กสศ. เชิญสถานศึกษายื่นข้อเสนอโครงการทุนนวัตกรรมฯ ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ปี 2569 ร่วมสร้างโมเดลเรียนอาชีพสู่การมีงานทำ ภายใน 8 ธ.ค.นี้

กสศ. เชิญสถานศึกษายื่นข้อเสนอโครงการทุนนวัตกรรมฯ ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ปี 2569 ร่วมสร้างโมเดลเรียนอาชีพสู่การมีงานทำ ภายใน 8 ธ.ค.นี้

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เดินหน้าพัฒนาระบบการศึกษาสายอาชีพที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษเข้าถึงทักษะที่ใช้ได้จริง พร้อมก้าวสู่การมีงานทำหลังเรียนจบ โดยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 กสศ. ได้จัดประชุมชี้แจงการเปิดรับข้อเสนอโครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ปี 2569” มีสถานศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับอนุปริญญาสายอาชีพจากทุกสังกัดรัฐและเอกชน จำนวน 59 แห่ง เข้าร่วมรับฟังแนวทาง เพื่อร่วมพัฒนาต้นแบบการจัดการศึกษาที่ตอบโจทย์ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ และเสริมทักษะที่นำไปสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

ลดความเหลื่อมล้ำด้วยการศึกษา: “ความพิเศษ” คือพลังสร้างอาชีพ

ผศ.ดร.ปานเพชร ชินินทร

ผศ.ดร.ปานเพชร ชินินทร อนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับสูงกว่าภาคบังคับ กสศ. กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกลไกสำคัญในการขยายโอกาสทางการศึกษาสายอาชีพให้แก่ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ พร้อมการสนับสนุนและสวัสดิการที่เหมาะสม โดยใช้ “การศึกษา” เป็นคานงัดสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจนข้ามรุ่น และสร้างเส้นทางอาชีพที่มั่นคงให้แก่ผู้เรียน

กสศ. มีเป้าหมายสนับสนุนให้ผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษสามารถเรียนต่อระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และมีทักษะพร้อมต่อการทำงานทันทีหลังจบการศึกษา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมกำลังแรงงานของประเทศ

ผลการประเมินมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ (SROI) โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า ตั้งแต่ปี 2562–2567 โครงการนี้มีค่า SROI สูงถึง 4.134 หมายความว่า “ลงทุน 1 บาท ให้ผลตอบแทนทางสังคมกว่า 4 บาท” นับเป็นหนึ่งในโครงการที่สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมสูงที่สุดของ กสศ.

ยกระดับคุณภาพสถานศึกษา: บูรณาการเรียนรู้กับงานจริง

ผศ.ดร.ปานเพชร กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานศึกษาที่เข้าร่วมต้องมีประสบการณ์จัดการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีความพร้อมด้านหลักสูตร ระบบนิเทศฝึกงาน การทำงานร่วมกับสถานประกอบการและชุมชน ตลอดจนออกแบบหลักสูตรฐานสมรรถนะที่เชื่อมโยงกับงานจริง รวมถึงมีระบบเฟ้นหา คัดกรอง ดูแล และสนับสนุนผู้เรียนให้มีงานทำอย่างเป็นรูปธรรม

เชื่อมั่นศักยภาพผู้เรียน: ตัวเลขยืนยันมีงานทำจริงเกือบ 97%

ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์

คุณธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ กสศ. กล่าวว่า ผู้เรียนกลุ่มนี้มีความตั้งใจสูงและสามารถพัฒนาได้หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ความสำเร็จส่วนใหญ่เกิดจากครูและผู้บริหารที่ช่วยบ่มเพาะศักยภาพของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่ปี 2563–2568 มีผู้เรียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 689 คน จาก 12 สถาบันใน 9 จังหวัด โดยผลการติดตามของคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า 96.86% ของผู้เรียนมีงานทำ รายได้เฉลี่ยประมาณ 10,000 บาท สูงสุด 16,000 บาท และมีเส้นทางอาชีพหลากหลาย ทั้งงานบริษัทเอกชน งานอิสระ งานด้านไอที และงานของครอบครัว สะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนทุกคนมีศักยภาพบน “ความพิเศษของตนเอง”

ผศ.ดร.ชนิศา ตันติเฉลิม

พัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้: ปิดช่องว่างการศึกษาและตลาดแรงงาน

ผศ.ดร.ชนิศา ตันติเฉลิม หัวหน้าโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ กล่าวว่า โครงการนี้ช่วยพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมรอบด้านและสร้างความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทำให้ผู้เรียนมีทักษะใช้ได้จริง และช่วยลดช่องว่างระหว่างการศึกษาและตลาดแรงงาน ขณะที่ปัจจุบันผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เข้าถึงการศึกษา และมากถึง 59% ในวัยแรงงานยังไม่มีงานทำ จึงจำเป็นต้องมีโครงการที่เชื่อมการเรียนรู้กับการมีงานทำอย่างเป็นระบบ

เปิดรับข้อเสนอโครงการถึง 8 ธันวาคมนี้

สถานศึกษาที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ สามารถยื่นข้อเสนอโครงการ (Proposal) ผ่านระบบออนไลน์ที่
eefinnovet-special.com/2026 

โดยต้องกรอกแบบฟอร์ม แนวคิด วิธีดำเนินงาน แผนงบประมาณ และเอกสารประกอบอย่างครบถ้วน
ยื่นข้อเสนอได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2568 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.eef.or.th/notice/eefinnovet-special-2025/
สอบถามข้อมูล โทร. 0 2079 5475 กด 2
หรืออีเมล innovative@eef.or.th