เปลี่ยนภาพนักรบชายแดน ทำเพื่อเด็ก….ลุยป่ายางเติมการศึกษา

เปลี่ยนภาพนักรบชายแดน ทำเพื่อเด็ก….ลุยป่ายางเติมการศึกษา

ศูนย์การเรียน​ตำรวจตระเวนชายแดน ชุมชนป่าหญ้าคา ต.โนนก่อ ​อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี นับเป็นอีกสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร บนพื้นที่เนินสูง ​ครอบครัวของนักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ผู้ปกครองรับจ้างกรีดยาง บางส่วนออกไปรับจ้างต่างพื้นที่ ​บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นแค่เพิงพักชั่วคราว ไม่มีห้องน้ำ น้ำประปา และไฟฟ้า แต่เด็กส่วนใหญ่ยังมุ่งมั่นมาเรียนเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น

การติดตามให้ความช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มนี้จึงถือเป็นภารกิจเร่งด่วน ที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)​ ติดตามและคัดกรองเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดแม่นยำ ผ่านเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาค ที่มอบให้นักเรียนเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาและดำรงชีวิต อีกส่วนมอบให้โรงเรียนเพื่อจัดโครงการส่งเสริมพัฒนาทักษะชีวิต

ว่าที่พันตำรวจตรี วิชัย ชัยนา คุณครูที่ศกร.ตชด.ชุมชนป่าหญ้าคา จังหวัดอุบลราชธานี ระบุว่า
ในเทอมนี้นักเรียนได้รับทุนจากกสศ.ครบทุกคนแล้ว ส่วนใหญ่จะเอาไปเป็นทุนการศึกษา ซื้ออุปกรณ์การเรียนเพิ่มเติม ทั้ง เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า กระเป๋านักเรียน ​โดยในส่วนของโรงเรียนได้เอาไปจัดโครงการ​เพาะเห็ดนางรม เลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อ เพื่อขายและนำมาเป็นกองทุนอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียน

ทั้งนี้ ในช่วงของการคัดกรองนักเรียนที่ต้องลงไปเยี่ยมมบ้านเด็ก พบว่าบางบ้านเป็นเพียงแค่เพิงพัก มีไม้ปูพื้นอยู่กันตายายหลาน พ่อแม่ไปรับจ้างต่างจังหวัดบ้างเข้าทำงานในกรุงเทพฯ บ้าง​ไม่มีไฟฟ้าต้องใช้ตะเกียง หรือ โซลาร์เซลล์ บางบ้านมีเครื่องปั่นไฟ บางบ้านมีแบตเตอรี่ที่ต้องเอามาชาร์จไฟที่โรงเรียนแล้วกลับไปใช้ที่บ้าน รวมทั้งไม่มีน้ำประปา ต้องมาใช้น้ำสระที่โรงเรียน​

“บางบ้านห่างจากโรงเรียน 3-4 กิโลเมตร ต้องเดินทางมาโรงเรียน บางคนต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อให้มาทันเข้าเรียน บางทีก็มีผู้ปกครองมาส่งหรืออาศัยมากับเพื่อนบ้านที่มาเส้นทางเดียวกัน ​ส่วนใหญ่จะอยู่พื้นที่ทางชัน เดินทางลำบาก ต้องนั่งรถเครื่องขึ้นไปผ่านเส้นทางหิน ทางขรุขระ ไม่เหมือนพื้นราบเพราะเราอยู่บนยอดเขา ใช้เวลา 2 วันกว่าจะไปครบทุกบ้าน ​แต่หน้าที่ก็ต้องทำ สุดท้ายพอเห็นเด็กได้ทุนเราก็ภูมิใจหายเหนื่อย” ว่าที่พันตำรวจตรี วิชัย กล่าว

ว่าที่พันตำรวจตรีวิชัย เล่าให้อีกว่า หลังจากที่เด็กได้รับทุนชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไปมาก มีกำลังใจมาเรียน ถ้าได้ทุนแบบนี้ทุกเทอมก็จะเป็นกำลังใจให้พวกเขามาเรียน ต้องขอบคุณ กสศ. ที่เห็นความสำคัญของพวกเขา เพราะเด็กที่นี่ยากจนกันจริงๆ พอได้ทุนมาก็ทำให้เขาได้มีอาหารกิน มีชุดนักเรียนใหม่ๆ ใส่เหมือนเพื่อนๆ มีชุดกีฬา มีความสุขอยากมาโรงเรียน มีเงินติดตัวมาเรียน 5 บาท 10 บาท ​เหลือก็มาฝากกับสหกรณ์ออมเก็บไว้ใช้ซื้อของจำเป็นในอนาคต

ไม่ต่างจาก ครูไพจิตรา สมศรี ครูโรงเรียน ตชด. ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์เนวิน สคริมชอว์ อ.​บุณฑริก จ. อุบลราชธานี เล่าให้ฟังว่า ทุนของ กสศ. ที่ได้รับมาทางโรงเรียนจะนำไปทำโครงการต่อยอดแปรรูปเห็ด
จากเทอมที่แล้วใช้จัดโครงการเพาะเห็ด ​ซึ่งจะแปรรูปทั้งทำเป็นคุกกี้เห็ด น้ำพริกเห็ด ​ ซึ่งวางแผนไว้แล้วแต่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ​ โดยจะเชิญวิทยากรที่เป็นครู และปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่มาช่วยอบรมให้กับนักเรียน และนำไปขายเพื่อนำมาปันผลให้นักเรียนและซื้ออุปกรณ์ทำในรอบต่อๆ ไป

“เงินที่ได้มาเด็กบางคนเอาไปซื้อจักรยาน เพราะบางคนบ้านอยู่ไกล บางคนอยู่ในไร่กว่าจะเดินทางมาถึงโรงเรียนเกือบเป็นกิโลฯ บางครอบครัวก็เอาไปช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ซื้อของกินของใช้ ซื้อกระเป๋าใหม่ อุปกรณ์การเรียนใหม่ ถึงจะไม่ใช่เงินเยอะมาก แต่ก็ช่วยครอบครัวผู้ปกครองได้เยอะ ทำให้เขาไม่ต้องหยุดเรียนไปช่วยผู้ปกครองทำงานเหมือนแต่ก่อน มาเรียนได้มากขึ้น”​ ครูไพจิตรา กล่าว

ครูไพจิตรา เสริมด้วยว่า สำหรับระบบคัดกรองของ กสศ. ทำให้ช่วยเหลือนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด คนที่จนมากกว่าจะได้รับการช่วยเหลือก่อน อย่างบางคนแม้จะยากจน แต่ก็พอมีฐานะกว่าเพื่อน ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งจากการลงพื้นที่บางคนอยู่แบบเพิงพักไม่ใช่บ้าน นอนรวมกันในห้องโล่งๆ ไม่มีห้องน้ำ อยู่ในป่า ไม่มีน้ำ ไฟ จะดูทีวีก็ไปดูบ้านที่มีโซลาร์เซลล์

“ตอนไปเยี่ยมบ้านเด็กที่โรงเรียนเก่าชุมชนป่าหญ้าคา ก่อนย้ายมาที่นี่ ​​​ก็ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อนครู ขี่ไปในป่ายางพารา เพราะรถกระบะเข้าไปไม่ได้ ต้องขึ้นเนินที่เป็นทางชันเล็กๆ เกือบล้ม บางทีก็ให้นักเรียนช่วยพาไปเพราะบ้านบางคนอยู่ลึกติดกับชายแดนลาว แต่ก็ไปจนครบทุกบ้านเพราะอยากให้เด็กได้ทุน พอได้แล้วเราก็ภูมิใจที่ทำให้เด็กได้ทุนทำให้เขาได้มีโอกาสทางการศึกษาที่จะโตเป็นคนดีมีอนาคตต่อไป”​ ครูไพจิตรา กล่าว​