เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยจัดการศึกษา 6 สังกัด จัดพิธีมอบรางวัลเกียรติคุณสำหรับผู้สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา “EQUITY AWARD 2025” เพื่อยกย่องเชิดชูครู ผู้บริหาร สถานศึกษาทั่วประเทศ และหน่วยงานภาคี ที่เป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา แสดงบทบาทอย่างเข้มแข็งในการติดตามดูแล ป้องกันไม่ให้หลุดจากระบบ และเชื่อมโยงความร่วมมือทุกภาคส่วนสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษา เพื่อเด็กได้เรียนต่ออย่างเต็มศักยภาพ ภายใต้โครงการทุนเสมอภาคของ กสศ. หรือ Conditional Cash Transfer (CCT)

โดยปีนี้ รางวัล EQUITY AWARD ได้มอบให้กับสถานศึกษา และบุคคลผู้สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่
- รางวัลนวัตกรเสมอภาค หรือ Equity Innovator Award มอบให้กับสถานศึกษาที่สร้างสรรค์แนวทางหรือนวัตกรรมใหม่ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จำนวน 72 แห่ง
- รางวัลสานพลังความเสมอภาค หรือ Equity Catalyst Award มอบให้กับสถานศึกษาที่ขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงระบบระหว่างภาคีที่หลากหลายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จำนวน 20 แห่ง
- รางวัลเสมอภาคอย่างยั่งยืน หรือ Equity Sustainer Award มอบให้กับสถานศึกษาที่ดำเนินงานด้านความเสมอภาคอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในพื้นที่จริง จำนวน 24 แห่ง
- รางวัลภาคีร่วมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา มอบให้กับหน่วยงานหรือองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาร่วมกับ กสศ. จำนวน 3 องค์กร
- รางวัลบุคคลผู้สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ People Award โดยเปิดให้ประชาชนร่วมโหวตครูและผู้อำนวยการ ที่มีความโดดเด่นด้านการเปลี่ยนชีวิตเด็กให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม จำนวน 3 ท่าน โดยผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ได้แก่
1. ผอ.ภูเบศร์ ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำพ่น จ.อุดรธานี ผู้นำที่ให้ความสำคัญกับการฟังเด็ก และใช้ระบบคัดกรองเด็กเป็นเป็นรายคน รายกลุ่ม ออกเยี่ยมบ้านเพื่อเข้าใจพื้นฐานชีวิตจริงของเด็ก และระดมความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือเด็ก
2. ผอ.อุกฤษฏ์ ยศปัญญา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเนินมะปราง จ.พิษณุโลก ผู้นำที่เชื่อว่าโรงเรียนคือระบบสนับสนุนชีวิตเด็ก ไม่ใช่แค่สถานที่เรียน และจับมือกับท้องถิ่นสร้างกลไกร่วมดูแลนักเรียนที่ขาดโอกาสแบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
3. ครูภัทรชัย สุขุมวัฒนะ ครูโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก ผู้สร้างหอพักให้เด็กชาติพันธุ์และพัฒนาธนาคารโรงเรียน จนกลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนชีวิตเด็ก และช่วยให้เด็กกลุ่มเสี่ยงเรียนจบภาคบังคับได้จริงในพื้นที่ที่ห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ








ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการและคณะผู้ทรงคุณวุฒิร่วมมอบรางวัลและแสดงความยินดี ได้แก่ ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะผู้แทนศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กสศ. พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร กสศ. ได้แก่ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา, รองศาสตราจารย์ ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปารีณา ศรีวนิชย์ และ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. รวมถึงผู้บริหารจากหน่วยงานภาคี เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวแสดงความขอบคุณและเชิดชูหัวใจของครูทั่วประเทศ ผู้เปรียบเสมือน ‘ผีเสื้อหลายแสนชีวิต’ ที่ร่วมกันขยับปีก เปลี่ยนทั้งชีวิตของเด็ก และทิศทางของประเทศ ช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กไทยกว่า 1.3 ล้านคนต่อปี ให้ได้ขยับปีกบินสูงที่สุดตามศักยภาพของตัวเอง
ประธานกรรมการบริหาร กสศ. กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษา มาจากพลังความทุ่มเทของครูทุกคนที่ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน คัดกรองนักเรียนด้วยหัวใจ โดยไม่ได้ทำตามคำสั่งหรือนโยบายจากส่วนกลางเท่านั้น แต่เป็นเพราะครูทุกคนมองเห็นว่าปลายทางของข้อมูลที่ได้จะนำไปสู่ ‘ทุน’ ที่เปลี่ยนชีวิตเด็กได้จริง โดยไม่ยอมให้ความยากจน ความเปราะบาง หรือความเหลื่อมล้ำใด ๆ มาทำให้เด็กหลุดออกจากโอกาสทางการศึกษา ขณะที่ผู้บริหารสถานศึกษาหลายหมื่นแห่งก็ร่วมทำงานเชิงรุก ออกแบบนโยบายเพื่อสร้างความเสมอภาคภายในโรงเรียน ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการรายงานผลให้ผู้บริหารทราบ แต่เพื่อไม่ปล่อยให้เด็กคนใดหายไปจากห้องเรียน

จากจุดเริ่มต้นการขยับปีกของคุณครู ผู้บริหารโรงเรียน นำไปสู่การขยับของหน่วยงานภาครัฐระดับนโยบาย ทั้งการสนับสนุนงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาได้ให้การสนับสนุนการปรับเพิ่มอัตราทุนเสมอภาคมาถึง 2 ครั้งในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา จาก 1,600 บาท สู่ 4,200 บาทในปัจจุบัน รวมทั้งการสนับสนุนที่ไม่เป็นตัวเงิน เช่น ความร่วมมือในมิติต่าง ๆ กับหน่วยงานภาครัฐ ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข ความมั่นคง สวัสดิการ และเทคโนโลยี ตลอดจนส่งต่อการสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาจากภาคเอกชน มูลนิธิ และประชาชน ให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาอย่างเต็มศักยภาพ
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราเห็นภาพใหม่ว่า การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ (System Change) ไม่ได้หมายถึงการออกนโยบายใหม่เสมอไป แต่อาจหมายถึงการเชื่อมโยงของระบบที่เคยทำงานแยกส่วน เริ่มหันหน้าเข้าหากัน เพื่อสนับสนุนเด็กเป็นรายบุคคล และยอมรับว่าความเสมอภาคทางการศึกษาสำหรับเด็กหนึ่งคนไม่ได้มีแค่โจทย์ ‘ด้านการศึกษา’ ด้านเดียว แต่ยังมีโจทย์ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ โภชนาการ ครอบครัว ความปลอดภัย และเศรษฐกิจ” ประธานกรรมการบริหาร กสศ. กล่าว

ด้าน ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา แสดงความยินดีกับครู ผู้บริหาร และสถานศึกษาทุกแห่งที่ได้รับรางวัล EQUITY AWARD ในปีนี้ พร้อมย้ำว่า ในฐานะผู้แทนท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นแรงสนับสนุนหลักให้ผู้บริหารสถานศึกษา และคุณครูทุกคน ในการดูแลช่วยเหลือและส่งต่อโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาค โดยยึดมั่นในโยบายการศึกษาที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่าเด็กไทยทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ไม่ว่าจะมีฐานะหรือภูมิหลังที่แตกต่างกันก็ตาม


สำหรับทุนเสมอภาคของ กสศ. เป็นเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไข ที่มอบให้แก่เด็กเยาวชนในครัวเรือนยากจนพิเศษ โดย กสศ. ร่วมมือกับ 6 หน่วยงานต้นสังกัดทางการศึกษา และคุณครูทั่วประเทศกว่า 400,000 คน ในการคัดกรองนักเรียนยากจนพิเศษ ที่แม้จะมีนโยบายเรียนฟรี แต่ยังมีอุปสรรคทำให้ไม่สามารถมาเรียนได้ เช่น ไม่มีค่าเดินทาง ไม่มีค่าอาหาร ความห่างไกล ทุรกันดาร เพื่อให้ได้รับเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขหรือทุนเสมอภาค แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายการมาเรียน ป้องกันหลุดจากระบบการศึกษา
ผลลัพธ์ของโครงการทุนเสมอภาคตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ช่วยป้องกันไม่ให้นักเรียนยากจนพิเศษหลุดออกจากระบบก่อนสำเร็จการศึกษาภาคบังคับ โดยล่าสุดในปีการศึกษา 2567 มีนักเรียนกลุ่มยากจนพิเศษจำนวนรวม 1.34 ล้านคน ได้รับเงินอุดหนุนทุนเสมอภาคและพบอัตราการคงอยู่ในระบบการศึกษาอยู่ที่ร้อยละ 97.88