ความฝันที่เคยเกินเอื้อมสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนี้เธอคว้ามันได้แล้ว กับการเป็นผู้ช่วยพยาบาล แผนก Sick new born โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต
‘มี’ นัจมี หะเดร์ เล่าว่า ก่อนที่จะได้รับทุนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล (1 ปี) ของ กสศ. โดยได้เข้าเรียนที่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส เธอคิดว่าตัวเองคงไม่ได้เรียนต่อแล้ว เพราะปัญหาด้านการเงินของครอบครัว
“หนูมีพี่น้องทั้งหมด 5 คนค่ะ หนูเป็นคนสุดท้อง ฐานะที่บ้านก็คือไม่ค่อยดี พี่สาวก็ไม่ได้เรียน พากันทำงานหาเงินส่งเลี้ยงครอบครัวกันหมด เพราะพ่อแม่ก็อายุมากแล้วพ่อก็พิการด้วย ซึ่งตอนหลังแม่ก็เสียชีวิตตอนที่หนูได้ทุนค่ะ”

นัจมีเล่าว่า ตั้งแต่เด็กเธอทำงานหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด ทั้งงานพาร์ตไทม์ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถจังหวัดภูเก็ต งานขายของออนไลน์ และในช่วงชีวิตมัธยมปลาย ทุกๆ วันเสาร์ – อาทิตย์ ได้มีโอกาสทำงานจิตอาสาหน่วยกู้ชีพพิทักษ์ภัย อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นแรงบันดาลให้เธอฝันอยากเป็นพยาบาลอาชีพ
“ช่วงแรกหนูช่วยพี่ ๆ จัดเตรียมของอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วหลัง ๆ ก็ได้ออกเผชิญเหตุ ทำตั้งแต่ ม.5 เพราะว่าเสาร์-อาทิตย์ หนูไม่ได้เรียนก็เลยไปอาสาค่ะ งานนี้ก็ตื่นเต้นและลุ้นว่าวันนี้เราจะเจอเหตุอะไร หนักไหม โดยได้ค่าตอบแทนบ้างเมื่อมีการส่งผู้ป่วยในที่ไกล ๆ เรียกว่าเป็นค่าน้ำใจราว ๆ 300 – 400 บาทต่อ 1 เคส แต่สิ่งที่ได้มากกว่าค่าตอบแทนนั้น คือประสบการณ์ในการทำงานช่วยเหลือผู้ป่วย เหมือนเป็นการปูพื้นฐานในการเรียนผู้ช่วยพยาบาลไปในตัวค่ะ”

ทว่าทันทีที่จบ ม.6 เวลานั้นดูเหมือนนัจมีจะมีทางเลือกแค่สองทางคือ ทำงานรับจ้างที่ประเทศมาเลเซีย หรือไปทำงานกับพี่สาวที่ภูเก็ต ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่สามารถจะเรียนต่อได้ในระดับที่สูงกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายอย่างที่ฝันไว้ กระทั่งมีผู้แนะนำให้สมัครเข้ารับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล 1 ปี เธอจึงรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ทันที
สำหรับทุนนวัตกรรมสายอาชีพฯ นอกจากจะสนับสนุนค่าเทอมจนจบการศึกษาแล้ว ยังช่วยค่าใช้จ่ายรายเดือน และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะด้านต่าง ๆ เช่น การปรับบุคลิกภาพ การเตรียมตัวสัมภาษณ์เข้าทำงาน รวมถึงทักษะด้านภาษาด้วย
นัจมีบอกว่าหลังจากได้เข้าเรียนที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เธอได้นำประสบการณ์จากการทำจิตอาสากู้ภัย เช่น การช่วยเหลือขั้นพื้นฐาน การทำ CPR ให้กับคนไข้ที่หมดสติ และอื่น ๆ มาใช้ในการเรียนด้วย ปัจจุบันนัจมีจบการศึกษาแล้วและได้เข้าทำงานทันทีที่โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต
“หนูเป็นคนเดียวในบ้านที่ได้เรียนต่อ ตอนนี้เรียนจบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลแล้ว ก็จะทำงานก่อนเพื่อเก็บเงินแล้วเรียนต่อพยาบาลให้ได้ เพราะหนูอยากเป็นอาจารย์พยาบาลค่ะ”

สำหรับเด็กคนหนึ่งที่ชีวิตไม่มีทางเลือกมากนัก การได้รับโอกาสทางการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ได้รับการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็น และเพิ่มโอกาสการมีงานทำ ถือเป็นแรงส่งให้สามารถก้าวข้ามความยากจนไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ซึ่งนัจมีเองก็เห็นว่า การได้รับโอกาสเรียนต่อในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลที่จบแล้วมีงานทำทันทีนั้น ทำให้เธอมีความหวังและเปลี่ยนชีวิตตัวเองและครอบครัวได้จริง ๆ
“ตอนแรกหนูก็หวังแค่ว่าเรียนให้จบ ม.6 ค่ะ เพราะด้วยฐานะทางบ้านคงไม่สามารถเรียนต่อได้ แต่ทุนนี้ได้เปลี่ยนชีวิตหนูไปมาก จากที่คนคนนึงจะไม่ได้เรียนแล้ว ต้องไปทำงาน หนูก็ได้เรียนต่อ แล้วก็ช่วยสานฝันให้เป็นจริง”
“ถ้ามองย้อนกลับไป ถ้าเราไม่ได้รับโอกาส หนูคิดว่าชีวิตตอนนี้ก็น่าจะทำงานงก ๆ อยู่ เพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว หนูเลยมองว่าการได้รับโอกาสในการเรียนสำคัญมากค่ะ”

นัจมีทิ้งท้ายถึงน้อง ๆ ที่เผชิญปัญหาในลักษณะเดียวกันและอาจกำลังรู้สึกหมดหวังในชีวิต ไม่รู้จะไปต่อทางไหนดี
“อยากจะบอกว่าอย่าเพิ่งหมดหวังค่ะ ลองมาสมัครทุนนี้ดู เพราะว่าทุนนี้เปลี่ยนชีวิตเราได้ ในอนาคตหนูก็อยากส่งต่อโอกาสตรงนี้ให้คนอื่น ๆ ด้วย อยากส่งข่าวสารให้กับคนทั่วประเทศได้รับรู้ว่ามีทุนดี ๆ แบบนี้ให้กับเราอยู่ แล้วก็ถ้ามีโอกาสได้เป็นผู้ให้…หนูก็จะให้ค่ะ”