รอยยิ้มของน้องๆ กลับคืนมาอีกครั้ง หลังได้รับความช่วยเหลือจากโครงการสู้วิกฤติให้น้องอิ่ม

รอยยิ้มของน้องๆ กลับคืนมาอีกครั้ง หลังได้รับความช่วยเหลือจากโครงการสู้วิกฤติให้น้องอิ่ม

รอยยิ้มของน้องๆ นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองแขม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ กลับมาปรากฏอีกครั้งหลังได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ผ่านโครงการ #สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม ซึ่งประสานความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในสังคมลงไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 จนทำให้ต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไปยาวนานขึ้นราว 45 วัน

ผลกระทบจาก COVID-19 ได้ซ้ำเติมความยากลำบากให้ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งปกติชาวบ้านที่นี่จะมีฐานะไม่ดีนัก ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกร ปลูกข้าวโพด ถั่วลิสง ระหว่างรอผลผลิตออกในแต่ละฤดูกาลบางส่วนจะออกไปรับจ้างในเมืองหรือต่างพื้นที่บ้าง แต่เมื่อเกิดการระบาดของเชื้อ  COVID-19 ทำให้ไม่สามารถออกไปรับจ้างได้ คนที่เคยย้ายไปรับจ้างที่อื่นก็ต้องย้ายกลับมาอยู่ในพื้นที่โดยไม่มีรายได้

ด.ต.หญิง ธิดาวรรณ ชัยเมืองใจ ครู โรงเรียนตชด.บ้านหนองแขม บอกว่า  รอบแรกได้ช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษในโรงเรียน 37 คน โดยนำเงิน 600 บาท ต่อหัวที่ได้รับไปซื้ออาหาร ทั้ง ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำมันพืช ปลากระป๋อง โดยใช้วิธีเรียกผู้ปกครองมารับที่โรงเรียน ส่วนคนไหนที่ไม่ได้มารับที่โรงเรียน ครูก็จะนำของไปแจกให้ถึงบ้าน ซึ่งทั้งนักเรียนและผู้ปกครองที่ได้รับของแล้วแต่ละคนดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือ

“ปกติคนที่นี่ก็ลำบากอยู่แล้วอย่างได้ข้าวสารมาก็ช่วยทุ่นไปได้เยอะเพราะเขาปลูกข้าวโพด ปลูกถั่วลิสง ไม่ได้ปลูกข้าว ปกติถ้าลำบากก็กินน้ำพริกกับผักที่ปลูกไว้ แต่พอได้ไข่ไก่ ได้ปลากระป๋องก็ช่วยให้เขาได้สารอาหารที่มากขึ้น เป็นประโยชน์สำหรับเด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต  บางครอบครัวแต่ละเดือนไม่มีรายได้เขาต้องรอจนกว่าข้าวโพดจะออก ถึงจะเอาไปขายได้เงินการได้ความช่วยเหลือตรงนี้จึงช่วยได้มาก”

ด.ต.หญิง ธิดาวรรณ กล่าวว่า สำหรับไข่ไก่ที่จัดซื้อไปแจกนักเรียนนั้น เป็นไข่ไก่จากโครงการของทางโรงเรียนซี่งช่วงที่ผ่านมามีผลผลิตออกมาจำนวนมากเพราะเป็นช่วงปิดเทอม จากปกติที่จะนำมาประกอบอาหารให้นักเรียน ดังนั้นจึงนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งมาซื้อไข่ไก่จากโครงการไปให้นักเรียน ซี่งเงินที่ได้ก็จะใช้ไปสำหรับซื้อวัตถุดิบอาหารไก่มาเลี้ยงไก่เพื่อนำผลผลิตรอบที่ได้รอบต่อไปสำหรับจัดเลี้ยงประกอบอาหารให้นักเรียน

นอกจากนี้ ในส่วนของเงิน 300 บาท ที่ตามมารอบหลังซึ่งจัดสรรสำหรับเด็กอนุบาล มีเด็กที่ได้รับความช่วยเหลือ 11 คน โดยใช้วิธีเดียวกันคือนำไปจัดซื้อข้าวสาร ไข่ ปลากระป๋องไปแจกนักเรียน ทั้งให้ผู้ปกครองมารับที่โรงเรียนและบางส่วนนำไปแจกให้เด็กที่บ้าน ซึ่งความช่วยเหลือทั้งหมดสามารถบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี