คำขอบคุณ “คนละมือเพื่อมื้อน้อง”

คำขอบคุณ “คนละมือเพื่อมื้อน้อง”

“อยากขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือน้องเก็ท”
“เรียกว่าช่วยเหลือทุกคนในครอบครัวก็ว่าได้… ”

อรุณี เรืองวิโรจนกุล หรือ “น้าเจี๊ยบ”  บอกกับเรา ในวันที่สำนักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)  ส่งมอบเงินบริจาค เพื่อจะได้นำไปซื้อข้าวปลาอาหารในช่วงที่โรงเรียนต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปถึงวันที่ 1 ก.ค. 63 จากวิกฤตCOVID-19  

ด.ช.กฤษดา ผาสุข หรือ “น้องเก็ท” นักเรียนจากโรงเรียนบ้านหนองสลัดได จ.สุพรรณบุรี   ได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนจากโครงการ” สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง”  แม้เป็นจำนวนเงินไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ น้องเก็ทและครอบครัว ได้รับการบรรเทาเยียวยาในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าทำให้ทุกคนต้องขาดรายได้ไม่มีเงินเพียงพอต่อใช้จ่ายเลี้ยงครอบครัว

ปัจจุบัน “น้องเก็ท” อาศัยอยู่กับคุณยายภายในบ้านเช่า เนื่องจากคุณแม่เสียชีวิต และบิดาไม่ได้อยู่ด้วย  “เก็ทเป็นเด็กไม่ค่อยพูด ตั้งแต่คุณแม่จากไปสามปีแล้ว 

“น้าเจี๊ยบ”ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองดูแลน้องเก็ท แต่ส่วนใหญ่เก็ทจะอยู่กับยาย เพราะน้าต้องเดินทางไปทำงานที่จังหวัดภาคตะวันออก  แต่เมื่อเจอสถานการณ์โควิด -19  จึงได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้าน และได้ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองน้องเก็ทไปรับทุนด้วย   

“ต้องขอบคุณทุกท่านที่มอบทุนค่าอาหาร คนละมือเพื่อมื้อน้องให้กับด.ช.กฤษดา  หลังได้รับเงินก็นำไปซื้อข้าวสาร  เนื้อสัตว์ประเภท ไก่ ปลา และที่ขาดไม่ได้คือ ไข่ เพราะต้องการให้น้องเก็ดได้รับประทานเสมอ  นอกจากนี้ทางบ้านก็สอนให้เขาได้ทานผักด้วย”  

“ระยะหลังน้องเก็ททานอาหารได้เยอะขึ้น” น้าเจี๊ยบกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ยังมีนักเรียนอีกจำนวนมากที่ประสบภาวะขาดแคลนทางอาหารในช่วงที่โรงเรียนต้องเลื่อนเปิดเทอมออกไป   บางรายที่กสศ.ได้รับข้อมูล ต้องทานมื้อกลางวัน เป็น ข้าวต้มกับเกลือ  เด็กนักเรียนชั้น ป. 4 บางรายมีสภาพร่างกายผ่ายผอมตัวเล็กผิดปกติ 

ดังนั้น กสศ. ประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน ยังคงร่วมเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายจากสังคม เพื่อให้น้องๆได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาคต่อไป