กสศ. และภาคีเครือข่าย ‘ผ่างบการศึกษาไทย’ ฉายภาพความเหลื่อมล้ำ ‘เท่ากันแต่ไม่เท่าเทียม’
ถึงเวลาปฏิรูปงบประมาณเพื่อความเสมอภาคของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล

กสศ. และภาคีเครือข่าย ‘ผ่างบการศึกษาไทย’ ฉายภาพความเหลื่อมล้ำ ‘เท่ากันแต่ไม่เท่าเทียม’

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) พร้อมด้วยเครือข่ายชมรมนักจัดการศึกษาบนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร เครือข่ายโรงเรียนปลายทางโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มูลนิธิกระจกเงา และภาคีเครือข่าย เปิดวงเสวนาขบวนเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ครั้งที่ 1 หรือ Public Policy Move #1 ในหัวข้อ ‘ปฏิรูปงบแก้เหลื่อมล้ำ เพื่อเด็กและโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล’ ณ โรงเรียนบ้านซองกาเรีย อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนและข้อเสนอจากคนในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่เท่ากันทั้งประเทศ แต่กลับทำให้เกิดช่องว่างความเหลื่อมถ่างกว้างยิ่งขึ้น

วงเสวนาเริ่มต้นจาก ดร.อารี อิ่มสมบัติ นักวิชาการอาวุโส สำนักพัฒนาคุณภาพครูและสถานศึกษา กสศ. ที่ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำส่วนหนึ่งเกิดจากการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรมต่อโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เนื่องจากรัฐใช้วิธีเหมาจ่ายแบบรายหัว กล่าวคือ โรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีเด็กจำนวนมากจะได้รับงบโดยรวมเป็นจำนวนมาก แต่หากเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนเด็กไม่เกิน 120 คน ก็จะได้รับงบประมาณที่ลดหลั่นลงไปตามสัดส่วนนักเรียน รวมถึงอุปกรณ์การเรียนและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็ย่อมน้อยลงไปด้วยเช่นกัน 

ดร.อารี ยกข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2564 พบว่า ประเทศไทยมีโรงเรียนสังกัด สพฐ. 29,117 แห่งทั่วประเทศ เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน จำนวน 14,660 แห่ง หรือคิดเป็น 50.35 เปอร์เซ็นต์ และมีนักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้มากถึง 963,432 คน จากนักเรียนทั้งประเทศ 6.5 ล้านคน

“โจทย์สำคัญอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรให้โรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้ที่ได้รับทรัพยากรน้อยกว่า แต่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน ถ้าประเทศไทยสามารถปรับปรุงพัฒนาเรื่องการจัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมจะส่งผลดีต่อเด็กนักเรียนทั้ง 963,432 คนด้วย”

ดร.อารี อิ่มสมบัติ นักวิชาการอาวุโส
สำนักพัฒนาคุณภาพครูและสถานศึกษา กสศ.

ดร.อารี ชี้ด้วยว่า ในจำนวนเด็กนักเรียน 963,432 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนระดับประถมศึกษา 696,721 คน (73.5 เปอร์เซ็นต์) รองลงมาเป็นเด็กปฐมวัย 215,182 คน (22.7 เปอร์เซ็นต์) นั่นหมายความว่า ถ้ารัฐลงทุนในโรงเรียนขนาดเล็กมากขึ้นจะทำให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับการพัฒนามากยิ่งขึ้น ช่วยให้เด็กมีพื้นฐานการเรียนที่ดีขึ้น ทั้งการอ่านออกเขียนได้ นำไปสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นต่อไปได้ 

จากการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) ปี 2563 ระบุว่า นอกจากโรงเรียนขนาดเล็กโดยทั่วไปแล้ว ยังมีโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล (protected schools) จำนวนประมาณ 1,155 แห่ง ที่อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากรที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ อีกทั้งประสบปัญหาขาดแคลนครู ทำให้การเรียนรู้ของเด็กขาดความต่อเนื่อง

นายชัยศักดิ์ ภูมูล ผอ.โรงเรียนบ้านกองม่องทะ

นายชัยศักดิ์ ภูมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกองม่องทะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงความเหลื่อมล้ำด้านอัตรากำลัง ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็กไม่เพียงขาดแคลนกำลังครู แต่ยังขาดเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและนักการภารโรงที่จะช่วยแบ่งเบาภารกิจของครูได้

ปัจจุบันโรงเรียนบ้านกองม่องทะได้รับงบประมาณไม่มากนัก จึงต้องอาศัยการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทอดผ้าป่า หรือระดมทรัพยากรด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ แต่ก็ทำได้เพียงครั้งคราวและไม่ยั่งยืน ฉะนั้นฝ่ายที่กำหนดนโยบายต้องให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณและแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม

(ขวา)ดร.ชัยนนท์ นิลพัฒน์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต

“เมื่อขาดตำแหน่งธุรการก็ต้องใช้ครูมาทำหน้าที่แทน เราเห็นภาพของผู้บริหารหรือครูที่ต้องทำงานไม่ตรงกับหน้าที่จนเป็นเรื่องปกติ หลายครั้งก็ต้องระดมความร่วมมือจากชุมชนเพื่อแก้ปัญหากันเอง ฉะนั้นจึงอยากส่งเสียงสะท้อนว่า เราต้องมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องการพัฒนาคุณภาพคน คุณภาพสังคม ไม่ใช่มองแค่เรื่องการลงทุนและความคุ้มค่าทางตัวเลขเศรษฐกิจ”

ดร.ชัยนนท์ นิลพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 อธิบายว่า นโยบายด้านการศึกษาที่จัดสรรงบประมาณโดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างเฉพาะพื้นที่ เช่น การเบิกจ่ายค่าเดินทางแบบคิดตามกิโลเมตร บางโรงเรียนอยู่บนภูเขา แม้เดินทางด้วยระยะทางเท่ากัน แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงไม่เท่ากัน หรือกรณีเกิดภัยพิบัติขึ้นในโรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษาจะได้รับงบประมาณพร้อมกันและเท่ากันทั่งประเทศ ก็ไม่สามารถช่วยเหลือค่าใช้จ่ายได้ทันเหตุการณ์ และไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย

นายประยูร สุธาบูรณ์ ประธานโครงการเตรียมความพร้อมพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล
เพื่อผลิตครูรุ่นใหม่ ภาคกลาง/ตะวันออก/ตะวันตก

นายประยูร สุธาบูรณ์ ประธานโครงการเตรียมความพร้อมพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อผลิตครูรุ่นใหม่ ภาคกลาง/ตะวันออก/ตะวันตก กล่าวว่า จากที่ได้สัมผัสโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลจะพบว่าทุกโรงเรียนอยู่ในสภาพคล้ายกัน คืออาคารสถานที่ไม่มีความพร้อม ต้องปรับปรุงซ่อมแซมตามงบประมาณเท่าที่มี ฉะนั้นหากจะทำให้การศึกษามีคุณภาพก็ต้องมีการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสม

“โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นของ กสศ. เป็นความพยายามหนึ่งในการแก้ไขปัญหาครูขาดแคลนของโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนเหล่านี้มีปัญหาเรื่องอัตรากำลังมาตลอด บางแห่งไม่มีผู้บริหารมายาวนาน ด้วยเหตุนี้เมื่อเปิดภาคเรียนแต่ละครั้งจึงต้องแก้ปัญหากันเองเฉพาะหน้า เพื่อให้การเรียนการสอนดำเนินไปได้ แต่อย่างไรก็ไม่ได้ทำให้เกิดความยั่งยืน” 

นายดนัยวัฒน์ มณี ผอ.โรงเรียนบ้านปางมะหัน

นายดนัยวัฒน์ มณี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปางมะหัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โรงเรียนขนาดเล็กโดยทั่วไปจะประสบปัญหาเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณไม่เพียงพอ จึงอยากเสนอว่าควรมีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดสรรงบประมาณใหม่ โดยพิจารณาตามบริบทพื้นที่ ตามสภาพความเป็นจริง เพื่อตอบโจทย์ความเหลื่อมล้ำ

ดร.ศุภโชค ปิยะสันต์ ผอ.การโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี, ที่ปรึกษาเครือข่ายชมรมนักจัดการศึกษาบนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร

ดร.ศุภโชค ปิยะสันต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ที่ปรึกษาเครือข่ายชมรมนักจัดการศึกษาบนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลคือโรงเรียนขนาดเล็กยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รูปแบบการจัดสรรงบประมาณกลับไม่มีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งระบบปัจจุบันคือการพิจารณารายหัว ทั้งที่จริงแล้วขนาดของปัญหาในแต่ละโรงเรียนนั้นต่างกัน โดยโรงเรียนขนาดเล็กจะมีเด็กนักเรียนยากจนมากกว่า โอกาสในการระดมทรัพยากรมีน้อยกว่า หากรัฐยังใช้วิธีจัดสรรงบประมาณแบบเท่ากัน จะยิ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น 

“รัฐไม่ควรจัดสรรงบประมาณแบบเดียวทั้งประเทศ ตรงไหนปัญหาเยอะ ตรงไหนมีเด็กยากจนมาก ตรงไหนที่มีปัญหาในการบริหารจัดการ อาจจะต้องหาวิธีคิดใหม่ ก็อยากจะฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องและรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยครับว่าจะมีวิธีคิดแบบไหนที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้”

รายชื่อโรงเรียน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

จังหวัด นราธิวาส จำนวน 4 โรงเรียน

  • โรงเรียนผดุงมาตร
  • โรงเรียนสวนพระยาวิทยา
  • โรงเรียนราชพัฒนา
  • โรงเรียนนราสิกขาลัย

จังหวัดยะลา จำนวน 15 โรงเรียน

  • โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 94 (บ้านบ่อน้ำร้อน)
  • โรงเรียนคุรุชนพัฒนา
  • โรงเรียนบ้านตาเซะ
  • โรงเรียนบ้านราโมง
  • โรงเรียนบ้านกาตอง
  • โรงเรียนบ้านหลักเขต
  • โรงเรียนพัฒนาบาลอ
  • โรงเรียนบ้านโกตาบารู
  • โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ
  • โรงเรียนบ้านเยาะ
  • โรงเรียนบ้านโต
  • โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะปันยัง
  • โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
  • โรงเรียนบ้านสะเอะ
  • โรงเรียนกาบังพิทยาคม

จังหวัดปัตตานี จำนวน 16 โรงเรียน

  • โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา
  • โรงเรียนนิคมสร้างตนเองโคกโพธิ์ มิตรภาพที่ 148
  • โรงเรียนบ้านบางมะรวด
  • โรงเรียนบ้านท่าน้ำตะวันออก
  • โรงเรียนบ้านน้ำบ่อ
  • โรงเรียนบ้านปาลัส
  • โรงเรียนบ้านตรัง
  • โรงเรียนบ้านกระเสาะ
  • โรงเรียนบ้านบูดี
  • โรงเรียนบ้านฝาง
  • โรงเรียนบ้านตะโละไกรทอง
  • โรงเรียนบ้านน้ำดำ
  • โรงเรียนบ้านโลทู
  • โรงเรียนบ้านวังกว้าง
  • โรงเรียนสะนอพิทยาคม
  • โรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม

รายชื่อโรงเรียน ภาคตะวันตก

จังหวัดตาก จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านร่มเกล้า 2

รายชื่อโรงเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาผ่านโครงการ Million Gift Million Smiles

จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15
    (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท)

จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 โรงเรียน

  • โรงเรียนชลประทาน
    เขื่อนแม่กวงจิราธิวัฒน์อุปถัมภ์
  • โรงเรียนบ้านโป่งน้อย
  • โรงเรียนวัดสันคะยอม

จังหวัดลำปาง จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนวัดเสด็จ

จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 1 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านท่าข้าม

จังหวัดตาก จำนวน 3 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านร่มเกล้า 2
  • โรงเรียนบ้านร่มเกล้า 4
  • โรงเรียนบ้านห้วยไม้แป้น

จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 4 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านควนเงิน
  • โรงเรียนบ้านท่าไทร
  • โรงเรียนวัดชะอวด
  • โรงเรียนวัดไม้เสียบ

จังหวัดตรัง จำนวน 11 โรงเรียน

  • โรงเรียนท่างิ้ว (ต.ช.ด.อุปถัมภ์)
  • โรงเรียนบ้านเกาะเคี่ยม
  • โรงเรียนบ้านคลองคุ้ย
  • โรงเรียนบ้านช่องลม
  • โรงเรียนบ้านทอนเหรียน
  • โรงเรียนบ้านท่าส้ม
  • โรงเรียนบ้านบางสัก
  • โรงเรียนบ้านวังลำ
  • โรงเรียนวัดทุ่งหินผุด
  • โรงเรียนวัดวารีวง
  • โรงเรียนหาดทรายทอง

จังหวัดนราธิวาส จำนวน 6 โรงเรียน

  • โรงเรียนนราสิกขาลัย
  • โรงเรียนบ้านบูเก๊ะตาโมงมิตรภาพที่ 128
  • โรงเรียนผดุงมาตร
  • โรงเรียนพิทักษ์วิยากุมุง
  • โรงเรียนราชพัฒนา
  • โรงเรียนสวนพระยาวิทยา

จังหวัดพังงา จำนวน 2 โรงเรียน

  • โรงเรียนวัดนิโครธาราม
  • โรงเรียนวัดสุวรรณาวาส

จังหวัดปัตตานี จำนวน 8 โรงเรียน

  • โรงเรียนบ้านกระเสาะ
  • โรงเรียนบ้านตะโละไกรทอง
  • โรงเรียนบ้านน้ำดำ
  • โรงเรียนบ้านบางทัน
  • โรงเรียนบ้านโลทู
  • โรงเรียนบ้านวังกว้าง
  • โรงเรียนวังกะพ้อพิทยาคม
  • โรงเรียนวุฒิชัยวิทยา

จังหวัดยะลา จำนวน 10 โรงเรียน

  • โรงเรียนกาบังพิทยาคม
  • โรงเรียนบ้านโกตาบารู
  • โรงเรียนบ้านคลองน้ำใส
  • โรงเรียนบ้านจุโป
  • โรงเรียนบ้านด่านสันติราษฎร์
  • โรงเรียนบ้านตะโละหะลอ
  • โรงเรียนบ้านราโมง
  • โรงเรียนบ้านสะเอะ
  • โรงเรียนพัฒนาบาลอ
  • โรงเรียนอัยเยอร์เวง

จังหวัดสงขลา จำนวน 18 โรงเรียน

  • โรงเรียนเขาแดงกุศลวิทยา
  • โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์
  • โรงเรียนชุมชนนิคมสร้างตนเองเทพา
  • โรงเรียนชุมชนบ้านนากัน
  • โรงเรียนทับช้างวิทยาคม
  • โรงเรียนเทพา
  • โรงเรียนบ้านเขาพระ
  • โรงเรียนบ้านคอลอมุดอ
  • โรงเรียนบ้านคูนายสังข์
  • โรงเรียนบ้านโคกตก
  • โรงเรียนบ้านนาปรัง
  • โรงเรียนบ้านบาโหย
  • โรงเรียนบ้านปากบางนาทับ
  • โรงเรียนบ้านป่าเร็ด
  • โรงเรียนบ้านพระพุทธ
  • โรงเรียนบ้านม้างอน
  • โรงเรียนบ้านม้างอน
  • โรงเรียนวัดประจ่า