รศ.ดร.ดารณี ถ่ายทอดมุมมองต่อคลื่นความร่วมมือที่ไหลบ่ามาสู่ กสศ.

รศ.ดร.ดารณี ถ่ายทอดมุมมองต่อคลื่นความร่วมมือที่ไหลบ่ามาสู่ กสศ.

เราทำงานกับทุกภาคส่วน สร้างการตระหนักรู้ให้กับสังคมว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือกันให้โอกาสกับเด็กด้อยโอกาส เพราะกลุ่มนี้ ถ้าเราช่วยกัน คือความมั่นคงของประเทศ

ตลอดสองปีที่ผ่านมา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคธุรกิจเอกชน  มูลนิธิ เครือข่ายภาคประชาสังคม ให้การบริจาคในรูปของเงินและสิ่งของ เพื่อต่อเติมโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค  

คลื่นความร่วมมือที่ไหลบ่ามาสู่ กสศ.อย่างต่อเนื่อง  นับเป็นปรากฎการณ์มีนัยยะสำคัญ “รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ”  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ. ได้ให้มุมมอง “คลื่นความร่วมมือ” ไว้อย่างน่าสนใจ  โดยล่าสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท่านนี้เข้าร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษา “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน” ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

“เราได้เห็นถึงการทำงานร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับกสศ. ในการใช้เครื่องมือ iSEE สืบค้นข้อมูลกลุ่มเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ ช่วยกันสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา”

นี่อาจเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมา กสศ. ยังได้สร้างเครือข่ายกับองค์กรภาคสังคมทั้งในและต่างประเทศ

“ตอนนี้สร้างเครือข่ายกับต่างประเทศเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อาจไม่ใช่การสร้างการมีส่วนร่วมในแง่ของตัวเงิน แต่เป็นการร่วมมือทางด้านเทคโนโลยี เรื่ององค์ความรู้ อย่างการประชุมวิชาการนานาชาติที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  20-30 ประเทศเข้าร่วม และมีองค์กรช่วยเหลือเด็กยากจนในระดับโลกหลายองค์กร เป็นการสร้างความร่วมมือเครือข่ายระหว่างประเทศ และกสศ. ได้รับการยกย่องจากองค์การยูนิเซฟว่า การทำงานตลอดสองปีมีผลงานปรากฎชัดเจน และกระตุ้นสังคมให้เกิดความไว้วางใจ”

รศ.ดร.ดารณี ขยายความ  “การให้ความไว้วางใจกสศ.” ว่า ถ้าใครต้องการสนับสนุนเด็กกลุ่มนี้ การบริจาคมาที่กสศ. กสศ.ได้สร้างความมั่นใจได้ว่าเงินไปถึงเด็กร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราคัดกรองด้วยระบบ iSEE  ที่ชัดเจน โดยครูไปเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน พร้อมกับถ่ายรูป และมีชุมชนให้ความร่วมมือ

“เราทำงานกับทุกภาคส่วน สร้างการตระหนักรู้ให้กับสังคมว่า ทุกคนจะต้องร่วมมือกันให้โอกาสกับเด็กด้อยโอกาส เพราะกลุ่มนี้ ถ้าเราช่วยกัน คือความมั่นคงของประเทศ” กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาสังคม ยกตัวอย่างเมื่อครั้ง กสศ. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของเด็กในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ 

“ครอบครัวหนึ่งมีบุตรสองคน ลูกคนโตพิการ เขาเคยได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันแห่งหนึ่งแต่ไม่ได้ทุกปี  ซึ่งปีที่ไม่ได้ แม่ต้องออกจากบ้านไปทำงาน  ปล่อยให้น้องชายที่เรียนหนังสือมาดูแลพี่สาวเพราะไม่มีคนดูแล  พอเราลงไปสอบถามคุณแม่เขาเย็บจักร แต่จักรเย็บผ้าหายไปในช่วงน้ำท่วมใหญ่”

รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กสศ.

“เราจึงถามว่า ถ้าเราซื้อจักรให้ มีผู้บริจาคจักรเย็บผ้าไปให้ แม่ไม่ต้องออกจากบ้านไปทำงาน แม่ก็ได้อยู่บ้านดูแลลูกที่พิการ ขณะที่ลูกชายอีกคนก็ได้ไปเรียน  ฉะนั้นระบบความยากจนไม่ใช่เงินตัวเดียว แต่เราอยากสร้างเครือข่าย จิตสำนึกให้สังคม เหมือนที่นายกฯ พูดว่าเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คือถ้าคนรวยเดินหน้าไปเรื่อยไม่หันกลับมาสนใจคนข้างหลัง สังคมก็อยู่ไม่ได้”  รศ.ดร.ดารณี กล่าว  

กสศ. ไม่ได้มีหน้าที่หลักในการระดมทุน แต่สิ่งสำคัญคือสร้างความตระหนักรู้ให้สังคมว่าทุกคนจะต้องต้องช่วยเหลือกันเข้าไปดูแลเด็กด้อยโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษา ที่เป็นโอกาสดีที่สุดในชีวิตของคนคนหนึ่งจะเติบโต สร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่ประเทศชาติ