ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบศธ.ว่าด้วยมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบศธ.ว่าด้วยมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2563

มีเนื้อหาระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการ ช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล เพื่อกำหนดลักษณะโรงเรียนการกุศล ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ประกอบกับการเสนอความเห็นของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตามมาตรา 13 (6 ) แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550  ในการประชุมครั้งที่ 7/2563  เมื่อวันที่ 31  กรกฎาคม 2563

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ1  ระเบียบนี้เรียกว่าระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือ นักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ. 2563 ”

ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 ให้เพิ่มความดังต่อไปนี้เป็นข้อ 14/1 ข้อ 14/2  ของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการกำหนดมาตรการช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนเอกชนเป็นเงินอุดหนุนรายบุคคล พ.ศ. 2558  “ข้อ 14/1 ภายใต้บังคับของข้อ 14 (5) และ (15) ในกรณีโรงเรียนการกุศลที่จัดการศึกษา ในลักษณะการศึกษาสงเคราะห์ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1 ) เป็นโรงเรียนที่มูลนิธิหรือสมาคมเป็นผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน และต้องมีการ ดำเนินกิจการโรงเรียนมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน

(2) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น

(3) มูลนิธิหรือสมาคม ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน ต้องมีเงินไม่น้อยกว่าเงินทุน และทรัพย์สินที่กำหนดไว้ในตราสารจัดตั้งของโรงเรียน

(4) ต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นส่วนควบของที่ดิน สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกินหรือสิทธิการเช่าที่ปลอดจากภาระผูกพัน อย่างใดอย่างหนึ่งให้แก่โรงเรียนการกุศลเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา

 (5) ต้องไม่เป็นโรงเรียนสาขาตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550  

( 6 ) ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนให้เป็นโรงเรียนการกุศล ข้อ 14/2 ในกรณีที่วัดในพระพุทธศาสนาเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนการกุศล วัดจะต้องได้รับความเห็นชอบจากมหาเถรสมาคม จึงจะได้รับเงินอุดหนุนในลักษณะการกุศล

 

 

ประกาศ ณ วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ