อุปสรรคไม่ใช่ปัญหา ‘นักเรียนเป็นลูก ๆ ของเรา’

อุปสรรคไม่ใช่ปัญหา ‘นักเรียนเป็นลูก ๆ ของเรา’

อุดมการณ์อันแน่วแน่มิอาจมีสิ่งใดมาฉุดรั้งได้ เหมือนเช่น ครูจิตราพัชร ถาอุปชิต ครูโรงเรียนมัธยมตลาดใหญ่วิทยา จังหวัดขอนแก่น อุทิศเวลาหลังเลิกเรียน และวันหยุดเดินทางออกเยี่ยมบ้านเด็กๆนักเรียนอย่างขะมักเขม้น ครูท่านนี้เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้จะไปเติมไปสร้างโอกาสให้กับเด็กด้อยโอกาส อย่างน้อยช่วยเด็ก ๆ กลับสู่ห้องเรียนตามวัยอันสมควร

ครูจิตราพัชร เล่าให้ฟังว่า ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาครูตระเวนออกเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียนอย่างเข้มข้นไม่ว่าช่วงหลังเลิกงาน วันหยุด เราเดินทางไปจนทำให้เข้าใจปัญหาเด็กแต่ละคนล้วนแตกต่างกันออกไป หลายปัญหาส่อกระทบถึงการศึกษา บางคนเสี่ยงหมดอนาคตลงอย่างไม่น่าเชื่อ

ตัวอย่างนักเรียนบางคนที่โรงเรียน ครูพบพฤติกรรมเวลามาเรียนไม่ยอมพูดจากับเพื่อนๆครูเลยสงสัยว่าเด็กคนนี้มีปัญหาหนักใจทางบ้าน หรือเกิดปัญหาอะไร แต่พอหลังจากครูได้ลงไปเยี่ยมบ้านพบผู้ปกครองของเด็ก จนกระทั่งทราบว่า เด็กคนนี้ไปทำงานหารายได้พิเศษช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน เนื่องจากครอบครัวหนักใจไม่มีเงินส่งลูกไปโรงเรียน จนกระทบทำให้เด็กเก็บตัวเงียบไม่ยอมพูดจา

“ข้อมูลก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่าการเดินทางลงไปเยี่ยมบ้านพูดคุยกับผู้ปกครองทำให้เรารู้ปัญหาจริงๆ บางครั้งเราไม่ได้เดินทางไปพบด้วยตัวเองก็ไม่เคยรู้ปัญหาอะไรเลย ดังนั้นการลงไปพื้นที่จริงๆทำให้เราเห็นสภาพปัญหาสารพัดและเป็นปัญหาจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งมีเหตุผลแตกต่างกันออกไป” ครู รร.มัธยมตลาดใหญ่วิทยา ระบุ

ครูจิตราพัชร ย้ำว่า ถ้าครูไม่เข้าไปช่วยไปเห็นสภาพปัญหานั้นอาจทำให้เด็กคนนึงหมดอนาคตสูญเสียโอกาสทางการเรียนและอื่นๆไปอีกมากมาย นักเรียนหลายคนได้รับโอกาสจากครูหลายอย่างเพียงแค่ครูทุกคนลงพื้นที่ไปหาพวกเขา เด็กบางคนพ่อแม่ไม่มีเงินทองแต่อย่างน้อยเราก็สามารถเข้าไปดึงเด็กกลุ่มนั้นกลับเข้าระบบการศึกษาได้ แม้ไม่มีเงินแต่ครูพยายามหารายได้เสริมให้เด็กๆ บางครั้งเด็กยอมจมกับปัญหาเพียงคนเดียว ไม่มีใครให้คำปรึกษา ฉะนั้นการเข้าไปช่วยเหลือมันทำให้เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเด็กกลับสู่ทางที่ถูกต้องเหมาะสม

สำหรับความรู้สึกนั้น มันยากอธิบายได้บางครั้งต้องลองลงพื้นที่เองถึงจะเข้าใจ ยอมรับดีใจได้เป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือติดตามเด็กเหล่านี้กลับเข้าสู่ห้องเรียนเช่นเดิม ถามว่ามันลำบากไหมในการเดินทางไปเยี่ยมบ้านเด็ก หรือเพิ่มภาระงานให้ครูไหม มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ถึงแม้การเดินทางอาจมีความลำบากบ้างสบายบ้าง แต่เมื่อแลกกับสิ่งที่ครูได้มาคือเด็กนักเรียนถือว่าคุ้มค่าที่สุด หลังได้ช่วยเหลือลูก ๆ ของครูกลับสู่ห้องเรียน


“มันไม่ใช่ภาระมันทำให้เราได้มีโอกาสพบปะผู้ปกครอง รับทราบปัญหามากกว่า เพราะครูถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเด็กเช่นกัน ปกติเด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงเรียนมากกว่าอยู่บ้าน จะอยู่บ้านแค่ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนและวันหยุด เวลาที่เหลืออยู่โรงเรียนมากกว่า จึงมองว่าเป็นเรื่องดีมากกว่าทำให้ครูทราบปัญหาเด็กทุกคนเพื่อช่วยเหลือตรงจุด” ครูจิตราพัชร กล่าว

ครูจิตราพัชร เสริมก่อนจบว่า รูปแบบการคัดกรองนักเรียนของ กสศ. ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ เพราะทุนการศึกษาที่ กสศ.มอบให้กับเด็กขาดแคลนทุนทรัพย์จะเข้าไปพยุงฝันและโอกาสไว้ ถึงเงินไม่เยอะแต่มีค่ามากสำหรับเด็ก สร้างโอกาสให้เด็กอีกหลายคน ที่สำคัญทำให้ครูรู้ว่านักเรียนที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา ไม่มีทุนเรียน เราต้องรีบหยิบยื่นโอกาสช่วยเหลือทันที

“นักเรียนเป็นลูก ๆ ของเรา บางครั้งระยะทางยากลำบาก แต่มันสร้างโอกาสเพิ่มความฝันด้านการเรียนให้เด็ก ๆ ครูถือว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าสำหรับครูหนึ่งคนที่ทำหน้าที่สอนหนังสือนักเรียนทุกคน” ครูจิตราพัชร เล่าอย่างภูมิใจ

#ครูฮีโร่ #จดหมายลาครู #กสศเปิดประตูสู่โอกาส #คืนน้องสู่ห้องเรียน