียนรู้และอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองได้ตามความสนใจ ความถนัด และสอดคล้องกับบริบทของชีวิต และโครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษาก็เช่นเดียวกัน ที่จะดำเนินงานภายใต้อำนาจพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562 และ พระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ.2542 ซึ่งนิยามความหมายของการจัดการศึกษาว่ามีทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยให้มีการเทียบโอนผลการเรียนสะสมทั้งในรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบ และไม่ว่าจะเป็นการสะสมผลการเรียนจากสถานศึกษาเดียวกันหรือไม่ก็ตาม รวมถึงสามารถเทียบโอนผลการเรียนจากการฝึกอาชีพหรือประสบการณ์การทำงานเพื่อรับวุฒิการศึกษา การทำงานโครงการนี้จึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้มีการเปิดพื้นที่การศึกษาใหม่ ๆ โดยหน่วยจัดการเรียนรู้เป็นผู้ออกแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างหลากหลาย ให้ผู้เรียนกำหนดรูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวิถีชีวิต และสามารถใช้ความรู้และทักษะนำพาตนเองไปถึงเป้าหมายที่พึงปรารถนา  

“กล่าวถึงเด็กเยาวชนนอกระบบซึ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบตลอดมา จากระบบการศึกษาที่มีเพียงมาตรฐานเดียว โครงการนี้จึงมุ่งสื่อสารไปยังเยาวชนกลุ่มนี้ ว่าหากได้รับการศึกษาที่ดีและมีรูปแบบเหมาะสม เขาจะมีโอกาสใช้ศักยภาพที่มีได้สูงสุด และพึ่งพาตนเองอย่างมีคุณภาพ ดังนั้นจุดเริ่มต้นของจัดการศึกษา จะต้องมีเป้าหมายตั้งต้นก่อนว่าทำเพื่อตอบโจทย์การมีงานทำ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือเพื่อวุฒิการศึกษา ที่สำคัญคือตัวรูปแบบการศึกษาเอง ต้องไม่ใช่เพียงจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นจบแล้วจบกัน แต่ต้องมีกระบวนการที่ทำให้ผู้เรียนเชื่อมั่น และมองเห็นปลายทางว่าจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้จริง”

กรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า เป้าหมายหลักของโครงการ ฯ คือหน่วยจัดการเรียนรู้ทั้ง 40 แห่งต้องสามารถฝังตัวระยะยาวในพื้นที่ และ ‘ยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้’ ที่ตอบโจทย์การสร้างงานสร้างอาชีพ ในฐานะ ‘พื้นที่แห่งโอกาส’ ให้ทุกคนในชุมชนสามารถเดินเข้ามาใช้เปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของตนเองได้ นอกจากนี้ความหมายของคำว่า ‘ทุกคน’ ในที่นี้ จะต้องครอบคลุมถึงเด็กเยาวชนทุกคุณลักษณะ ทุกพื้นที่ ไม่ว่าเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม เยาวชนผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มไร้สัญชาติ หรือเด็กเยาวชนในพื้นที่ชายแดน เพื่อที่ทุกความสำเร็จของทุกหน่วยการเรียนรู้ กสศ. จะได้นำมาถอดบทเรียนและขยายผล  ขับเคลื่อนภารกิจลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทยในภาพรวมต่อไป

 

รศ.ดร.วีระเทพ ปทุมเจริญวัฒนา ผู้จัดการโครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา กล่าวว่า โครงการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษา จะทำงานสอดประสานระหว่างหน่วยจัดการเรียนรู้ คณะหนุนเสริมวิชาการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ภายใต้โจทย์เรื่องเยาวชนนอกระบบการศึกษาที่ซับซ้อน หลากกลุ่ม หลายมิติ และยังมีการเคลื่อนไหวของชุดข้อมูลตลอดเวลา ทั้งนี้หน่วยจัดการเรียนรู้ที่เข้าใจบริบทเชิงพื้นที่เป็นอย่างดี จะเป็น ‘คานงัด’ สำคัญของการทำงาน ซึ่งแต่ละหน่วยจัดการเรียนรู้ที่มาจากสถาบันการศึกษา ท้องถิ่น ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคมเอง ก็มีความหลากหลายทางองค์ความรู้ ชุดประสบการณ์ มีบทเรียนและเครื่องมือการทำงานที่ไม่เหมือนกัน 

สำหรับเป้าหมายในปี 2566 โครงการ ฯ จะทำกับเยาวชนนอกระบบการศึกษาราว 1,500 คน เป็นการทำงานเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ ‘บทเรียนต้นแบบ’ ที่จะต่อยอดไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยขั้นตอนทำงานจะเริ่มที่ค้นหากลุ่มเป้าหมายให้พบ ทำความเข้าใจ สำรวจความต้องการ เรียนรู้ศักยภาพ และ ‘สร้างความไว้วางใจ’ ซึ่งถือเป็นหลักการที่สำคัญกว่าการออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้เสียอีก 

“หน่วยจัดการเรียนรู้ในฐานะพี่เลี้ยงจึงต้องเป็นเพื่อนร่วมทางการเรียนรู้ไปกับน้อง ๆ เยาวชน โดยส่งเสริมในจุดที่ขาด และรีดเอาศักยภาพในทุกด้านที่พบออกมา ไม่ว่าทักษะวิชาการ ทักษะอาชีพ หรือทักษะชีวิต และการพัฒนาจะต้องคำนึงถึงความต้องการและเงื่อนไขในชีวิตของเยาวชนแต่ละคนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ทุกหน่วยจัดการเรียนรู้ต้องทำงานกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อเชื่อมต่อระบบ สร้างกลไกและมาตรการการพัฒนาศักยภาพของน้อง ๆ ในระยะยาว วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ทุกฝ่ายได้มาปฐมนิเทศและทำความเข้าใจการทำงานร่วมกัน ก่อนทุกหน่วยจัดการเรียนรู้จะลงสนามสู่หน้างานจริงในวาระต่อไป”

รายชื่อโรงเรียน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

จังหวัด นราธิวาส จำนวน 4 โรงเรียน

  • โรงเรียนผดุงมาตร
  • โรงเรียนสวนพระยาวิทยา
  • โรงเรียนราชพัฒนา
  • โรงเรียนนราสิกขาลัย

จังหวัดยะลา จำนวน 15 โรงเรียน

  • โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 94 (บ้านบ่อน้ำร้อน)
  • โรงเรียนคุรุชนพัฒนา
  • โรงเรียนบ้านตาเซะ
  • โรงเรียนบ้านราโมง
  • โรงเรียนบ้านกาตอง
  • โรงเรียนบ้านหลักเขต
  • โรงเรียนพัฒนาบาลอ
  • โรงเรียนบ้านโกตาบารู
  • โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ
  • โรงเรียนบ้านเยาะ
  • โรงเรียนบ้านโต
  • โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะปันยัง
  • โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
  • โรงเรียนบ้านสะเอะ
  • โรงเรียนกาบังพิทยาคม

จังหวัดปัตตานี จำนวน 16 โรงเรียน

  • โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา
  • โรงเรียนนิคมสร้างตนเองโคกโพธิ์ มิตรภาพที่ 148
  • โรงเรียนบ้านบางมะรวด
  • โรงเรียนบ้านท่าน้ำตะวันออก
  • โรงเรียนบ้านน้ำบ่อ
  • โรงเรียนบ้านปาลัส
  • โรงเรียนบ้านตรัง
  • โรงเรียนบ้านกระเสาะ
  • โรงเรียนบ้านบูดี
  • โรงเรียนบ้านฝาง
  • โรงเรียนบ้านตะโละไกรทอง
  • โรงเรียนบ้านน้ำดำ
  • โรงเรียนบ้านโลทู
  • โรงเรียนบ้านวังกว้าง
  • โรงเรียนสะนอพิทยาคม
  • โรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม

รายชื่อโรงเรียน ภาคตะวันตก

จังหวัดตาก จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านร่มเกล้า 2

รายชื่อโรงเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาผ่านโครงการ Million Gift Million Smiles

จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15
    (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท)

จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 โรงเรียน

  • โรงเรียนชลประทาน
    เขื่อนแม่กวงจิราธิวัฒน์อุปถัมภ์
  • โรงเรียนบ้านโป่งน้อย
  • โรงเรียนวัดสันคะยอม

จังหวัดลำปาง จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนวัดเสด็จ

จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านท่าข้าม

จังหวัดตาก จำนวน 3 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านร่มเกล้า 2
  • โรงเรียนบ้านร่มเกล้า 4
  • โรงเรียนบ้านห้วยไม้แป้น

จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 4 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านควนเงิน
  • โรงเรียนบ้านท่าไทร
  • โรงเรียนวัดชะอวด
  • โรงเรียนวัดไม้เสียบ

จังหวัดตรัง จำนวน 11 โรงเรียน

  • โรงเรียนท่างิ้ว (ต.ช.ด.อุปถัมภ์)
  • โรงเรียนบ้านเกาะเคี่ยม
  • โรงเรียนบ้านคลองคุ้ย
  • โรงเรียนบ้านช่องลม
  • โรงเรียนบ้านทอนเหรียน
  • โรงเรียนบ้านท่าส้ม
  • โรงเรียนบ้านบางสัก
  • โรงเรียนบ้านวังลำ
  • โรงเรียนวัดทุ่งหินผุด
  • โรงเรียนวัดวารีวง
  • โรงเรียนหาดทรายทอง

จังหวัดนราธิวาส จำนวน 6 โรงเรียน

  • โรงเรียนนราสิกขาลัย
  • โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมงมิตรภาพที่ 128
  • โรงเรียนผดุงมาตร
  • โรงเรียนพิทักษ์วิยากุมุง
  • โรงเรียนราชพัฒนา
  • โรงเรียนสวนพระยาวิทยา

จังหวัดพังงา จำนวน 2 โรงเรียน

  • โรงเรียนวัดนิโครธาราม
  • โรงเรียนวัดสุวรรณาวาส

จังหวัดปัตตานี จำนวน 8 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านกระเสาะ
  • โรงเรียนบ้านตะโละไกรทอง
  • โรงเรียนบ้านน้ำดำ
  • โรงเรียนบ้านบางทัน
  • โรงเรียนบ้านโลทู
  • โรงเรียนบ้านวังกว้าง
  • โรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม
  • โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา

จังหวัดยะลา จำนวน 10 โรงเรียน

  • โรงเรียนกาบังพิทยาคม
  • โรงเรียนบ้านโกตาบารู
  • โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
  • โรงเรียนบ้านจุโป
  • โรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์
  • โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ
  • โรงเรียนบ้านราโมง
  • โรงเรียนบ้านสะเอะ
  • โรงเรียนพัฒนาบาลอ
  • โรงเรียนอัยเยอร์เวง

จังหวัดสงขลา จำนวน 18 โรงเรียน

  • โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา
  • โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์
  • โรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเทพา
  • โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน
  • โรงเรียนทับช้างวิทยาคม
  • โรงเรียนเทพา
  • โรงเรียนบ้านเขาพระ
  • โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ
  • โรงเรียนบ้านคูนายสังข์
  • โรงเรียนบ้านโคกตก
  • โรงเรียนบ้านนาปรัง
  • โรงเรียนบ้านบาโหย
  • โรงเรียนบ้านปากบางนาทับ
  • โรงเรียนบ้านป่าเร็ด
  • โรงเรียนบ้านพระพุทธ
  • โรงเรียนบ้านม้างอน
  • โรงเรียนบ้านม้างอน
  • โรงเรียนวัดประจ่า